10 ก.ย. เวลา 04:53 • การตลาด

ลดกระหน่ำ..ย่ำยีหัวใจ "

10 กันยายน 2567
ข่าวรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหลายค่ายลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ แบบที่ว่าไม่ต้องรอซัมเมอร์เพราะพี่จีนอยากจะลดราคาก็จัดเต็ม แบบว่าย่ำยีหัวใจคนซื้อรถไปก่อนหน้านั้นแบบไม่เกรงใจเรย ปรากฏการณ์นี้ก็มีข้อน่าชวนคิดว่า
ที่ผ่านมามันฟาดกำไรไปเพียบเรยดิ เพราะขนาดลดเยอะขนาดนี้ก็ยังมีกำไรนี่น่า ?? หรือค่ายรถจีนมีแผนอย่างไร ถ้าจะว่าไปตอนนี้ก็ครองส่วนแบ่งตลาดรถอีวีในไทยไปถึง 85% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมในปี 2566 โดยที่ปี 2565 มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 78% ก็เลยสงสัยว่าลดราคาไปทำไมกัน
โดยในปี 2566 ถือเป็นปีที่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 76,314 คัน เมื่อเทียบปี 2022 อยู่ที่ 9,729 คัน เติบโตถึง 684 % แล้วจะลดราคาไปทำไม ..หว่า ?????
ซึ่งจากข่าวที่ว่า ทำไม BYD ถึงลดราคาหลักแสนบาท พอจะสรุปได้เป็นสามประเด็นหลักดังนี้
1.แบตเตอรี่มีราคาถูกลง
เพราะก่อนหน้านั้นก็ได้มีการปรับราคาแบตเตอรี่ลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะว่ากำลังผลิตในประเทศจีนมันล้นตลาด ประกอบกับภูมิทัศน์ของราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังมีเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในด้านการผลิตในแต่ละภูมิภาค รายงาน "Global EV Outlook 2024" ของหน่วยงานพลังงานสากล (IEA) นำเสนอการวิเคราะห์อย่างละเอียด
โดยเน้นถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ต้นทุนของแบตเตอรี่ EV ลดลง แนวโน้มและนวัตกรรมล่าสุดกำลังทำให้แบตเตอรี่ EV มีราคาที่จับต้องได้มากขึ้น รวมทั้งข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลก การเข้าใจศาสตร์ของราคานี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ราคาปรับลดลงอย่างมาก ( CR : www.batterytechonline.com )
2.ต้องการรักษายอดขาย
การแข่งขันอย่างสูงของรถยนต์ไฟฟ้าเนื่องมากจากมีผู้เล่นในตลาดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจำนวนผู้ผลิตมีมากกว่ารถยนต์สันดาปอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ในประเทศจีนมีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 200 บริษัท แต่ที่ออกสู่ระดับโลกมีถึง 15 บริษัท และรถขนาดเล็กมีราคา 4-5 แสน ทำให้ชนชั้นกลางสามารถมีรถยนต์ขับได้ ก็อนุมานว่าคงอยากครองส่วนแบ่งตลาดไว้ก่อน ไม่ให้ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาเบียดได้ในขณะที่ตลาดกำลังเติบโตอย่างมาก
หรือพูดง่ายๆว่าลดให้คนใหม่ชักไม่อยากเข้ามาเพราะต้องระยะแรกต้องลงทุนสูงมากๆ แถมยังไม่รู้ว่าจะขายได้เท่าใด คือยอมขาดทุน (กำไร) ตอนนี้เพื่อกำไรในระยะยาวนั่นเอง โดยลดไปถึง 1.6 แสนบาทสำหรับรุ่น Dolphin
3. การเปิดโรงงานในประเทศไทย
เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นคือในเดือน กรกฏาคม 2567 ทาง BYD จะเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย แน่นอนว่าต้องเป็นรุ่นยอดนิยม Dolphin ก็เพื่อที่จะให้คุ้มค่ากับการลงทุนในครั้งนี้ เพราะการขายเพิ่มขึ้นจะช่วยทำให้มาเฉลี่ยต้นทุนคงที่ได้นั่นเอง แต่นี่คงเป็นเหตุผลสุดท้าย เพราะสองเหตุผลแรกน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าครับ
แล้วมีวิธีอื่นๆในการลดราคาแบบไม่ให้เสียความรู้สึกหรือไม่ ?? แน่นอนครับมันมีวิธีการแบบเนียนๆๆ เช่น
แถมประกัน 3 ปี โดยสมมุติฐานที่ ค่าเบี้ยประกันปีละ 50,000 บาท ก็เท่ากับราคารถยนต์ที่ลดราคาลงไป 150,000 บาทนั่นเอง
หรือ แถมทริปไปยุโรป 2 คน หรืออะไรก็ได้ในมุลค่าใกล้เคียงกับที่จะลดราคา แล้วในเวลาต่อๆมาก็ค่อยๆลดราคาลง ปีละ 3-5 หมื่อนบาท เท่านี้ก็จะรักษาความรู้สึกของลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้าได้เป็นอย่างดี ???....... แค่นี้ก็คิดไม่ออก .....เชอะ ดีนะว่าไม่ได้ซื้อ อิอิ
โฆษณา