9 ก.ย. เวลา 04:31 • ความคิดเห็น
จะกล่าวโดยสรุปอย่างนั้นก็ไม่ถูกเรื่องนะคะ และที่สำคัญ มันอาจจะทำให้เรา "โง่" ในการทำความเข้าใจโลกค่ะ คือมันจะมีวลีที่พวกเรามักใช้พูดกันคือ "ความลับไม่มีในโลก" และฝรั่งมังค่า เขาก็มีวลีว่า "walls have ears" ซึ่งเป็นวลีที่ใช้กันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เป็นยุคข้าศึกศัตรู พันธมิตรอักษะ อักขระอะไรนั่น! จะพูดอะไรก็ให้ระวังความลับไหลรั่วอะไรทำนองนั้นค่ะ
คุณเคยได้ฟังวลีคุณสนธิฯ ที่แกพูดบ่อยๆ ไหมคะ "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" เราสงสัยว่า แกก็คงจะดูการ์ตูนโคนันบ่อยเหมือนพวกเรา แต่เราก็ยังแอบสงสัยอยู่จนทุกวันนี้ว่า ความจริงหนึ่งเดียวที่ว่า มันคือความจริงจากการรับรู้และมุมมองของใคร?
1
ปริศนาต่างๆ มีเยอะแยะไปหมด ปริศนาบางอย่าง แค่ชวนให้คิดให้ตั้งคำถาม จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำไร่ไถนาทำมาหากิน ปริศนาบางอย่าง รังแต่จะทำให้เกิดความแตกแยกถกเถียงกันไปมาไม่เลิกไม่รา ในขณะที่ปริศนาอีกหลายอย่าง หาจุดจบไม่ได้ เพราะหากยิ่งสาวไส้ มันจะยาวมากๆๆๆ จนในที่สุดในช่องท้องของคุณ ก็อาจไม่มีลำไส้เอาไว้สำหรับส่งผ่านอุจจาระ เมื่อคุณไม่ได้ขับถ่ายอุจจาระ ก็ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น! (ว่าไปแล้ว วรรคนี้เราก็พูดในเชิงทิ้งปริศนาให้คุณงงวยไปอีกนั่นแหละ)
เรายกตัวอย่างปริศนาเบาๆ เรื่องนี้ดีกว่า มีการตั้งคำถามจากนักประวัติศาสตร์ว่า ตกลงแล้วรัชกาลที่ 5 ทรงมีความรักอย่างแท้จริงในองค์พระชายาดารารัศมีหรือไม่ หรือพระชายาเป็นเพียงองค์ประกันในทางการเมืองเพื่อการรวบรวมแผ่นดิน สิ่งที่นักประวัติศาสตร์ตั้งข้อสังเกตก็คือ พระชายาสวรรคตโดยมีเพียงสิ่งสำคัญข้างกาย 2 อย่าง ที่พระองค์เก็บไว้อย่างดีคือ กระดูกนิ้วมือพระธิดาที่สิ้นพระชนม์ และจดหมายจากพระบิดาที่แสดงความอาลัยรัก และรวมถึงพระยศที่ต่ำเตี้ยของพระธิดาและพระชายา
ตัวอย่าง ปริศนาวรรคสุดท้ายบอกกับเราว่า
การเรียนรู้และการตั้งคำถามนั้นไม่ผิด
แต่มันจะผิดมากถ้าหากว่าคุณหมกมุ่น
ในเรื่องที่หาบทสรุปไม่ได้
.............
เราถามคุณกลับว่า คุณคิดว่าแฟนคุณรักคุณจริงไหม?
ปริศนานี้ บทสรุปอยู่ตรงไหนคะ?
1
โฆษณา