13 ก.ย. เวลา 12:06 • ไลฟ์สไตล์

ชีวิตพลิกจากนักดนตรี เป็นตำรวจแต่ไม่เคยทิ้งความฝัน

เพราะชีวิตจริงไม่เหมือนความฝัน “หมู่จ๊อบ” นักดนตรีที่ต้องกลายมาเป็นตำรวจ
เสียงแซกโซโฟนจากชายหนุ่มถูกขับกล่อมขึ้นมาพร้อมกับ Backing Track บรรเลงคลอตามทำนอง เขาเป็นศิลปินเดี่ยวบนเวทีที่มีจุดขายชัดเจนคือสร้างความคลาสสิคจากเสียงของแซกโซโฟนให้ลูกค้าในร้านอาหารได้ดื่มดื่มกับบรรยากาศสบายๆ
ในเวลาราชการเขาคือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์หนุ่มไฟแรง แต่เมื่อยามราตรีคืบคลานเข้ามาเขาเป็นนักดนตรีอาชีพที่หลงใหลในเสียงเพลงอย่างสุดหัวใจ
“หมู่จ๊อบ” ส.ต.ต.อนุพงศ์ ใจทน ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บ้านเสด็จ จ.ลำปาง เด็กหนุ่มจากเมืองภูกามยาวมีภูมิลำเนาอยู่ใกล้กับกว๊านพะเยา เติบโตขึ้นมาในครอบครัวนักดนตรี มีคุณปู่เป็นศิลปินพื้นบ้านสะล้อซอซึง ผู้ซึ่งถ่ายทอดวิชาต่อมาให้กับพ่อจนเชี่ยวชาญทั้งซึงและคีย์บอร์ด
“ผมเห็นการเล่นดนตรีเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กคุ้นเคยกับมัน อยากจะเล่นให้ได้อย่างคุณปู่และพ่อ อาศัยให้พ่อสอนจนคลุกคลีกับเครื่องดนตรีมาตั้งแต่เด็ก” หมู่จ๊อบ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นคนที่มีดนตรีในหัวใจ
หมู่จ๊อบบอกอีกว่าเมื่อเห็นใครเล่นเครื่องดนตรีชนิดไหน เขาก็เกิดความอยากจะเล่นให้ได้เช่นกัน จนทำให้เรียนรู้ในศาสตร์เครื่องดนตรีหลากหลายและกลายเป็นคนที่เล่นดนตรีได้ทุกชนิด โดยหลักๆที่เริ่มเล่นมาตั้งแต่เด็กจนถนัด ได้แก่ ซอ กลองชุด กีตาร์ เปียโน เบส และ แซกโซโฟน เป็นต้น
“คาแร็กเตอร์ของเครื่องดนตรีแต่ละชนิดมันมีความเพราะของมัน เริ่มจากที่ผมเห็นคนอื่นเขาเล่นก่อน ผมก็สนใจอยากเล่นให้ได้เหมือนที่คนอื่นเล่น”
ซึ่งนายตำรวจหนุ่มยอมรับว่ากว่าจะเล่นเครื่องดนตรีแต่ละชนิดจนเป็นนั้นค่อนข้างยากและต้องใช้เวลาฝึกฝน นอกจากความชอบกับพรสวรรค์แล้ว หมู่จ๊อบยังมีพรแสวงพยายามเรียนรู้ทักษะการเล่นดนตรีหลากหลาย โดยแนวดนตรีที่นายตำรวจศิลปินหนุ่มสนใจเป็นพิเศษคือ “Jazz”
“ตอนเด็กๆผมฝันอยากเป็นนักดนตรีอย่างเดียวเลย มีพ่อและคุณปู่เป็นไอดอล อยากเป็นนักดนตรีอาชีพ คิดไปไกลว่าจะออกอัลบั้มด้วย ฝันอยากเป็นศิลปิน เห็นคนออกอัลบั้มแล้วมันเท่ นักดนตรีที่ผมชอบมีหลายคนเพราะผมฟังดนตรีหลากหลายไม่ได้ชอบใครเฉพาะเจาะจง แต่ถ้าเป็นนักแซกโซโฟนผมชอบพี่โก้ มิสเตอร์แซกแมนเป็นไอดอลในการเป่าแซก ผมจะฟังพี่โก้ส่วนใหญ่เอาแนวคิดของแกมาปรับใช้ ดูที่เขาสอนในยูทูป” ศิลปินหนุ่ม เล่ายาวถึงความฝันด้วยสายตาเปล่งประกาย
อย่างไรก็ตามเมื่อโตขึ้น “จ๊อบ” ตั้งมั่นในความฝันอย่างจริงจังด้วยการเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาดนตรีศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งที่นี่ทำให้เขาได้เรียนรู้พื้นฐานของศาสตร์ด้านดนตรีอย่างลึกซึ้ง หลังเรียนจบเขาเดินตามความฝันทันทีด้วยการเล่นดนตรีตามร้านอาหารช่วงกลางคืนเป็นอาชีพหาเลี้ยงตัวเอง ส่วนในเวลากลางวันเขาเป็นครูสอนดนตรีให้กับเด็กๆ
ชีวิตใน จ.เชียงราย กำลังดำเนินไปด้วยดี ได้ทำงานที่ชอบ จนกระทั่งสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ร้านอาหารโดนสั่งปิด รายได้ที่เคยหาได้วันละ 900 บาทจากการเล่นดนตรีวันละ 3 ชั่วโมง เหลือเพียงสอนดนตรี อีกไม่นานจากนั้นโรงเรียนก็ต้องปิดตามนโยบายล็อคดาวน์ของรัฐบาล
วิกฤตชีวิตครั้งนั้นทำให้เขากลับมาคิดว่าต้องหาอาชีพที่สร้างความมั่นคงในชีวิตเป็นหลักก่อนแล้วเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริม
“ถ้าไม่มีโควิดผมก็ไม่มีจุดเปลี่ยน เพราะอยู่เชียงรายได้ทำงานที่เรารัก ผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด หางานที่มั่นคงสักอย่างเป็นหลัก ไม่ได้คิดจะเป็นตำรวจไปสอบหน่วยงานราชการอื่นๆ ไปสอบทหารด้วย เพราะที่บ้านอยากให้ผมรับราชการ” หนุ่มพะเยา ย้อนไปยังวันที่เขาตัดใจยอมให้อาชีพอื่นเป็นหลักแทนการเล่นดนตรีที่เขารัก
ในที่สุดก็สอบเข้าโรงเรียนนายสิบตำรวจ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 จ.ลำปาง ด้วยอายุที่เกือบเลย 27 ปี ตามเกณฑ์กำหนดพอดี โดยเป็น นสต.รุ่นที่ 71 เมื่อจบหลักสูตร 1 ปี จึงบรรจุรับราชการเป็นตำรวจ สภ.บ้านเสด็จ จ.ลำปาง
“นสต.รุ่นผมมีคนเรียน 700 กว่าคน น่าจะเป็นรุ่นที่เยอะที่สุด จนไม่สามารถรู้จักเพื่อนได้ครบทุกคน รู้จักแต่ในกองร้อยของเรา ผมคิดมาก่อนหน้าแล้วว่าถ้าได้งานเป็นตำรวจผมจะหาเล่นดนตรี ผมพยายามจะไม่ทิ้งมันเพราะเป็นสิ่งที่ผมชอบ และพยายามจะเล่นดนตรีไปตลอด ตอนนี้เรามีงานหลักที่มั่นคงแล้วดนตรีก็ทำเป็นอาชีพเสริม” หมู่จ๊อบ ยืนยันหนักแน่น
เมื่อศิลปินต้องมาเป็นตำรวจ 1 ปีที่ผ่านมา ส.ต.ต.อนุพงศ์ ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง เพราะมีนิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“เวลาเราเห็นคนอื่นทุกข์เราก็อยากเข้าไปช่วยเขา งานตำรวจเป็นงานที่ได้ช่วยคนอื่น เสียสละ คนอื่นเขามาพึ่งเรา งานตำรวจทำให้เราได้เห็นปัญหาของสังคม ปัญหาของประชาชนที่เขามาแจ้งความ ทุกข์ใจหลากหลายเราได้เห็นตรงนี้ ส่วนการเป็นนักดนตรีเราได้ให้ความสุขกับคนฟัง ทำให้เราใจเย็น เวลามีปัญหาเครียดๆพอได้ซ้อมดนตรีเราก็ผ่อนคลาย เข้าไปในชุมชนเล่นดนตรีให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านก็ชอบ มีโอกาสเล่นดนตรีให้ตำรวจด้วยกันฟัง ซึ่งที่ สภ.บ้านเสด็จ มีประชุมประจำเดือนหลังประชุมเสร็จเราเล่นดนตรีกัน ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด”
โดย พ.ต.อ.ชวลิต จินดารัตน์ ผู้กำกับการ สภ.บ้านเสด็จ เปิดโอกาสให้ลูกน้องได้ฟอร์มวงดนตรีกันขึ้นมาเพื่อทำงานมวลชนมียศร้อยตำรวจเอกเป็นหัวหน้าวง ส่วนที่เหลือเป็นสิบตำรวจตรีอีก 3 คน
“โรงพักบ้านเสด็จมีวงดนตรีประจำ สภ. รวมทีมกัน ไปเล่นในชุมชน เช่น งานต้านภัยยาเสพติด ภาพแบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ ผมโชคดีที่ได้นายดี ผู้กำกับคนนี้เป็นนายที่เข้าใจและอนุญาตให้ผมออกมาเล่นดนตรีเป็นอาชีพเสริม” ส.ต.ต.อนุพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายก่อนขอตัวกลับไปเข้าเวรที่โรงพัก
ทั้งนี้ ชาวลำปางสามารถตามไปฟังการเป่าแซกโซโฟนของ ส.ต.ต.อนุพงศ์ ได้ที่ร้าน “ริรักษ์คุสึ” ตรงข้ามปัญญาปาร์ค ซึ่งจะประจำการในวันอังคาร-พุธ-พฤหัสบดี เวลา 21.00 น.ถึง22.00 น.
#สามารถติดตามได้ทาง นิตยสาร Cop's Magazine ฉบับเดือนกันยายน 2567
โฆษณา