13 ต.ค. เวลา 14:31 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

เรื่องเล่าเรื่อยเปื่อยจากข้อสังเกตในอภิปรายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

จากการอภิปรายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ผ่านๆมา อาจทำให้ทุกคนต้องให้ความสำคัญและใส่ใจกับการศึกษาให้มากขึ้น
ไม่ว่าสถานะทางสังคมหรือ อำนาจของผู้มีอำนาจจะสูงแค่ไหน ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดและทำ ต้องสามารถตรวจสอบและตั้งคำถามได้
1
จากครอบครัว สู่ โรงเรียน จากโรงเรียน สู่ สังคม มุกในการยกย่องคนดีและมีอำนาจอาจเป็นวิธีเดียวที่จะได้มาซึ่งอิสรภาพส่วนบุคคลของทุกคน
ที่ผ่านมา จากข้อความที่(AI)ถอดเสียง ผมได้ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการศึกษาหลังจากดูดีเบตการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
แล้วในแง่การศึกษาเราได้บทเรียนอะไรบ้าง?
ตอนนั้น ผมและเด็กๆดูการอภิปรายชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เราแต่ละคนต่างมีคอมพิวเตอร์ เท็ปเลต และเบียร์กระป๋องของแต่ละคนในระหว่างการดู แฮร์...
2
เด็กๆ ต่างหัวเราะและตะโกนลั่น หลังจากที่รับรู้ผมก็คิดว่าการถกเถียงดังกล่าวน่ามีความหมายต่อการศึกษาของเด็กในอนาคตได้อย่างไร ?
3
เมื่อดูจบผมก็ตั้งคำถามกับเด็กๆ จนได้ข้อคิดเห็นแบบกว้างๆจากเด็กเจนนี้ได้แบบคร่าวๆกล่าวคือ อย่างแรก คือ เด็กๆควร เรียนรู้จากกรณีเชิงลบ ซะบ้าง...
1
และเรียนรู้จากความผิดพลาดให้มากขึ้น.
2
เด็กๆ ตะโกนและหัวเราะ เพราะการอภิปรายนี้เต็มไปด้วยความเข้าใจผิดเชิงตรรกะ ต่างๆนาๆ เช่น การโจมตีส่วนบุคคล(เรื่องส่วนตัว)ตั้งแต่ต้นจนจบ
การสรุปเหตุการณ์แบบสุดโต่ง(ที่เป็นปรากฏการณ์ทั่วไป) การถามคำถาม และการตอบคำถามที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง การระบุแหล่งที่มาเชิงเส้นของเหตุการณ์มหภาคที่ซับซ้อน บราๆๆๆๆ ฯลฯ ...
สิ่งเหล่านี้ผมเรียกได้ว่าเป็นสื่อการสอนเชิงลบที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
1
เมื่อมองย้อนกลับไปในประสบการณ์การเรียนรู้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่
ที่ผ่านมาผมใช้เวลาส่วนใหญ่ได้แต่ เรียนรู้ว่าอะไรที่ "ถูก" และแทบไม่มีโอกาสเรียนรู้ว่าอะไรที่ผิด และมีข้อผิดพลาดตรงไหน
1
หมายความว่าเมื่อคุณแค่ต้องรู้ว่าอะไรจริง และคุณจึงสามารถตัดสินได้โดยอัตโนมัติว่าอะไรคือเท็จ?
นั่นมันถูกต้องหรือไม่ล่ะครับ?
ไม่แน่นอน ประสบการณ์ของผมเองคือการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผลต้องอาศัยประสบการณ์ส่วนตัว และใช้ในชีวิตประจำวัน(จริงๆ)
โอกาสที่จะได้สัมผัสกับ "ความถูกต้อง" นั้นต่ำกว่าโอกาสที่เราจะเผชิญกับความผิดพลาด(เชิงตรรกะ)เป็นอย่างมาก
1
ผมไม่รู้ว่าพวกคุณทุกคนมีประสบการณ์คล้าย ๆ กันนี้หรือเปล่า โดยส่วนตัว...ผมมักจะรู้สึกคลุมเครือว่าในการตัดสินบางอย่างผิดพลาด แต่ผมกลับไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรผิด
จนในบางครั้ง ถือว่าการเข้าใจผิดผสมปนเปไปกับความจริงบางส่วนโดยไม่รู้ตัวว่าผิด มันดันกลายเป็น(สรุปว่า)ถูกต้องทั้งหมด ฮาาาา.
3
ดังนั้น ผมคิดว่าการเรียนรู้จากกรณีเชิงลบ และความผิดพลาด อาจเป็นวิธีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
1
เนื่องจากการปรากฏตัวของกรณีเชิงลบก็สามารถเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และคุณอาจต้องเห็นข้อผิดพลาดมากมายก่อนที่คุณจะเข้าใจสิ่งที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
หากคุณพยายามเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องจากหนังสือ(หรือบทความ) โอกาสที่ความถูกต้องนี้จะปรากฏในความเป็นจริงจะมีน้อยมาก(เพราะคนชนะเท่านั้นที่เขียนประวัติศาสตร์)
ทำให้การได้รับประสบการณ์ด้านอื่นๆในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยาก
ข้อต่อมา เมื่อเด็กๆต่างถกเถียงเรื่องความไม่ซื่อสัตย์(ต่ออำนาจที่เรามอบให้)
2
ความไม่ซื่อสัตย์ มันอาจส่งผลกระทบต่อผู้คนนับไม่ถ้วน และเต็มไปด้วยช่องโหว่
สำหรับปฏิกิริยาแรกๆของผม คือการถอนหายใจและคิดกับตัวเองว่า "นี่จะเป็นตัวอย่าง(สอน)แบบไหนสำหรับเด็ก ๆ "
แต่ความคิดที่เป็นนิสัยอีกอย่างหนึ่งของผม แล้วที่ผมต้องคิดถึง คือในที่ทำงาน
เจ้าหน้าที่ในตำแหน่งที่อยู่ในระดับสูงและการปฏิบัติหน้าที่ในโอกาสสำคัญๆดังกล่าว
ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ
2
นั่นคือ ในความเป็นจริง ไม่ว่าสถานะทางสังคมหรืออำนาจของผู้มีอำนาจจะสูงเพียงใด
ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดและทำ ต้องสามารถตรวจสอบและตั้งคำถามได้
1
และควรเริ่มจากครอบครัว สู่โรงเรียน สู่สังคม การยกย่องผู้มีอำนาจ(และเป็นคนดี)เป็นวิธีเดียวที่จะบรรลุอิสรภาพส่วนบุคคลได้
1
ข้อถัดมา คือการมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสาธารณะ
การอภิปรายของผู้สมัครมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญที่พวกเขาเชื่อว่าสามารถมีอิทธิพลต่อการลงคะแนนเสียงได้
แต่ ปัญหาเหล่านี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับทุกคน แต่โดยรวมแล้ว นี่เป็นประเด็นสาธารณะที่พลเมืองอเมริกันกังวลโดยทั่วไป
เด็กๆ อาจไม่จำเป็นต้องสนใจหรือเข้าใจปัญหาเหล่านี้ทั้งหมด แต่พวกเขาก็ต้องได้ยินและรับฟังมัน ซึ่งนี่ทำให้เกิดความกังวลต่อประเด็นสาธารณะ
พวกเขาจะเริ่มเข้าใจว่านโยบายใดที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคนทั่วไป(และตนเอง) ความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? คนกลุ่มไหนจะมีผลกระทบมากกว่า ?เป็นต้น
เมื่อมองย้อนกลับไปที่ตัวเอง ตั้งแต่สมัยประถมจนถึงหลายปีหลังจากเริ่มทำงาน ผมกลับ “มองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นอกหน้าต่าง”
และไม่สนใจปัญหาเหล่านี้เลย
1
ผมยังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน ระหว่างการเดินทางไปเที่ยวทางภาคเหนือ มีชายชราคนหนึ่งจากหมู่บ้านที่ไม่รู้จักพยายามคุยกับเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้
ผมต้องบอกไปในทันทีว่า ผมไม่เข้าใจหรือไม่สนใจเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ ชายชรามองมาที่ผมด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า "ทำไมคุณไม่สนใจหรือสนใจสิ่งเหล่านี้เลย มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณในอนาคต!"
3
ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ และมันก็ไม่เป็นเช่นนั้นจนกระทั่งมากขึ้นๆ กว่า10ปีให้หลังในที่สุดผมก็ได้เข้าใจ เมื่อมีการปฏืวัติ การแจกเงินที่ไร้สาระ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ คดีตากใบ และแชร์ ดิไอคอน
1
เอาล่ะๆๆ ผมขอสรุปเป็นสามประเด็นใหญ่ คือ การเรียนรู้จากความผิดพลาด การยึดมั่นในอำนาจ และการใส่ใจในประเด็นสาธารณะ
ผมเองเพิ่งเริ่มเรียนรู้และสัมผัสได้เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน แต่ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ความเข้าใจที่สำคัญโดยเฉพาะสำหรับ ผู้ใหญ่ที่จะเดินไปในความเป็นจริงและด้วยความสามารถ
และในฐานะผู้ใหญ่ที่สามารถโน้มน้าวเด็กๆ(บางคน)ได้ ผมก็แค่หวังว่าเราทุกคนจะสามารถให้โอกาสในการเรียนรู้แก่เด็กๆ อย่างมีสติ
1
แม้ว่าพวกเขาจะถูกใช้เป็นสื่อการสอนแบบเชิงลบก็ตาม!
โฆษณา