15 ก.ย. เวลา 03:31 • ยานยนต์
กรุงเทพมหานคร

☄️• #ความแตกต่างระหว่างตัวหน้า W •☄️

💧• #ผู้ใช้งานทั่วไปมักจะได้รับข้อมูลด้านเดียวว่าตัวหน้า W ไม่สำคัญเท่าตัวหลัง W แต่ในความเป็นจริงการบอกแบบนี้คือการรับข้อมูลเพียงด้านเดียว!! เท่านั้น!!
• #แต่เมื่อมองความเป็นจริงให้ข้อมูลครบทั้ง 2 ด้าน!!
• #ตัวหน้า W ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการเลือกตัวหลัง W ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน ซึ่งความสำคัญหลักๆคือ
1.• #แน่นอนการมีตัวหน้า W ที่ต่ำเมื่อใช้ในสภาวะอุณหภูมิต่ำโดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 0 c ของเหลวย่อมเปลี่ยนสถานะตัวเองจากของเหลวมีความหนืด ( Liquid ) เปลี่ยนเป็นของแข็งตัว/ไข ( Solid ) ในสารหล่อลื่นประเภทน้ำมันเครื่อง
• #การจะชะลอการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้ ตัวหน้า W มีความสำคัญมาก ยิ่งตัวหน้า W ต่ำยิ่ง ยิ่งคงสถานะของเหลวไว้ได้ ไม่เปลี่ยนเป็นของแข็งซึ่งผลกระทบหลักๆทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถสตาร์ทติดได้หรือเกิดการไหลเวียนได้ช้ามากทำให้ไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ!!
2.• #แน่นอนการมีตัวหน้า W ที่ต่ำช่วยให้ลดภาระปั้มน้ำมันเครื่องได้ดีมาก!! โดยเฉพาะในการปั้มน้ำมันเครื่องช่วงสตาร์ทเครื่องในครั้งแรกที่อุณหภูมิน้ำมันเครื่องยังไม่ถึงช่วงที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ!!
• #ตัวหน้า W ที่ต่ำช่วยทำให้การปั้มส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี่ยงส่วนต่างๆได้รวดเร็ว ทำให้ลดการสึกหรอได้อย่างมากในช่วงที่สตาร์ทเครื่องยนต์
• #เพราะการสึกหรอมากที่สุดคือช่วงสตาร์ทเครื่องยนต์ช่วงที่น้ำมันเครื่องยังไหลเวียนไม่ทั่วถึงชิ้นส่วนเครื่องยนต์
• #โดยเฉพาะชิ้นส่วนบนสุดเช่น กระเดื่องวาวล์ เพลาลูกเบี้ยว โดยเฉพาะไฮดรอลิควาวล์ที่ต้องการสารหล่อลื่นที่ไหลได้รวดเร็วเพื่อให้เครื่องยนต์เดินได้นิ่งและลดการเขกสั่นของเครื่องได้ ตัวหน้า W จึงสำคัญอย่างมากในจุดนี้!!
3.• #แน่นอนการมีตัวหน้า W ที่ต่ำช่วยลดภาระและลดการสึกหรอของปั้มน้ำมันเครื่องประเภทใบพัด ( Vane pump ) ในการปั้มน้ำมันเครื่องในช่วงอุณหภูมิยังต่ำ
• #ช่วยสตาร์ทติดง่ายกว่าตัวหน้า W ที่สูงกว่า เพราะช่วงอุณหภูมิน้ำมันเครื่องที่ยังไม่เกิน 40c น้ำมันเครื่องจะมีความหนืดและหนาแน่น ช่วยลดการดึงกำลังเครื่องยนต์มาปั่นปั้มน้ำมันเครื่องช่วงสตาร์ได้ดี!!
4.• #แน่นอนการมีตัวหน้า W ที่ต่ำช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงในช่วงสตาร์ท โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆในระหว่างวัน!!เช่น การใช้งานเซอร์วิสนอกสถานที่,ฝ่ายขาย,ขนส่งสินค้ารายย่อย อื่นๆ
5.• #แน่นอนการมีตัวหน้า W ที่ต่ำ ต้องแลกมากับคุณภาพพื้นฐานน้ำมันเครื่อง( Base oil ) และสารเติมแต่ง ( Additive improver) ที่สูงขึ้นมาก
• #เพื่อให้สารหล่อลื่นชนิดนั้นมีการไหลเวียนได้ดีและการปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทั้งในช่วงที่สตาร์ทเครื่องยนต์และในช่วงที่ใช้งานได้ดีขึ้น ช่วยการไหลเวียนเอาความร้อนออกมาจากชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้รวดเร็ว โดยเฉพาะแบริ่ง ( Bearing)/บูชทองเหลืองแกนเทอร์โบ!!
6.• #แน่นอนการมีตัวหน้า W ที่ต่ำจึงเหมาะสมกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่ออกแบบมาเน้นการประหยัดเชื้อเพลิงและเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องในระหว่างการใช้งานและช่วยยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้เลขไมล์มากขึ้น!!
🌊• #ซึ่งที่กล่าวมาเป็นหัวข้อหลักๆ ที่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดมาก จุดประสงค์เพื่อให้นำไปปรับและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
🌊• #แน่นอนต่อให้เครื่องยนต์ตัวนั้นมีเลขไมล์มากเท่าไรก็ตาม ก็ไม่ใช่สาเหตุที่ต้องขยับเบอร์น้ำมันเครื่องให้สูงขึ้นจากที่คู่มือกำหนดไว้!!
• #ตราบใดที่เครื่องยนต์ตัวนั่นยังไม่กินน้ำมันเครื่องเกิน 1 ลิตรเมื่อใช้งานที่เลขไมล์ใกล้ๆ 10,000 Km!!
• #ในสายงาน Lubricants ถือว่ายังปกติของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ตัวอย่างเช่น ปกติถ้าใช้งานเบอร์ความหนืดที่ 10W-30 เพียงแค่ใช้งานเบอร์หน้า W ที่ต่ำลงเป็น 5W-30 เพียงเท่านี้ก็จะได้ประสิทธิภาพทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาได้เช่นกัน!!
🌊• #แต่ถ้าใช้งานตัวหลัง W ต่ำตามคู่มือกำหนดแล้วเครื่องยนต์ยังสมบูรณ์และใช้งานปกติ ไม่ได้ปรับแต่งเครื่องยนต์หรือใช้งานบรรทุกหนักและไม่มีควันขาวให้เห็น แล้วยังมีการกินน้ำมันเครื่องเกิน 1 ลิตรในช่วงใกล้ระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง!!
• #แนะนำให้เปลี่ยนยี่ห้อสารหล่อลื่นนั้นทันทีก่อนในเบื้องต้น!! เพราะคุณภาพเบสออย ( BaseOiL )และคุณภาพและเกรดสารเติมแต่ง ( Additives) แต่ละยี่ห้อใช้ไม่เหมือนหรือไม่เท่ากันนั่นเอง!!
………………………………………………………...
- • #อัดแน่นด้วยสารเติมแต่ง ( Additive )
Moly Xec®-Ester Xec®
By CaLXCo® Energy
………………………………………………..........
• #นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
CaLXCo®Energy ( THAILAND )
โฆษณา