10 ก.ย. เวลา 23:09 • หนังสือ

EP.22 ไม่มีเงินจ่าย รอขึ้นศาล? ดีไหม!!

เคสปรึกษา ให้โจทย์มา
มี 2 บัตร แสนกว่าบาท
ข้อมูลเก่า คือ ได้ยินมาว่า
"ให้เขาฟ้องแล้วรอขึ้นศาล
ไปยอมความ หนี้อาจจะลด"
ข้อมูลอ้างอิง คือ ได้ยินมาว่าแบบนั้น
ฉันได้ตบหน้าผากตัวเองไปทีหนึ่ง
"แค่ได้ยินมา ก็เชื่อแล้วหรอ"
"เชื่อง่ายแบบนี้ คือ คุณกำลังมักง่าย"
"อยากได้ทางที่ง่ายที่สุด"
"ง่ายที่สุดคือ ไม่ต้องรับผิดชอบ"
ฉันเตือนสติ ให้กลับมาตั้งไข่ใหม่
ปรับชุดความคิด
 
ฉันถาม
"อยากมีชีวิตแบบเชิดหน้าชูตาไหม"
"ดังนั้น ยืดอก รับสาย และ เจรจา"
ฉันแนะนำ
ฉันได้สร้างสถาณการณ์จำลองขึ้นมา
"ฮัลโหล คุณไอรี่ ใช่ไหมคะ"
"งวดที่ผ่านคุณยังไม่ได้ชำระเข้ามานะคะ"
"ที่ยอด 32440 บาท"
"ยอดจ่ายขั้นต่ำอยู่ที่ 2822 บาท"
"สะดวกชำระเข้ามาอีกที เมื่อไหร่คะ"
"คือ ตอนนี้...(พูดไม่ออก)
(เค้ารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่า ไม่มีจ่าย)
(ถึงสถานการณ์นี้ เขากาหัวไว้แล้วว่าจะไม่จ่าย)
แค่นี้ก็เห็นภาพแล้วไหม
ว่าถ้าคุณโทรหาเจ้าหนี้ก่อน
คุณจะมีภาษี เครดิต ที่จะคุยมากกว่า
เจ้าหนี้โทรมาทวง จริงไหม?
และถ้าตอบแบบนี้ละ
"ถ้ามีก็จ่ายไปแล้ว"
น้ำเสียงมั่นใจว่า มีก็จ่ายไปแล้ว
กับอีกแบบละ
"ค่ะ ทราบดีว่ายังไม่ได้ชำระงวดที่แล้ว"
น้ำเสียงยอมรับผิด
แบบไหนน่าคบ น่าคุย น่าให้อภัยมากกว่ากัน
จริงที่ ยังไงเราต้องจ่าย
แต่หากเจรจา แบบให้เขาประนอมหนี้ให้เราละ
ดีกว่าไหม?
การประนอมหนี้ หรือ ปรับการจ่ายหนี้
หากคุณเองเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากได้เงินคืนใช่ไหมคะ
คุณจะมีแค่ทางเดียวไหม ที่จะบังคับให้ลูกหนี้จ่ายหนี้
เท่านั้นไหม?
ฉันได้ยกตัวอย่างแนวทางคำพูด
"มีแนวทางหรือคำแนะนำอะไรบ้างไหมที่พอจะช่วยพี่ได้"
"พี่มีหลายบัตร ตอนนี้ปิดบัตรไปเลยได้ไหม และขอจ่ายต่ำๆ"
"ขอยืดระยะเวลาเป็น 36เดือน หรือ 48เดือน ได้ไหม"
"ซึ่งตอนนี้พี่เหลือ 20 เดือน พี่ขอยืดเวลา ให้จ่ายต่ำๆ ได้ไหม"
ฉันได้หาตัวอย่างต่างๆ ให้กับเคสนี้
มีกี่ใบ ให้คุณเจรจา แบบนี้
ได้ หรือ ไม่ได้ ค่อยว่ากัน
ไม่มีใครอยากเก็บน้ำเสียไว้หรอก
ต้องมีทางระบายน้ำเสียบ้างละ
แต่แน่นอน ผู้ให้บริการบัตร เขาทำธุรกิจ
ดอกเบี้ยเดินต่อแน่นอน
ถึงแม้คุณจะเจรจาหรือไม่เจรจา
หาก ทางผู้ให้บริการ ตอบ "ไม่ได้"
คุณทำยังไงต่อ "ไม่เป็นไรค่ะ"
ตอบแบบดีๆ และวางสาย
และกลับมาทบทวนตัวเองว่า
แม้ว่าตอนนี้คุณจ่ายไม่ไหว
ผิดพลาดบางเดือน
ให้คุณเข้าไปติดต่อทางธนาคารผู้ให้บริการโดยตรง
ว่าเราสามารถขอสินเชื่ออะไรได้บ้าง เพื่อมาปิดหนี้
คือ จริงๆ เราไม่ควรย้ายหนี้ ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายนะคะ
แต่ในเคสนี้ ทางผู้ให้บริการบัตร เขาให้เราไม่ได้
อันนี้เราสมมุติว่าไม่ได้นะคะ
ในบทความ EP. ถัดไป
เราจะยกตัวอย่างในเคส ที่ ผู้ให้บริการบัตรให้เราได้
หากเคส ที่ผู้ให้บริการไม่สามารถปรับลดให้เราได้
เราควรเดินหน้าต่อ หาทางให้ดอกเบี้ยลดลง
โดยการย้ายหนี้ จากดอกเบี้ยสูง ไปเอาดอกเบี้ยต่ำมาจ่าย
แนะนำให้ติดต่อกับธนาคารเดียวกับผู้ให้บริการบัตรนะคะ
จะคุยกันง่ายกว่าคนละธนาคาร
พยายามดูซะหน่อย
ไม่ต้องนั่งคิดเอง เออเอง
ว่าเรา ไม่น่าจะกู้ได้
หากกู้ไม่ได้อีก
ผ่านไป 30วัน ไม่จ่าย
ผ่านไป 60วัน ไม่จ่าย
ผ่านไป 90วัน ไม่จ่าย เป็นหนี้เสีย
เข้าไปคุยกับคลินิคแก้หนี้
เห็นไหมว่า มีทางออก
มีทางระบายน้ำเสียจนได้แหละ
แต่ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นน้ำเสียอีกละ
การติดต่อคลินิคแก้หนี้
เราทำเสร็จ ทำจบก่อนได้เลย
ไม่ต้องรอให้ใครมาเตือน โอเคไหม
สรุปบทความใน EP.22
อยากภูมิใจในตัวเอง--อยากหมดหนี้
รับสาย--เจรจา
ยืนยันต้องการจ่ายหนี้--ขอจ่ายต่ำๆ
หากทางแยกนี้มาถึง
ได้ หรือ ไม่ได้
ได้ -- ให้คุณลองพิจารณาว่า เหมาะกับคุณไหม
ไม่ได้--ให้ขอบคุณและวางสาย
ในเคสได้--ควรเปรียบเทียบกับการรีไฟแนนซ์บัตรด้วย
ในเคสไม่ได้
ให้รอ 90 วันให้เป็นหนี้เสีย--แนะนำให้ปรึกษาคลินิคแก้หนี้
ใน EP.ถัดไป จะยกตัวอย่าง ในเคสที่ผู้ให้บริการบัตรนั้น
มีแนวทางการปรับลดยอดให้ได้ คุ้มค่าหรือไหม จะเล่าให้ฟัง
ใน EP.23 ทางเลือกที่คุณควรทำ เมื่อจ่ายหนี้บัตรไม่ไหว
โปรดติดตาม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา