9 ก.ย. เวลา 05:35 • ไลฟ์สไตล์

#8 Skill ใหม่ ใจเต้นกรุบ

เมื่อต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ครั้งไหนที่นั่งแล้วเกิดความรู้สึกถึงความเสี่ยง เราจะชอบจินตนาการว่า ถ้าล้มไป หัวเราจะฟาดพื้น ฟาดขอบถนนไหมนะ เราเข้าใจนะ ที่เค้าต้องทำความเร็ว เพื่อเร่งรอบ ทำรอบ เพื่อที่จะได้ลูกค้ามากขึ้น เรานึกว่า ถ้าเราต้องกระโดดลงจากรถถ้ารถล้มล่ะ ส่วนไหนของร่างกายจะลง กังวลไปหมด แต่ทำไงได้ มันต้องนั่ง แถมเลือกไม่ได้ด้วย ว่าจะได้นั่งกับคนไหน ทุกเย็นที่เรากลับบ้าน เราต้องรีบลงรถไฟฟ้า รีบเดินมาเข้าคิว ปกติ อย่างน้อยแถวก็ประมาณ 10-15 คนก่อนหน้า โชคดีหน่อย ก็แค่ 5-6 คน
จนเราอายุ 30 แล้วยังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้เนี่ย ที่มาที่ไปของมันก็คือ ตอนเรากำลังเข้าวัยรุ่น แม่เราผู้ที่เป็นแม่ Fulltime ไม่ได้ทำงาน ออกจากงานมาเพื่อเลี้ยงลูกโดยเฉพาะ เลี้ยงวิธีฟูมฟักแบบแม่งูหวงไข่ กลัวลูกจะเป็นอันตราย กลัวลูกรถล้ม โดนรถชน หรือหนีออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ เลยใช้วิธี "ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ในบ้าน" จนเราอายุ 18 ก็เลยข้ามไปหัดขับรถยนต์เลย
ประสบการณ์การขับรถของเรากับเพื่อนร่วมทางก็จะแปลกๆนิดนึง เพราะเราจะอ่านใจคนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ออก เราจะคอยทิ้งห่างตลอด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุอะไร เราจะสังเกตวิธีการขับรถของพ่อและแฟน เค้าจะเว้นระยะด้านข้างให้มอเตอร์ไซค์เสมอ เว้นแบบให้เค้าไปต่อได้ แม้รถยนต์จะติด ขยับไม่ได้ "เค้าอ่านใจกันออก" เค้าทั้ง 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์ รู้ว่ารถเล็กจะทำแบบนั้นแน่ๆ ทางแยกต่างๆ มอเตอร์ไซค์หยุด หรือไม่หยุด เค้าจะมองกันออก
ในที่สุด เมื่อวานนี้ เราก็ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยตัวเอง แบบไม่มีคนควบคุมครั้งแรก หลังจากปลุกใจตัวเองมาได้อาทิตย์กว่า นึกภาพที่แฟนสอนขี่เมื่อหลายเดือนก่อน นึกถึงเวลาที่เราต้องเสียไปในช่วงเย็นในการรอคิวพี่วิน 10-20 นาที แพลนไว้ว่าจะออกช่วงเที่ยง แดดแรงๆ คนน่าจะน้อย คิดไปคิดมา เที่ยงก็ต้องคนออกไปหาข้าวทานนี่นา ปลุกใจตัวเองไปเรื่อยๆ พยายามนึกถึงความจำเป็นว่าต้องใช้ของอะไรจากร้านสะดวกซื้อไหมนะ ต้องมีสิๆ
มองเวลาบ่าย 2 ลุกขึ้น เปลี่ยนกางเกงจากขาสั้นเป็นขายาว เผื่อรถล้ม จะได้ลดทอนความเจ็บ สวมเสื้อ jacket หมวกกันน็อค ขอยังไม่ใส่แล้วกัน กลัววิสัยทัศน์ไม่เต็มที่ หยิบกุญแจรถ ออกจากบ้าน เอ๊ะ..สตาร์ท์ยังไงนะ นึกภาพที่แฟนสอน โอเค มองทางค่อยๆออกตัว มา..ความมั่นใจมา.. โอ้ว..เพื่อนร่วมทางเยอะใช้ได้ มองกระจกข้าง มีรถตามหลัง เราชะลอให้เค้าไปก่อน แต่รถยนต์ไม่ยอมไป.. ไม่แซงใช่ไหม..
โอเค งั้นเราไปแล้วนะ เท้าตบเกียร์ 3 ขี่ไปเรื่อยๆ ในเมื่อรถหลังไม่แซงก็อยู่ตรงกลางเลนเลยแล้วกัน ร้านอยู่ทางขวา เปิดไฟเลี้ยว ค่อยๆไป มองหลัง มองหน้า โอเคโล่ง เลี้ยววววว จอดได้อย่างสวยงาม ระยะทาง 800 เมตร ทำไมเรื่องราว อารมณ์มันเยอะไปหมดเลย
บิดกุญแจจะเอาออก เอ่ากรรม ปิดแรงเกิน เบาะรถกระเด้งขึ้นมา มองซ้ายมองขวา มีคนเห็นไหมน้า.. ได้แต่ตลกตัวเอง เดินยิ้มเข้าร้านสะดวกซื้อ ไลน์บอกแฟนว่า "ตอนนี้อยู่ร้านนสะดวกซื้อแล้ว" แฟนบอก "เก่งมาก" อยากจะไลน์บอกแม่เหมือนกันนะ ว่าทำได้แล้ว แต่น่าจะโดนบ่นมากกว่า ว่าอันตราย เดี๋ยวล้ม ไม่บอกแล้วกัน แฟนไลน์ถามอะไรต่อเยอะแยะ เรามือสั่น ตื่นเต้น พิมพ์กลับไปว่า "ถึงบ้านแล้วจะบอกนะ"
เดินวนว่าจะเอาของอะไรบ้าง ได้นมสดมาขวดนึง เดินไปตู้แช่น้ำ เอาอะไรดีน้า นึกไม่ออก ยังเดินไปเดินมาอยู่สักพัก ได้ของมา 2-3 อย่าง จ่ายเงินกับพนักงาน เดินกลับมาที่รถ มา..ผจญภัยอีกรอบ สตาร์ทรถ ถอยหลัง มองทางให้ดี ตั้งท่าให้มั่น ออกตัว...สร้างความมั่นใจ พร้อมกับมองกระจกข้างไปเรื่อยๆ กลัวทำคนอื่นเค้าลำบาก เปิดไฟเลี้ยว โอ้ว..ดีจัง ไม่มีรถ เลี้ยวเข้าซอย แล้วก็ถึงบ้านจนได้
เก่งมาก... skill ใหม่ นานหน่อยกว่าจะได้มา เราอยากให้ตัวเรามี skill ในชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อายุ 30 จะสามารถเพิ่ม skill อะไรได้อีกบ้างนะ ค่อยๆหาแล้วกัน ตั้งใจก็พอ เรื่องขี่มอเตอร์ไซค์นี้ยังต้องฝึกฝนอีกหน่อย วันนี้มาทำงาน ก็ยังไม่พร้อม ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกัน อย่างน้อยก็ได้เริ่มแล้ว "เก่งมาก" บอกตัวเอง "เก่งมาก" ค่อยว่ากันใหม่นะ
โฆษณา