9 ก.ย. เวลา 14:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หนี้: สื่อกลางข้ามกาลเวลา

เนื่องในโอกาสที่ ธปท. จะจัดงาน BOT Symposium 2024 ในหัวข้อ “หนี้” The Economics of Balancing Today and Tomorrow ในวันที่ 20 กันยายนนี้ ผมจึงได้เขียนบทความบางส่วนที่ตีความหัวข้อดังกล่าว ในมุมของผมเอง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านครับ
สำหรับหลายๆ ท่าน เวลาพูดถึงคำว่า “หนี้” อาจจะนึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี และเชื่อคำพระที่ว่า “อานณฺยปรมา ลาภา การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ" แถมยังเพิ่งมีข่าวทั้ง “สมภารนักบิด(เบี้ยวหนี้ 10 ล้าน)” และข่าว “พระเจ้า(หนี้) ที่ปล่อยกู้ในสมุทรปราการ“
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ในสภาพความเป็นจริง เราจะพบว่า “หนี้” ดูเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยด้วยเหตุหลายๆ ข้อ แต่ในตอนแรกนี้ เราจะมาคุยกันในเรื่องที่ว่า “หนี้” เป็นสื่อกลาง(ทางเลือก)ข้ามกาลเวลา ที่ภาษานักเศรษษฐศาสตร์เลือกใช้คำภาษาอังกฤษว่า intertemporal choice ที่เน้นว่ามันเป็นทางเลือก ซึ่งเดี๋ยวเราจะเก็บไว้คุยตอนหน้า
“หนี้” คือ การยืม “ผลิตภาพ” ในอนาคต มาใช้ในปัจจุบัน
สมัยตอนผมเริ่มทำงานใหม่ๆ พี่เตา บรรยง พงษ์พานิช ได้เคยบอกว่า “หนี้” คือ การยืม “ผลิตภาพ” ในอนาคต มาใช้ในปัจจุบัน ใครที่มั่นใจว่า ตัวเองมีศักยภาพในการสร้างผลิตภาพในอนาคต ก็สามารถที่จะยืมเงินมาใช้บริโภคล่วงหน้า โดยไม่ต้องรอให้ออมให้ครบก่อน
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคงจะหนีไม่พ้นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพราะที่อยู่อาศัยทั้งมีราคาสูง ราคามีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แถมยังเป็นสินทรัพย์จำเป็นที่ใช้งานได้อีกด้วย ถ้าคนทั่วไปที่ไม่ได้มีเงินพอที่จะซื้อ แล้วไปรอจนมีเงินพอ ก็อาจจะต้องเช่าอยู่ไปก่อน และกว่าจะซื้อได้ ราคาบ้านก็อาจจะขึ้นสูงกว่าเดิมไปมาก จนซื้อไม่ไหวอยู่ดี
“หนี้” คือ การโอนสภาพคล่องข้ามเวลา
คนส่วนใหญ่ในอดีตมักจะเริ่มงานด้วยเงินเดือนที่น้อย เพราะยังขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ เมื่อทำงานมากขึ้น นานขึ้น ก็มักจะมีรายได้มากขึ้นตามความรู้ และประสบการณ์ทำงาน ในอนาคต จึงมีโอกาสที่จะมีเงินเหลือเก็บที่จะใช้ผ่อนหนี้ในอนาคตมากขึ้นอีกด้วย
การกู้ยืมจึงเป็นเหมือนการเอาสภาพคล่องที่มากในอนาคตมาเสริมสภาพคล่องในปัจจุบัน ทำให้มีความสามารถในการใช้จ่ายมากขึ้น
“หนี้” เป็นเครื่องทดเกียร์ข้ามเวลา
หลายๆ คนอาจจะนึกไม่ออก แต่คนในวงการการเงินจะรู้จักคำว่า leverage เป็นอย่างดี การที่เรากู้ยืมเงินมาลงทุน หรือใช้จ่ายอะไรที่มีผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เราจ่ายไป เป็นเหมือนเกียร์ที่ทำให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยใช้เงินเท่าเดิม แต่มีความสามารถในการลงทุนได้มากขึ้น ยิ่งถ้ารวมผลประโยชน์ทางภาษีด้วย ก็ยิ่งทำให้ผลตอบแทนมากขึ้นไปอีก
ฟังๆ ดู “หนี้” ในมิตินี้ ฟังแล้วดูดีไปหมด แต่ไว้ตอนต่อๆ ไป เราจะมาเรียนรู้ข้อแย่ของมันในมุมของอัตราดอกเบี้ยบ้าง ว่าทำไมบางครั้งมันก็แย่เหมือนกัน
โฆษณา