Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Money and Banking Channel
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
11 ก.ย. 2024 เวลา 08:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ
โพลหลังดีเบตครั้งแรก ชี้ แฮร์ริส ขึ้นนำเหนือ ทรัมป์ ชี้ฮุกหมัดเด็ดปมภาษี!
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การดีเบตครั้งแรกระหว่าง 2 ผู้ท้าชิงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2567 ระหว่าง นางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดยทั้งสองมุ่งเน้นไปประเด็นเศรษฐกิจ และโจมตีกันในประเด็นผู้อพยพ ภาษี และการรักษาพยาบาล
1
แฮร์ริสยกประเด็นความสำคัญในการยกระดับชีวิตชนชั้นกลางและคนวัยทำงานของอเมริกา และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาราคาสินค้าและต้นทุนสูงซึ่งส่งผลกระทบต่อครัวเรือนสหรัฐอย่างหนัก และเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของคณะบริหารของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และเป็นจุดอ่อนในหารหาเสียงของเธอด้วย เพราะประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งยังคงกังขาต่อความสามารถของนางแฮร์ริสในประเด็นนี้
ด้านโดนัลด์ทรัมป์ได้ไม่ได้หยิบยกนโยบายมาพูดโดยตรง แต่มุ่งเน้นไปที่การวิพากษ์วิจารณ์นางแฮร์ริสแทนในทุก ๆ ประเด็น รวมถึงเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องภายใต้การบริหารของนายไบเดน และทรัมป์ ชี้ว่าเป็นหายนะสำหรับประชาชนอเมริกัน
ในด้านภาษี นางแฮร์ริสโจมตีเป้าหมายของนายทรัมป์ในการขึ้นภาษีศุลกากรอัตราสูง 10% ถึง 20% กับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด และกล่าวถึงข้อเสนอด้านภาษีของเธอที่เอื้อต่อชนชั้นกลาง และธุรกิจขนาดเล็ก ขณะที่ภาษีของนายทรัมป์จะบ่อนทำลายครัวเรือน และก่อให้เกิดการขาดดุลการค้าครั้งใหญ่
ขณะที่นายทรัมป์ปกป้องนโยบายภาษีศุลกากรของเขา และชี้ว่าเคยตั้งมาแล้ว แต่ไม่มีปัญหาเงินเฟ้อที่ร้ายแรงเช่นนี้ โดยนายทรัมป์จะตั้งภาษีสินค้าจีนเพิ่ม 60% ถึง 100% ซึ่งจะยกระดับสงครามการค้าให้รุนแรงยิ่งขึ้น และประเทศอื่น ๆ ที่เอาเปรียบสหรัฐ จะต้องจ่ายเงินคืนให้กับสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐทำเพื่อโลกมาตลอด 75 ปี พร้อมเสริมว่ารัฐบาลสมัยของเขาเก็บเงินจากจีนได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
1
นอกจากนี้ ทั้งสองยังดีเบตกันในประเด็นการทำแท้ง สงครามในกาซา ประเด็นรัสเซียและยูเครน และเรื่องอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นการโจมตีกันและกัน
หลังการดีเบตจบลง ส่วนใหญ่มองว่านางแฮร์ริสได้เปรียบจากการดีเบตครั้งนี้ โดยจากโพลคะแนนนิยมจากเว็บไซต์พนัน PredictIt หลังการดีเบต พบว่า นางแฮร์ริสมีคะแนนนิยมพุ่งขึ้นเป็น 56% ขณะที่นายทรัมป์ตามอยู่ที่ 48%
ด้านโพลสำรวจความนิยมใน Swing State 7 รัฐ หลังการดีเบตโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส พบว่าทั้ง 2 มีคะแนนที่ค่อนข้างสูสีกัน แต่นางแฮร์ริสมีคะแนนนำเหนือกว่าใน 3 รัฐ คือ วิสคอนซิน มิชิแกนและนอร์ทแคโรไลนา ส่วนนายทรัมป์มีคะแนนนำอยู่เพียงรัฐเดียวคือ จอร์เจีย และทั้งสองเสมอกันใน 3 รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย เนวาดา และแอริโซนา
อ่านเพิ่มเติม :
https://moneyandbanking.co.th/2024/128903/
บันทึก
7
2
7
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย