Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Wild Chronicles
•
ติดตาม
9 ก.ย. เวลา 03:00 • หนังสือ
ตีแผ่ความหมายของ “ไซอิ๋ว”
เมื่อปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีการออกเกมๆ หนึ่งที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก นั่นคือ เกม “Black Myth: Wukong” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับตำนานไซอิ๋วและเทพเจ้าลิง “ซุนหงอคง”
เกม “Black Myth: Wukong”
แม้ว่าจะมีกระแสเกี่ยวกับ woke เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเนื้อหาของตำนานไซอิ๋วได้เป็นที่รู้จักของชาวไทยจำนวนมากผ่านซีรีย์อยู่แล้ว รวมทั้งเป็นหนึ่งใน “4 สุดยอดวรรณกรรมจีน” ถึงขนาดชาวตะวันตกไม่น้อยก็ได้สัมผัสกับตำนานเรื่องนี้ผ่านการแปลและสื่ออื่นที่มีอยู่แล้วด้วย
4 สุดยอดวรรณกรรมจีน ประกอบด้วยสามก๊ก, วีรบุรุษเขาเหลียงซาน, ไซอิ๋ว, และความฝันในหอแดง
แก่นเนื้อหาของไซอิ๋วเป็นการทำภารกิจไปอัญเชิญพระไตรปิฏกยังชมพูทวีปโดยต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ว่าแต่ว่าเนื้อหานั้นแฝงด้วยความหมายหรือคติสอนใจอะไรบ้างหรือไม่? ในโพสต์นี้จะพาท่านมาทำความเข้าใจกับอีกแง่มุมหนึ่งของวรรณกรรมนี้กันครับ
ในเมื่อตัวละครเอกของเรื่องไซอิ๋วเป็นพระ ต้องไปอัญเชิญคัมภีร์ และมีการพาดพิงถึงพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์อย่างเจ้าแม่กวนอิม ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าวรรณกรรมเรื่องนี้จะต้องแฝงไปด้วยความหมายทางศาสนาในลักษณะคติธรรม
***ไซอิ๋ว คืออะไร?***
ไซอิ๋วนั้นเป็นนิยายจากศตวรรษที่ 16 ที่อิงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ คือ การเดินทางไปยังอนุทวีปอินเดียของพระเสวียนจั้งในศตวรรษที่ 7 เพื่ออัญเชิญพระสูตรกลับมายังจีน และยังแปลพระสูตรเป็นภาษาจีนจนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีส่วนอย่างมากต่อการเผยแผ่ศาสนาพุทธในประเทศจีน
ภาพของพระเสวียนจั้งของญี่ปุ่นสมัยคามาคุระ (ช่วงศตวรรษที่ 14)
***ความหมายของ “พระถังซัมจั๋ง”***
ในเรื่อง ตัวละครที่เป็นผู้อัญเชิญพระไตรปิฏก คือ “พระถังซัมจั๋ง” (ซึ่ง ซัมจั๋ง หรือ ซานจั้ง มีความหมายว่า ตะกร้า 3 ใบ หรือก็คือพระไตรปิฏกนั่นเอง ฉบับแปลภาษาอังกฤษบางเวอร์ชั่นยังแปลชื่อเป็น Tripitaka หรือพระไตรปิฏกตรงๆ) โดยบทบาทในเรื่องนั้นท่านมักจะเป็นผู้ถูกปีศาจล่อลวงไปหลายครั้ง จึงมีการตีความว่า พระถังซัมจั๋งเปรียบเสมือน “ศรัทธา” ที่ถูกอุปสรรคต่างๆ ทดสอบล่อลวง และภารกิจของท่านก็ประดุจการแสวงหานิพพานและการชำระตนให้บริสุทธิ์
1
เจียงหัว นักแสดงบท "พระถังซัมจั๋ง" จากไซอิ๋ว ปี 1996
***ความหมายของ “ซุนหงอคง”***
ในการเดินทางพระถังซัมจั๋ง มีสาวกติดตามไปด้วยสามคนหรือตน ตนแรกคือ ลิงวิเศษที่ชื่อว่า “ซุนหงอคง” (ซึ่ง หงอคง หรือ อู้คง แปลว่า ตื่นรู้ในความว่าง) ซุนหงอคงเป็นตัวละครที่มีอิทธิฤทธิ์มากจนเป็นที่จดจำของหลายๆ คน จึงมีการเปรียบว่าหงอคงเปรียบเสมือนปัญญาที่เป็นสิ่งที่มีอำนาจมาก แต่ถ้าไร้การควบคุมก็จะสร้างความเสียหายได้มากเช่นกัน ดังนั้นในเรื่องจึงมีมงคลมารัดหัวไว้ ซึ่งสิ่งนั้นเป็นตัวแทนของ “สติ” ที่ต้องใช้ควบคุมปัญญานั่นเอง
1
จางเหว่ยเจี้ยน นักแสดงบท "ซุนหงอคง" จากไซอิ๋ว ปี 1996
ส่วนบางแหล่งก็เปรียบว่าหงอคงเหมือนกับจิตใจ ซึ่งเป็นได้ทั้งจิตใจที่อยู่ไม่สุขต้องมีการกำกับด้วยวินัยและการปลูกฝัง หรือจะเป็นจิตใจที่พร้อมรับโอกาสใหม่ๆ และพัฒนาได้ก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้ภารกิจของหงอคงในเรื่องก็เปรียบได้กับคนที่ในช่วงแรกอาจมีการต่อต้านแข็งขืน ก่อนที่จะมีการบ่มเพาะปัญญาและความเห็นอกเห็นใจ จนกลายเป็นหลุดพ้นจากอัตตา (ego) และการยึดติด
1
***ความหมายของ “ตือโป้ยก่าย”***
สาวกตนที่สองคือ “ตือโป้ยก่าย” (หรือ จูปาเจี้ย ซึ่งแปลตรงตัวว่า ศีล 😎 ถึงแม้จะชื่อว่าศีลแต่ตัวเขาเองเดิมเป็นแม่ทัพสวรรค์แต่ครั้งหนึ่งเคยเมาแล้วไปลวนลามเทพธิดาองค์สำคัญ จึงถูกส่งมาลงโทษในโลกมนุษย์ และแม้อยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อไถ่โทษ แต่ตือโป้ยก่ายก็ยังมีกิเลสตัณหาอยู่ เรียกได้ว่าในภารกิจครั้งนี้ตือโป้ยก่ายจะต้องฝึกฝนตนเองให้ตัวเองมีคุณสมบัติเหมือนกับชื่อตัวเองก็ไม่ผิด และยังเป็นการสอนว่าศีลจำเป็นต้องได้รับการขัดเกลาอยู่เสมอไม่ให้หลุด
1
หลีเหย้าเสียง ผู้รับบท “ตือโป๊ยก่าย" จากไซอิ๋ว ปี 1996
ส่วนอีกแง่หนึ่งตือโป้ยก่ายก็อาจเปรียบได้กับร่างกายของมนุษย์และความพึงพอใจไปกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 และจำเป็นต้องมีการพัฒนาทางจิตวิญญาณเพื่อเอาชนะจุดอ่อนในจิตใจตนเองให้ได้ อย่างไรก็ตามมีบทเรียนที่น่าสนใจคือในตอนท้ายเรื่องที่พระถังซัมจั๋งและสาวกคนอื่นๆ บรรลุธรรมแล้ว แต่ตือโป้ยก่ายกลับได้เป็นเพียง “ผู้ทำความสะอาดแท่นบูชา” เท่านั้น เป็นการสอนว่าหากยังยึดติดกับทางโลกก็ไม่อาจบรรลุธรรมได้นั่นเอง
***ความหมายของ “ซัวเจ๋ง”***
และสาวกตนสุดท้ายคือ “ซัวหงอเจ๋ง” (หรือ ซัวเจ๋ง หรือ ชาอู้จิ้ง แปลว่า ทรายผู้บริสุทธิ์) อดีตเคยเป็นเทวดาที่ถูกลงโทษมาเป็นปีศาจปลาเช่นกัน มีการตีความว่าซัวเจ๋งเป็นสัญลักษณ์ของสมาธิ และยังแสดงถึงความสามารถของมนุษย์ในการกลับตัวกลับใจได้เช่นเดียวกับซัวเจ๋งที่เคยเป็นปีศาจกินคน แต่เมื่อได้ฟังธรรมะจากพระถังซัมจั๋งแล้วก็กลับใจมาช่วยทำภารกิจนี้ เช่นเดียวกับการปลดปล่อยตัวเองจากความไม่รู้ (โมหะ) และความทุกข์
1
ไม่ฉางชิง ผู้รับบท “ซัวเจ๋ง” จากไซอิ๋ว ปี 1996
เมื่อรวมกันการเดินทางของพระถังซัมจั๋งกับสาวกทั้งสามจึงมีการเปรียบว่าเหมือนการเดินทางไปสู่นิพพาน ซึ่งในการไปนั้นจะใช้เพียงศรัทธา ปัญญา ศีลหรือสมาธิอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ต้องใช้ทั้งหมดมารวมกันนั่นเอง
***ความหมายของไซอิ๋วในเต๋าและขงจื๊อ***
ในขณะเดียวกันวรรณกรรมเรื่องไซอิ๋วหากจะตีความเป็นในทางศาสนาเต๋าหรือลัทธิขงจื๊อก็พอได้เช่นกัน โดยในเรื่องไซอิ๋วจะไปพ้องกับศาสนาเต๋าโดยเฉพาะในประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณ โดยใช้กำลังภายใน (เน่ยตัน) เพื่อยกระดับไปสู่ขั้นอมตชน
นักพรตเต๋า กับวิธีปฏิบัติสมาธิเน่ยตัน
สำหรับลัทธิขงจื๊อก็อาจตีความได้ว่าเป็นความพยายามฟื้นฟูระเบียบ เช่น หงอคงไม่ใช่ตัวละครที่ชั่วร้าย แต่เป็นพวกขบถและเอาแต่ใจตัวเอง ดังนั้นจึงถูกลงโทษ แต่ในตอนที่หงอคงเดินทางไปกับพระถังซํมจั๋งนั้นหงอคงได้มามีที่ทางเหมาะสมในสังคมแล้ว หรือจากในเรื่องพระถังซัมจั๋งเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกยังแดนไกลนั้นก็ไม่ใช่เพราะท่านศรัทธาเอง แต่เป็นพระราชโองการของฮ่องเต้ที่เป็นพี่น้องร่วมสาบาน และระหว่างทางท่านคำนึงถึงภาระรับผิดชอบนี้เสมอ เท่ากับว่าเป็นการสอนผู้ใต้ปกครองให้เชื่อฟังผู้ปกครองนั่นเอง เป็นต้น
***แง่มุมที่แตกต่าง***
ขณะเดียวกันแม้แต่ความหมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาก็มีผู้ตีความไว้เช่นกัน เช่น มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่ตัวละครซุนหงอคงเด่นกว่าพระถังซัมจั๋งนั้นก็เป็นเพราะมีธีมของคนที่กล้าลุกขึ้นต่อกรกับผู้มีอำนาจนั้นเป็นธีมที่มีมาแต่โบราณและมีอยู่ในแทบทุกภาษา บวกกับผู้แต่งเองที่สอดแทรกการล้อเลียนระบบราชการของจีนที่ใหญ่โตและไร้ประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีการตีความแตกต่างกันตามยุคสมัย เช่น ในยุคเหมามีการตีความซุนหงอคงว่าเปรียบดั่งวีรบุรุษของชนชั้นกรรมาชีพในการต่อสู้กับชนชั้นศักดินาที่ล้าหลัง หรือการดัดแปลงให้ซุนหงอคงแทบจะดูเหมือนตกเป็นเหยื่อของราชสำนักสวรรค์ ต่อมาในยุคหลังการเปิดเศรษฐกิจจีนก็มีการเปลี่ยนอีก เช่น มีการเปลี่ยนในซุนหงอคงกลายมาเป็นนักรักที่กำลังมองหาตัวตนของตนเองในเวอร์ชั่นฮ่องกง เพราะในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฮ่องกงเพิ่งกลับคืนสู่การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่ใหม่ๆ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างของการตีความความหมายที่ซ่อนอยู่ของวรรณกรรมไซอิ๋วซึ่งเป็นหนึ่งในยอดวรรณกรรมของจีน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของผู้แต่งที่แฝงแนวคิดต่างๆ ที่มีอยู่ในสังคมจีนอย่างมากมายได้ เช่นเดียวกับการดัดแปลงเรื่องไซอิ๋วที่ยังมีต่อมาจนถึงปัจจุบัน แปลว่าคำสอนหลายๆ อย่างของเรื่องนี้ยังคงเป็นจริงอยู่แม้เวลาผ่านมาหลายร้อยปีแล้วก็ตาม
#TWCVariety TWC_Cheeze
4 บันทึก
7
1
3
4
7
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย