13 ก.ย. เวลา 15:03 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค3 Space

.
ตอน 17 ผณินทรยักษา
 
.
แล้วเวลาก็ผ่านไป2วัน ระหว่างนี้ภานิชาใช้เวลาใคร่ครวญรวมทั้งวางแผนการต่อสู้ ส่วนองค์ราชาประจำการอยู่ที่ยานรบคอยสังเกตุการณ์ด้วยไม่ทรงไว้ใจ 2 พ่อ-ลูก
.
ว่ากันว่าคนเรานั้นเหมารวมถึงยักษ์ด้วยก็ได้ ชื่อเสียงเรียงนามหาสำคัญไม่ แต่ฉายาและคำร่ำลือนั้นสำคัญที่สุด
ก็เสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องความตระบัดสัตย์ของพ่อลูกคู่นี้ถูกกล่าวขานไปทั่ว องค์ราชาดิษยมานพจะวางพระทัยได้อย่างไร
.
ภานิชาไม่อาจทนนิ่งอยู่ได้จึงออกไปสู่ป่าใหญ่ที่ทึบราวดงดิบ เดินไปไกลราว 2 ชั่วโมงเศษ ภานิชาจึงเริ่มเหนื่อยและหิวน้ำ เธอนึกตำหนิตัวเองที่ไม่นำน้ำดื่มติด
ตัวมา
.
ในระหว่างที่กำลังมองหาแหล่งน้ำอยู่นั้นพลันก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจของใครคนหนึ่งดังมาจากชายเนินลงไป
ภานิชาจับดาบเลเซอร์มั่นออกวิ่งไปทางเสียงนั้น แล้วหล่อนก็ถึงกับยืนตะลึงอยู่กับ
ที่เพราะภาพที่ปรากฎ เป็นภาพที่น่าหวาดเสียว และ ไม่สามารถที่จะลืมได้เป็นเวลานาน
ตะขาบยักษ์ตัวขนาดโบกี้รถไฟความยาวของมันร่วม 50 เมตร มีตีนนับร้อยๆคู่ ส่วนหัวอันประกอบด้วยเส้นหนวดและเขี้ยวโง้งใหญ่มหึมา
.
หัวของมันพุ่งเข้ากัดขยุ้มยักษ์หนุ่มตนหนึ่งซึ่งกระโดดหลบ ส่งผลให้พุ่มไม้ด้านหลังของเขากระจุย จึงยิ่งสร้างความโกรธแค้นและดุร้ายให้มันยิ่งขึ้น ดวงตาทั้งคู่ของมันแดงฉาน เขี้ยวสยายอ้ากว้าง
.
ภานิชาจึงกระโดดลอยต้วไปอยู่ที่ส่วนหัวด้านหลัง แล้วใช้ดาบเลเซอร์ตัดหัวของมัน ซึ่งมันไม่ได้ตายทันทีลำตัวของมันกระชากวูบด้วยอาการกระตุก
มันม้วนตลบออกไป ส่วนยาวของลำตัววาดวัดขึ้นมาราวม้วนคลื่น แลเห็นตีนนับร้อยตะกุยตะกายในอากาศ ท้องขาวของมันฟาดตูมสนั่นแล้วทิ้งโครมจนแผ่นดินสะเทิอน
.
ยักษ์หนุ่มตนนั้นจึงรวบเอวของภานิชาออกวิ่งไปยังเนินสูงที่ใกล้ที่สุด บัดนั้นเองก็แว่วเสียงป่าหักซู่เป็นพายุพระกาฬดังไล่หลังมาจากเนินคนละด้านกับที่เจ้าตะขาบกำลังดิ้นพราดอยู่ในขณะนี้
.
เจ้าสัตว์ร้ายพันธุ์ใหญ่ยักษ์คู่ของเจ้าตัวที่นอนดิ้นอยู่ โผล่ขึ้นมาจากเนินอีกด้าน แม้
ตัวจะย่อมกว่าแต่ก็ปราดเปรียวกว่า ราวกับมันจะรู้ถึงสถานการณ์ของคู่ของมัน
.
"ข้าขอยืมดาบของนางเพื่อจัดการกับเจ้าตัวที่มาใหม่" ยักษ์หนุ่มกล่าวซึ่งภานิชาส่งดาบให้ทันที และทันทีที่จับดาบเขาก็พุ่งเข้าใส่เจ้าตัวมาใหม่อย่างกล้าหาญ
.
เจ้าตัวมาใหม่เคลื่อนผ่านร่างคู่ของมันที่นอนตายหงายท้องด้วยความอาฆาตแค้น เจ้าตัวนี้มันฉลาดกว่าตัวแรกจึงปิดบังส่วนหัวไว้เห็นแต่ลำตัวสีแดงเท่านั้น ในทันที
ที่เห็นศัตรู มันจึงเลิกกำบังแล้วพุ่งตัวเข้าใส่เขาทันที
.
แต่ยักษ์หนุ่มก็กระโดดหลบอย่างง่ายดายราวกับคาดไว้อยู่แล้ว จากนั้นจึงสปริงตัว
ขึ้นไปบนส่วนหัวด้านหลังของมัน
แล้วใช้ดาบเลเซอร์กรีดจากส่วนหัวลงไปตามความยาวลำตัว เป็นอันยุติชีวิตตะขาบยักษ์ตัวที่2
.
ภานิชาถึงกับต้องปรบมือให้ยักษ์หนุ่มในความสามารถโดยที่ไม่มีโปรแกรมช่วยอย่างเธอ ซึ่งเขาเพียงยิ้มโชว์เขี้ยวขาววับที่ทำให้เขาน่าดูยิ่งขึ้น
.
"ข้ารู้จักนาง" ยักษ์หนุ่มบอก "นางมาตามสามีที่ถูกพระธิดาลักษิณีชิงมา ส่วนข้ามีชื่อว่า ผณินทร เป็นบุตรชายของโหราจารย์แห่งนครอวตาร์"
.
"ภานิชาเป็นชื่อของฉัน แล้วท่านมาทำอะไรแถวนี้ หากฉันมาช้าไปนิดเดียวรับรองว่าท่านเข้าไปอยู่ในท้องอ้ายเจ้าตะขาบยักษ์แล้ว"
.
"กับนางซึ่งเป็นผู้ช่วยชีวิตข้าไว้จึงไม่ขอปิดบัง โหราจารย์บิดาข้ามักพาเข้าวังตั้งแต่เด็ก ด้วยหวังให้ข้าเป็นผู้สืบทอดวิชาทางพิธีกรรม
ดังนั้นตัวข้าและองค์หญิงจึงเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ในวัยเด็กข้าตัวเล็กผิดจากยักษ์ตนอื่นๆ อาจเพราะยังไม่ถึงเวลาเติบโต
.
ข้าหลงรักพระธิดาตั้งแต่เด็กแม้จะทรงรังเกียจที่ข้าเป็นยักษ์แคระก็ตาม และทั้งๆที่พระธิดาเอาแต่ใจ ขี้วีน จอมเหวี่ยงอย่างร้ายกาจ แต่....ข้าก็รักนาง เอ้อ..."ยักษ์หนุ่มทำท่าอายๆ "คือข้าเป็นยักษ์ชอบของแปลกน่ะ
.
ช่วงที่ข้าเป็นยักษ์วัยรุ่น ครั้งหนึ่งข้าเคยรู้จักศาสตราจารย์ที่ฉลาดสุดๆท่านหนึ่งชื่อ พาราด็อกซ์ ท่านเป็นผู้ให้วิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์แก่ข้าอย่างลับๆ
รวมทั้งการต่อสู้ยูโด เทควันโด ฟันดาบ และ อื่นๆเท่าที่เวลามีจากนั้นท่านก็หายไป และข้ายังระลึกถึงท่านเสมอ
.
ต่อมาบิดาข้าทำพิธีให้เทพเจ้าพอใจ จึงมอบเครื่องจักรให้ 2 เครื่องเป็นเครื่องแช่แข็งผู้ทำความผิด และ อีกเครื่องเป็นเครื่องที่ไปไหนก็ได้ดังใจนึก"
.
ภานิชา "เครื่องเทเลพ็อต"
.
"นางรู้จักเครื่องนี้ด้วยหรือ"
.
ภานิชา "ฉันยังไม่เคยเห็นได้ยินแต่ชื่อเท่านั้น ข่าวว่าเครื่องนี้จะเคลื่อนย้ายมวลสารเพื่อส่งไปในระยะทางที่ไกล ๆ ในชั่วพริบตา
แต่ฉันก็ขอสัญญาว่าหากพบไอ้เครื่องนี้เมื่อใดจะทำลายไม่ให้เหลือซาก เพื่อไม่ให้พระธิดามาขโมยสามีฉันไปอีก"
.
"อย่ากลัวเลยมีโอกาสข้าจะทำลายเครื่องนี้ให้เอง ส่วนราชาราพณาสูรปลาบปลื้ม
กับเครื่องจักร2เครื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงรับปากจะให้พระธิดาสยุมพรกับข้า"
.
ภานิชา "แล้วทำไมท่านไม่สยุมพร"
.
"เพราะพระธิดาจะยอมเข้าพิธีกับผู้ที่ประลองกำลังและชนะนางเท่านั้น"
.
"ท่านจึงออมมือ เพราะเกรงทำให้พระธิดาได้รับอันตราย" ภานิชาสรุป
.
ผณินทรก้มศีรษะยอมรับ ภานิชาจึงพูดต่อ "แต่แทตย์นิกรยักษาหาได้ยั้งมือไม่ จึงเป็นฝ่ายชนะและสยุมพรแทน เมื่อท่านได้ข่าวว่าพระธิดาเป็นหม้ายจึงรีบกลับมาเพื่อทวงสิทธิ์อีกครั้ง"
.
ผณินทร "ถูกแล้ว แต่พระธิดากลับมาตั้งกฎเกณฑ์เอาเอง เรื่องชายที่ฆ่าสวามีของนาง ต้องเป็นสวามีของนางต่อเพื่อรับผิดชอบ ที่เป็นเช่นนี้เพราะนางหลงไหลในความหล่อเหลาของสามีเจ้า"
.
ภานิชา "ความจริงสามีฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เพราะที่นี่เป็นโลกคู่ขนานกับโลกที่
ฉันอยู่ จึงมีคนหน้าเหมือนสามีฉันชื่อเทพบุตรแสงสุริยันที่ตกจากสวรรค์"
.
ผณินทร "มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ แล้วตอนนี้เทพบุตรคนนั้นไปไหนเสีย ทำไมไม่มารับผิดชอบ"
.
ภานิชาถอนใจ "กำลังใช้กรรมในนรก ที่ไปฆ่าซึ่งผิดศีลข้อใหญ่ที่สุดตามหลักศาสนาของฉันแม้จะไม่เจตนาก็ตาม เอ้อ....ฉันหมายถึงการติดคุกตามกฎของโลกฉันน่ะ ส่วนที่นี่คือการแช่แข็ง"
.
" แล้วไอ้สิ่งที่ติดอกเสื้อนางคืออะไร"
.
ภานิชา "มันคือเครื่องวาร์ป" และอธิบายวิธีการใช้งานให้เขารับรู้ ยักษ์หนุ่มนิ่งเงียบไปสักครู่แล้วบอกว่า
"ข้าขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เพราะนางต้องใช้เครื่องนี้แน่นอนไม่ว่าในการแข่งขันหรือการปิดเกม"
.
ภานิชา "เพราะเหตุใด"
.
ยักษ์หนุ่ม "เพราะข้ารู้จักนิสัยพระธิดาดีที่สุด"
.
ภานิชา "เราต่างมีเป้าประสงค์เดียวกัน พระธิดานอกจากทำให้พระบิดาผิดสัญญาที่ให้กับท่าน ยังช่วงชิงสามีของฉัน เราทั้ง2จงมาร่วมมือกันเถิด"
.
ผณินทร "เป็นเช่นนั้น"
.
"ท่านมีแผนอันใด" ภานิชาถาม
.
"เรียกว่าการแนะนำจะดีกว่า คือการแข่งเกมนั้นพึงระวังการโกงและตุกติกของพระธิดาให้ดี ทันทีที่มีโอกาสพระธิดาจะทำทันทีโดยมีพระบิดาคอยสนับสนุน"
.
ภานิชา "แล้วท่านยังไปชื่นชอบนางอยู่อีกหรือ"
.
ผณินทรเงียบไปชั่วครู่ "เพราะข้าหวังว่าจะค่อยๆกล่อมเกลานิสัยของนางให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ที่ผ่านมานางเป็นกำพร้าพระมารดาตั้งแต่ยังเล็กจึงถูกตามใจจนเสียยักษ์
นอกจากนี้นครอวต้าร์ต้องปรับปรุงให้ทันสมัยเหมือนประเทศไทย มีกองกำลังทหาร
ที่เข้มแข็ง ส่งเสริมวิชาการศึกษาให้ขาวประชา"
.
ภานิชาปรบมือ "ฉันขอให้ท่านสมหวังในรัก และ เป็นราชาที่ดีของไพร่ฟ้าในวันหน้า"
.
"ข้าเองก็หวังเช่นนั้น ภานิชา"
.
ภานิชา "ถ้าเช่นนั้น ท่านจงช่วยชี้แนะให้ฉันด้วยเถิดว่าควรทำเช่นใดในการรับมือกับนาง"
.
"มีอีกสิ่งที่สำคัญที่สุดนอกเหนือจากคำแนะนำของข้า นับจากนี้เป็นต้นไปจนจบเรื่อง นางกับข้าไม่เคยรู้จักกัน"
ผณินทรกล่าวอย่างเคร่งขรึม "แต่เราจักจดจำนางและนามภานิชานี้ไปจนกว่าชีวิตของเราจะหาไม่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งคงมีวาสนาได้ตอบแทน"
.
"เพราะเหตุใดหรือ ผณินทรยักษา" ภานิชางง
.
"เมื่อเวลานั้นมาถึง นางผู้มีพระคุณของข้าก็จะเข้าใจเอง"
.
"นี่เป็นอีกเรื่องที่ฉันอึดอัดใจจริง ๆ เวลาที่ทุกคนไม่ต้องการให้ฉันรู้เรื่อง จะพูดเหมือนกันหมดว่า....เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง"
.
ยักษ์หนุ่มไม่ตอบเป็นอีกครั้งที่เขาเพียงยิ้มโชว์เขี้ยวขาววับแล้วอธิบายวิธีการต่างๆให้ภานิชาฟัง จากนั้นทั้งคนทั้งยักษ์ต่างมองไปที่ยอตสูงของมหาปราสาทอันสะท้อนกับแสงอาทิตย์เป็นสีทองงดงามดั่งภาพวาด
.
จบตอน 17 ภาพปกจาก สรรหามาให้ดู นกเงือกฟิลิปปินส์เป็นนกในตำนานจากบทกวีของชาวฟิลิปปินส์ เนื่องจากขนและสีสันของมัน
มีถิ่นกำเนิดในฟิลิปปินส์ แหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ เช่น ป่าดิบชื้นเขตร้อน และ ป่าดิบเขาเขตร้อน ภาพโดย Gid Ferrer
โฆษณา