Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ติดอดีต: เรื่องเล่าและไลฟ์สไตล์
•
ติดตาม
12 ก.ย. เวลา 16:09 • ประวัติศาสตร์
EP 28 Melodic Memories: มะเมียะ บทเพลงรักที่พ่ายแพ้ต่อขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม
ความรักที่บังเกิดท่ามกลางความแตกต่าง
เรื่องราวของมะเมียะและเจ้าศุขเกษม เป็นหนึ่งในตำนานความรักที่โด่งดังของเชียงใหม่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เจ้าศุขเกษม ทายาทของเจ้าเมืองเชียงใหม่ ได้พบรักกับหญิงสาวชาวพม่า นามว่า "มะเมียะ" ขณะที่ศึกษาอยู่ในมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
ความรักระหว่างทั้งสองเบ่งบานท่ามกลางความแตกต่างทางวัฒนธรรม มะเมียะเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนและความรักที่บริสุทธิ์ เธอตัดสินใจเดินทางกลับเชียงใหม่พร้อมเจ้าศุขเกษมด้วยความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่การกลับมาครั้งนั้นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งและอุปสรรคที่ทำให้ความรักของพวกเขาต้องจบลงอย่างเจ็บปวด
การเผชิญหน้ากับอุปสรรคทางวัฒนธรรมและครอบครัว
เมื่อมะเมียะและเจ้าศุขเกษมกลับมาถึงเชียงใหม่ พวกเขาเจอปัญหาจากทั้งครอบครัวและสังคม เจ้าแม่ของเจ้าศุขเกษม ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในครอบครัว ไม่ยอมรับมะเมียะเพราะเธอเป็นคนต่างชาติและฐานะทางสังคมที่ไม่เท่าเทียมกับครอบครัวเจ้าศุขเกษม
การแต่งงานกับหญิงต่างชาติเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในสังคมชั้นสูงของเชียงใหม่ในเวลานั้น การที่เจ้าศุขเกษมเป็นทายาทผู้สืบทอดตำแหน่ง ทำให้ครอบครัวต้องการให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่มีสถานะเทียบเท่ากันเพื่อรักษาเกียรติยศของตระกูล ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากครอบครัวและวัฒนธรรม ทำให้พวกเขาถูกบีบคั้นจนต้องแยกจากกันในที่สุด
บทเพลง "มะเมียะ"
บทเพลงนี้ได้รับความนิยมถูกแต่งและขับร้องโดย จรัล มโนเพ็ชร นักดนตรีพื้นบ้านชาวล้านนาที่มีชื่อเสียงในช่วงปี 2520 โดยเป็นหนึ่งในบทเพลงที่เล่าถึงความรักอันโศกเศร้าระหว่างเจ้าศุขเกษมและมะเมียะ นอกจากนี้ สุนทรี เวชานนท์ นักร้องชื่อดังอีกคนหนึ่งของล้านนา ก็ได้ขับร้องบทเพลงนี้ร่วมกัน ทำให้เพลง "มะเมียะ" กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
มะเมี๊ยะตรอมใจ๋
อาลัยขื่นขม
ถวายบังคมทูลลา
สยายผมลง
เจ๊ดบาทบาทา
ขอลาไปก่อนแล้วจ้าดนี้
จรัล มโนเพ็ชร
เรามาแปลไปด้วยกันในแต่ละท่อน
"มะเมี๊ยะ ตรอมใจ๋ อาลัย ขื่น ขม"
มะเมียะนั้นตรอมตรมใจ รู้สึกเศร้าโศกและอาลัยอย่างมาก ความรักของเธอถูกกีดกัน ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจ ความรู้สึกของการพลัดพรากทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง
"ถวาย บังคม ทูล ลา"
มะเมียะก้มกราบลาเจ้าศุขเกษมด้วยความเคารพ คล้ายกับการถวายบังคม เป็นการแสดงความอ่อนน้อมที่แสดงถึงความรัก ความภักดี และความนับถือที่มีต่อคนรักอย่างลึกซึ้ง
"สยาย ผมลง เจ๊ดบาท บา ทา"
เธอสยายผมลงและก้มกราบแทบเท้าเจ้าศุขเกษม (การ “เจ็ดบาท” หมายถึงการกราบลงแทบเท้า) นี่เป็นการกระทำที่แสดงถึงความรักและการอุทิศตน เธอทุ่มเททุกอย่างเพื่อคนรัก แม้ในยามที่ต้องลาจาก
"ขอลา ไปก่อน แล้วจ้าดนี้"
มะเมียะกล่าวลาจากเจ้าศุขเกษมอย่างเจ็บปวด นี่เป็นการลาครั้งสุดท้ายในชีวิตนี้ คำว่า "แล้วจ้าดนี้" สื่อถึงการยอมรับชะตากรรมว่าชาตินี้คงไม่ได้พบกันอีกแล้ว เธอได้ตัดสินใจที่จะกลับบ้านเกิดของตนเองที่พม่า
บทเพลงนี้จึงสะท้อนความเสียสละและความรักที่ยิ่งใหญ่ของมะเมียะ ซึ่งพร้อมจะยอมรับชะตากรรมของการจากลาคนรัก
บทเรียนและการสะท้อนผ่านมุมมองปัจจุบัน
ในมุมมองปัจจุบัน เรื่องราวของมะเมียะและเจ้าศุขเกษมสะท้อนให้เห็นถึงการขัดแย้งระหว่างหัวใจและข้อจำกัดทางวัฒนธรรมในอดีต การกดดันให้คนรุ่นนั้นทำตามกฎเกณฑ์ทางสังคมและสถานะ ทำให้ความรักแท้ถูกกีดขวาง
นักประวัติศาสตร์มองว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันของชนชั้นและการขาดเสรีภาพในการเลือกคู่ครองในอดีต บทเรียนจากเรื่องราวนี้เป็นการเตือนใจให้เราในยุคปัจจุบันตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถตัดสินใจเรื่องความรักได้โดยปราศจากข้อจำกัดจากสังคม
เรื่องราวของมะเมียะไม่เพียงแต่เป็นตำนานความรักที่ถูกขัดขวางโดยวัฒนธรรมและชนชั้น แต่ยังเป็นบทเรียนให้เห็นถึงความจำเป็นในการสร้างสังคมที่ยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย เพื่อไม่ให้ความรักต้องถูกทำลายเพราะข้อจำกัดที่ไม่เป็นธรรมจากอำนาจทางสังคมอีกต่อไป
บทความอ้างอิง:
●
ปัญญา พิทักษ์สุข, ตำนานความรักมะเมียะกับเจ้าศุขเกษม, สำนักพิมพ์ล้านนา, 2530.
●
สุชาติ สวัสดิ์ศรี, ประวัติศาสตร์ล้านนาและความรักที่ถูกขวางกั้น, สมาคมประวัติศาสตร์ไทย, 2545.
●
บทสัมภาษณ์ ครูบาแก้ว นิรันดร์ เกี่ยวกับการแต่งเพลงมะเมียะ, ใน ดนตรีล้านนา, 2540.
เรื่องเล่า
เพลง
พม่า
บันทึก
2
2
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย