16 ก.ย. เวลา 13:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Pretty Guardian Sailor Moon Cosmos The Movie: มนตรา จันทรา คุณค่าแห่งตัวตน

หากเปิดลิ้นชักแห่งความทรงจำ
ย้อนกลับไปยังห้วงเวลาสมัยเด็ก
เชื่อว่าหลายคนย่อมนึกถึง
การ์ตูนโปรดสุดคลาสสิก
ที่ไม่ว่าจะกลับมาพูดถึงเมื่อไหร่
รีเมค-รีมาสเตอร์อีกกี่ยุคสมัย
ก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้น พลังคอสมิกใน
ตัวพุ่งพล่านเหมือนตอนนั้นอยู่เสมอ
เช่นกันกับ “Sailor Moon”
ซึ่งเป็น 1 ในดวงใจมาแสนนาน
ตั้งแต่ยังจำความได้เมื่อครั้งอนุบาล
ก็ได้เห็นบรรดาเพื่อนๆ ผู้หญิงในห้อง
สนุกกับของเล่น พากันมาแปลงร่าง
ไม่ก็แย่งกันว่าฉันจะเป็นเซเลอร์คนนั้นนี้
ได้เฝ้าดูกี่ที ชวนให้ยิ้มตามไปด้วย
เหมือนกำลังเห็นอัศวินเซเลอร์ตัวน้อย
พากันเริงระบำอยู่ท่ามกลางดวงดาว
และกาแล็กซี่น้อยใหญ่ที่เรียกว่าห้องเรียน
เราที่เป็นเด็กผู้ชายจะไปขอเล่นด้วย
ก็กลัวจะโดนล้อว่าไม่แมนหรือไม่เหมาะ
แม้จะมั่นใจเต็มร้อยว่าชอบผู้หญิง (จนถึงตอนนี้)
แต่ด้วยความที่ยุคนั้นยังไม่เปิดกว้าง
จึงได้แค่เก็บความรักในเรื่องนี้ไว้ตลอดมา
รู้เลยว่าตกหลุมรักทั้งตัวละคร คำพูด
บทเพลง และเรื่องราวความรักที่ผสมผสาน
ความแฟนตาซีเหนือจินตนาการ
ไว้ได้อย่างงดงามจับใจ
ยิ่งโตมายิ่งได้รู้ความหมายอีกมากมาย
ทั้งประเด็นความหลากหลายที่มาก่อนกาล
การนำร่องแนวคิด “Empowering Women”
ให้ผู้หญิงได้เป็นฮีโร่ เป็นผู้นำบ้าง
และเป็นฝ่ายปกป้องทุกคนได้ แม้แต่ผู้ชาย
สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กสาวทั่วโลก
อยากจะเป็นสาวแกร่งและสง่างาม
มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวสูง
เฉกเช่นอัศวินเซเลอร์แต่ละคน
ที่มีพลัง, ไม้ตาE และความฝันต่างกันไป
ขณะเดียวกันพวกเธอ
ก็ให้แรงบันดาลใจกับผู้ชาย
(อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่ง)
ที่อยากจะพัฒนาตัวเองให้คู่ควร
กับการมีอัศวินเซเลอร์สักคนข้างกาย
และปกป้องพวกเธอได้เช่นกัน
มันเลยดีใจจริงๆ ทุกครั้งที่เห็น
เซเลอร์มูนกลับมาฉายใหม่
ยิ่งการได้ดูการ์ตูนเก่าในยุคใหม่
ด้วยเทคโนโลยี โปรดักชั่นที่ล้ำไปตามสมัย
ก็ยิ่งรู้สึกฟินล่องลอยอย่างบอกไม่ถูก
เลยอยากชวนทุกคน
ย้อนกลับไปยังห้วงเวลาในอดีต
ปลดปล่อยจินตนาการ
ร่ายมนต์ออกมาให้สุด
แล้วหยุดเหล่าปีศาจร้าย
นำความสงบสุขหวนคืนกาแล็กซี่ให้ได้
“Side Stories คริสตัล พาวเวอร์…เมคอัพ
มนต์แห่งจันทรา จงสําแดงฤทธา ณ บัดนี้
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์ จะลงทัณฑ์แกเอง!”
ชวนอ่านสรุปแก่นทั้งหมดที่ได้จาก
"Pretty Guardian Sailor Moon Cosmos The Movie"
(เหมาะสำหรับคนที่ดูจบแล้วนะครับ) 🌙🩷
.
.
.
1. คนสำคัญตรงหน้า อาจจากกันได้ทุกเมื่อ
- ไม่ว่าชีวิตกำลังสวยงาม มีความสงบสุขแค่ไหน ก็ไม่มีสัญญาณบอกใบ้ว่าเรื่องร้ายอาจเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดฝัน อย่าง “อุซางิ” ที่เพิ่งได้รับแหวนแต่งงานจาก “มาโมจัง (หน้ากากทักซิโด้และเจ้าชายเอนดิเมียน)” ผู้เป็นที่รักดั่งดวงใจ ทำให้ความรู้สึกอาวรณ์ที่เขาต้องไปอเมริกาก็ได้รับความสุขล้นมาทดแทน แต่ไม่นานเขาก็ถูกพลังบางอย่างทะลวงหายไปในพริบตา ตามด้วยบรรดาผองเพื่อนอัศวินที่เห็นกันอยู่ทุกวัน ก็ค่อยๆ ทยอยจากไปทีละคน
เห็นได้ว่ากระทั่งฮีโร่อย่างเซเลอร์มูนก็ไม่อาจช่วยทุกคนได้เสมอไป แม้เธอจะพยายามเต็มที่ ก็ไม่อาจห้ามความเป็นไปในทุกเรื่องได้ ชีวิตจริงเราเลยทำได้แค่ใช้เวลากับคนสำคัญอย่างดีที่สุดเสมือนวันแรกพบและวันสุดท้าย
2. บางความเจ็บปวดไม่ได้หายไปไหน
- เวลาที่คนบางคนเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนัก กลไกข้างในมักจะทำการปกปิด ลบเลือน หรือข่มเรื่องราวเหล่านั้นไว้ให้ลึกที่สุด เพียงเพื่อจะเซฟหัวใจดวงน้อยๆ เอาไว้ไม่ให้หนักไปกว่านี้ ตัดฉับเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางครั้งก็ยังไปต่อได้เหมือนเดิม ทั้งที่อะไรๆ มันไม่เหมือนเดิม
อย่างอุซางิที่อารมณ์แบบปลั๊กหลุด ลืมเรื่องมาโมจังถูกพรากไปต่อหน้าต่อตา ก็ยังคงหวังในใจว่าเขาจะยังสุขสบาย ส่ง จม. มาได้ทุกวัน แม้จะเป็นการส่งมาแบบไม่มีข้อความ มีแต่ไพ่ท้องฟ้า ดวงดาวที่ผิดวิสัยเขา ก็ยังบอกตัวเองว่าชายผู้เป็นที่รักคงบอกใบ้อะไรมา ทั้งที่ความจริงหัวใจยังร่ำร้องว่ามีบางอย่างแปลกไป ได้แต่ข่มความเศร้าเอาไว้ แล้วรอการเปลี่ยนแปลงไปวันๆ
ซึ่งไม่แปลกและไม่ผิดเลยที่เธอจะมีกลไกที่ว่ามาเยียวยาความรู้สึก แม้เพียงชั่วครู่ก็ยังดีกว่ารู้ความจริงอันแสนเจ็บปวด บางทีก็ไม่ได้ตั้งใจหนีความจริงหรอก แค่ใจมันเจ็บจนลืมไปหมด และหวังเพียงทุกอย่างจะยังเหมือนเดิมอยู่ เจ็บเพราะการไม่มี ไม่อาจเทียบได้กับการเจ็บเพราะ "เคยมี" จริงๆ
3. เรามักซ่อนใครบางคน ไว้ในเพลงบางเพลง
- อย่างวงทรีไลท์ (เซเลอร์สตาร์ไลท์) ที่ร้องเพลง "To the Shooting Star" ให้ "คะคิว" เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรทันเคบนดาวคินโมคุ ภายใต้ภาพอันงดงามของสามหนุ่มรูปงามก็ซ่อนไว้ด้วยความเศร้า เฝ้าแต่รอวันให้ได้พบกันใหม่และโค่น “Sailor Galaxia” จอมทำลายล้างให้จงได้
ทุกครั้งเมื่อยามสวมบทบาทไอดอล ออกไปขับขานเพลงที่ว่า ก็จะหลับตานึกถึงเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักของพวกเขา พร้อมส่งความปรารถนาไปในทุกคำร้อง สื่อความห่วงใยไปยังท่วงทำนอง ร่ำร้องออกไปหวังเพียงเธอจะได้ยิน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะร้องเพลงเพื่อท่าน สละชีวิตเราให้ท่าน เพราะนี่คือตัวตนของเรา
เซเลอร์สตาร์ไลท์
ทั้งสามจึงเข้าใจความเจ็บปวดของอุซางิเป็นอย่างดี ในยามที่ต่างฝ่ายต่างสูญเสียคนสำคัญ ก็มีแต่ต้องพากันจับมือติดปีกร่วมฝ่าไป ขอบคุณเธอด้วยนะที่ทำให้ฉันนึกถึงเจ้าหญิงผู้งดงาม คงดีไม่น้อยถ้าได้ปกป้องและเคียงข้างเธอจริงๆ ไม่ว่าในจักรวาลแห่งใดก็ตาม,,,
4. การจะก้าวผ่านความเจ็บ ต้องโอบรับมันให้ได้ก่อน
- จุดเด่นเซเลอร์กาแล็คเซีย ไม่เพียงแต่จะมีความโหดเหี้ยม เด็ดขาด ทรงพลัง และทะเยอทะยานอย่างยิ่ง เธอยังมีจิตวิทยาสูง อย่างก่อนหน้านี้ที่ไล่ทำลายดาวแต่ละดวง แล้วหลอกล่อเหล่าอัศวินเซเลอร์ดาวนั้นๆ ที่กลัวถูกฆ่าและทะยานอยากเหมือนกันให้มาเป็นเหล่าบริวาร พร้อมสร้างสัญลักษณ์มาจูงใจ ใช้กำไลคอยควบคุมและใช้คำสัญญาเป็นแรงจูงใจ ว่าหากทำภารกิจรวบคริสตัลมาได้ ก็จะให้พวกเธอได้เป็นเจ้า มีดาวเป็นของตัวเอง เกิดเป็นจักรวรรดิชาโดว์กาแล็กติก้าที่รวมผู้แกร่งกล้าไว้มากมาย ทำลายศัตรูและชิงนักรบเขามาเป็นทาส ร้ายใช่ย่อย
โดยมีเป้าหมายใหญ่ที่การช่วงชิงซิลเวอร์มูนคริสตัลของอุซาจิ เพื่อให้ได้รับพลังอันแข็งแกร่งที่สุด จะได้ขึ้นเป็นใหญ่หนึ่งเดียว เหนืออัศวินเซเลอร์ทั้งปวงในกาแล็กซี่จริงๆ ดังนั้นการมาเยือนโลกทั้งที จึงเตรียมการมาเป็นอย่างดี ศึกษาศัตรูมาให้ลึกถึงเนื้อใน รู้ว่าหากสู้กันโดยตรงก็อาจเสียเปรียบ โดนรุม
จึงค่อยๆ ส่งสมุนไปลอบเก็บทีละคน ส่วนตัวเองก็รอเก็บตกอีกที พร้อมเล่นงานแบบไม่สนศักดิ์ศรีวิธีการ ตามด้วยการเล่นกับความรู้สึกศัตรูให้ป่นปี้และคอยสั่นคลอนจากข้างใน รู้ว่าอุซางิเป็นคนอ่อนไหวก็บดขยี้เธอให้ตาEทั้งเป็น ทั้งพรากเอาคนสำคัญ ทั้งตามมาหลอนถึงในฝัน ทลายความเชื่อมั่นถึงจิตวิญญาณนี่คือตัวร้ายที่มาเพื่อพิฆาตเซเลอร์มูนโดยแท้เลยก็ว่าได้
ทำให้สาว ม.ปลาย ผู้เคยสดใส เปล่งประกาย มีแต่กลิ่นอายความโศกเศร้า ร้าวราน ไม่มั่นใจ ยิ่งพอมีเพื่อนโดนเล่นงานเพิ่มขึ้นอีก ทีนี้ยิ่งหนัก ทำอะไรก็รวนไปหมด ซ้ำยังพาให้พรรคพวกสงสัยในกลุ่มเซเลอร์
สตาร์ไลท์อีก
เราเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเธอดี แต่ถ้ายังคุมอารมณ์และก้าวผ่านความโศกเศร้าไปไม่ได้แบบนี้ จะไม่มีวันเอาชนะเซเลอร์กาแล็กเซียและจักรวรรดิชาโดว์กาแล็กติก้าของนางได้ ไม่มีเวลามาสนใจพวกเราแล้ว ดังนั้นเธอต้องทุ่มสุดตัว ไม่เช่นนั้น...
เซยะ โค (Sailor Star Fighter)
ประโยคนี้และการกระทำทั้งหมดของพวกเขาทั้งสาม จึงช่วยปลดล็อคปมในใจของอุซางิออกมาอย่างหมดจด ตั้งแต่การกระตุ้นความทรงจำที่แม้จะสาหัสเพียงใดก็ต้องนึกให้ออก เพราะกุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวผ่านความเจ็บปวด ก็คือการโอบรับและอยู่กับมันอย่างเข้าใจ เก็บบาดแผลเหล่านั้นเป็นเรื่องราวสอนใจ พร้อมหาทางสู้ใหม่ พยายามให้ดีกว่าเก่า เมื่ออุปสรรคที่ยากขึ้น เราก็แค่ต้องพยายามให้มากขึ้นไปอีก ติดปีกไปพิชิตมันด้วยกันเถอะ ฉันจะปกป้องเธอเองนะ,,,
*หมายเหตุ: สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ล้วนเติบโตจาก "Star Seed" อย่างเซเลอร์คริสตัลก็คือเมล็ดพันธุ์แบบพิเศษ ถูกส่งไปยังดาวเคราะห์ที่ได้รับเลือก กลายเป็นอัศวินผู้พิทักษ์ดาวดวงนั้นๆ
5. Villains are not born, they are made!
- แม้แต่คนที่ดูร้ายสุดขั้วอย่างกาแล็คเซียเองก็ไม่ได้ร้ายมาแต่ต้น ทุกอย่างที่เป็นล้วนสะสมตกตะกอนในความรู้สึกมานานปีจนเกินจะต้านได้ แค่การอยู่บนดาวที่ไร้ความหมาย เต็มไปด้วยความรุนแรง ข่มเหง และเธอเองก็เป็นเหยื่อคนหนึ่งของสภาพสังคมดังกล่าว เหมือนตกนรกทั้งเป็นในทุกวัน
เกิดเป็นไฟแค้นสุมอก บวกกับ Star Seed และลาซูไรต์คริสตัลในตัวที่แข็งแกร่ง เปี่ยมพลังทำลายล้างที่สุดในกาแล็กซี่ ผสมกับความทะยานอยาก ความลุ่มหลงในอำนาจฉะนี้เอง ที่จุดชนวนกลายเป็นหมากสำคัญให้ “คาออส” ผู้ปกครองหมู่ดาวมิดมืดแห่งคอลดร้อน คอยชักใยตลอดมา
เมื่อถึงคราคับขัน คาออสอาละวาดในแดนศักดิ์สิทธิ์คอลดร้อน (คอล-ดร้อน) พร้อมกลืนกลินทุกอย่างแบบไม่สนศัตรูหรือบริวารอีก รวมทั้งกาแล็กเซียก็กำลังจะโดนลูกหลงไปด้วย พร้อมทำใจแล้วว่าคงมาได้แค่นี้แน่
เพราะลึกๆ แล้ว แม้จะทรงพลังแค่ไหน ในใจเธอก็แอบด้อยค่าตัวเองมาตลอด ไม่มีทางชนะคาออสได้ จึงต้องวางแผนทั้งหมด รวมคริสตัลให้ได้มากที่สุด และยั่วยุอีเทอร์นัลเซเลอร์มูนด้วยการทิ้งเซเลอร์คริสตัลทั้งหมดและหวดมาโมจัง (ตัวปลอม) ลงทะเลต้นกำเนิด กะจะให้โกรธถึงขีดสุด จนระเบิดพลังมาทำลายมันให้ ไม่มั่นใจจนต้องยืมมืออีกฝ่ายมาช่วยให้แผนการสำเร็จ
เห็นได้ชัดว่าเนื้อแท้จริงๆ แล้วเธอเป็นคนที่เปราะบาง เปลี่ยวเหงา คอยเฝ้าตามหาดวงดาวที่คู่ควรอยู่เสมอ ตัวตนและความคิดเหล่านี้แหละที่ร่ำร้องมาถึงใจของอุซางิ จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าช่วยชีวิต เพราะเห็นตัวเองที่โดดเดี่ยวอยู่ในตัวกาแล็กเซีย ถึงในรูปการณ์จะเป็นศัตรู แต่จริงๆ แล้วพวกเธอต่างเป็นพวกพ้องที่มีต้นกำเนิดมาจากคอลดร้อนเหมือนกัน ในวันนี้ ณ เวลานี้ที่สูญเสียเพื่อนไปมากมาย ก็ไม่อยากเสียใครไปอีกแล้วแม้แต่คนเดียว
แสงแห่งความหวังและความเมตตาของอีเทอร์นอลเซเลอร์มูนนี่เอง ที่ทำให้กาแล็กเซียได้ค้นพบความจริง ว่า “ดวงดาวที่ใฝ่ฝันและคู่ควร” กับเธอ แท้จริงแล้วอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พร้อมจะโอบอุ้มทุกสิ่งไว้ในอ้อมกอด ช่วยขับกล่อมจิตวิญญาณที่เหนื่อยล้ามานานให้กลับมาปล่อยวางและพร้อมจะจุติใหม่ได้ดีกว่าเดิม
6. คุณค่าที่แท้จริงแห่งตัวตน
- ตัวเอกในการ์ตูนหลายเรื่อง นอกจากบทที่ถูกกำหนดมาให้เด่นแล้ว สิ่งที่ทำให้เขาหรือเธอผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ นอกจากตัวตน ความมุ่งมั่น ก็ยังมี “สกิลตัวเอก” นี่แหละที่มักจะมาพร้อมพลังอันยิ่งใหญ่ติดบัฟให้พัฒนาทะลุขีดจำกัดไปได้ไม่สิ้นสุด เลยกลายเป็นสิ่งที่คนดูหลายคนเอามาแซวกันว่าอย่าไปอะไรมาก มันคือตัวเอก
แต่หากปิดตาข้างหนึ่งเอาไว้ แล้วมองในรายละเอียดล่ะ? ถ้าตัวละครเหล่านี้เลือกได้ก็คงไม่อยากได้บทนี้เหมือนกัน อย่างใน Attack on Titan ช่วงท้าย เอเรนก็เคยพูดไว้ประมาณว่า “พลังอันยิ่งใหญ่แบบนี้ ดันมาอยู่กับคนโง่อย่างฉัน”
อุซางิก็คล้ายกัน ถ้าวัดกันที่พื้นฐานทั้งนิสัย โปรไฟล์และความสามารถ เธออาจเป็นรองเพื่อนๆ อัศวินเซเลอร์ทุกคนเลยก็ได้ ทั้งโก๊ะ ซุ่มซ่าม ขี้แย อ่อนไหวง่าย ตื่นสาย เรียนไม่เก่ง ไม่เอาไหน แต่กลับถูกเลือกให้เป็นร่างจุติใหม่ของนีโอควีนเซเรนิตี้แห่งอาณาจักร Silver Millennium ผู้ทรงพลังและกุมชะตามากมายในกาแล็กซี่ จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องได้รับการปกป้อง ห้อมล้อมจากทุกคน จนมาในภาคนี้เธอเริ่มมีคำถามกับตัวเองขึ้นในใจ
เมื่อไรก็ตามที่ตื่นมา ก็จะเห็นว่ามีพวกเพื่อนๆ และพวกพ้องคอยปกป้อง เสี่ยงชีวิตเพื่อฉันเสมอ อาจเพราะฉันเป็นอัศวินที่มีซิลเวอร์มูนคริสตัลหรือเปล่า?
อุซางิ
หากฮีโร่เกิดสงสัย ไม่มั่นใจในตัวเองแบบนี้ขึ้นมาแบบนี้ ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วล่ะ เพราะสิ่งที่อุซางิคอยทุ่มเทต่อสู้เพื่อปกป้องทุกคนมาตลอด วันนี้มันกลับตาลปัตรว่าพลังของเธอนั่นแหละที่เป็นเหตุให้ทุกคนต้องเหนื่อยและเป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ว่าปีศาจร้ายจะเป็นใครก็กลายเป็นวงจรแบบนี้มาตลอด
ถึงจะสนิทและผ่านอุปสรรคกันมาแค่ไหนยังไงก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เพราะโดยรูปธรรมมันเป็นแบบนั้น ชะตาแห่งควีนของเธอถูกกำหนดมาแล้ว จึงต้องมีชีวิตแบบนี้ แต่ในมุมนามธรรมแบบปิดตาข้างหนึ่งแล้วตัดความเป็นควีนและอัศวินเซเลอร์ทิ้งไป เจ้าเด็กสาวหัวซาลาเปาคนนี้ก็ยังมีดีในแบบของเธอ และในห้วงความรู้สึกที่กำลังดำดิ่ง ก็ยังดีที่เธอมีสติ ฉุกคิดได้ทันท่วงทีและบอกกับตัวเองเลยว่า
ต้องยอมรับให้ได้ว่าฉันยังคงเป็นฉันไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน บางสิ่งก็ที่มีแต่ฉันที่ทำได้ ตัวตนข้างในมันไม่ใช่แค่เซเลอร์คริสตัล ‘กายเนื้อ’ ก็เป็นส่วนหนึ่งของเราเล่นกัน เพราะร่างกายเราสบตา คุยกัน จับมือกัน และเพิ่มพลังให้เรา เพราะร่างกายเหล่านี้ จึงสามารถรวมพลังเราเป็นหนึ่งเดียวกันได้ นั่นคือความหมายของการเป็นอัศวินเซเลอร์ อนาคตของพวกเราจะต้องมาถึงแน่ ฉันจะใช้พลังทั้งหมดช่วยทุกคนให้ได้ จะนำความสงบสุขคืนสู่กาแล็กซี่
อุซางิ
ชุดประโยคเหล่าล้วนนี้สื่อแทนตัวตนความเป็นอุซางิได้ดีเหลือเกิน เพราะในระหว่างทางที่ผ่านมา ก็เป็นเธอที่สดใส ร่าเริง คิดบวก และเปี่ยมไปด้วยความเมตตา มักจะคิดถึงผู้อื่นมาก่อนตัวเอง
อย่างตอนที่ Sailor Lethe บอกว่าเธอนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุแห่งสงครามไม่สิ้นสุด อุซางิเลยบอกงั้นก็ฆ่าฉันเลยสิ พร้อมจะเสียสละกระทั่งชีวิต เพื่อให้สันติสุขบังเกิด เมตตาและช่วยให้กระทั่งศัตรูอย่างกาแล็กเซียได้พ้นทุกข์ และกลายเป็นเพื่อนพ้องคนใหม่ หรือแม้แต่ตอนท้ายที่กอบกู้จักรวาลได้ ก็ยังแอบเป็นห่วงว่าคาออสจะหายไปเลยจริงหรือเปล่า?
รวมถึงก่อนหน้านี้ เห็นได้ว่าอุซางินั้นมีความใส่ใจรายละเอียดแม้เพียงสิ่งเล็กๆ ก็จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งใหญ่ อย่างตอนที่เจอ “มาโกะจัง (Sailor Jupiter)” ครั้งแรกๆ ก็ชื่นชมในความเป็นสาวแกร่ง ขณะเดียวกันก็มีความเป็นแม่ศรีเรือน ทำอาหารอร่อย รวมถึง “อามิจัง” / “เรจัง” / “มินะพี” / “จิบิอุสะ” / “มาโมจัง”
หรือไม่ว่าใครกำลังรู้สึกยังไง เธอก็จะรู้สึกไปด้วยทั้งหัวใจ สุขก็อยู่ใกล้ ทุกข์ก็จะเข้าไปเคียงข้าง ใครลำบากจะรุดหน้าไปช่วยแบบไม่คิดชีวิต ถึงจะติดกับดักปีศาจ เสียเหลี่ยมขึ้นมา ก็จะหาทางช่วยคนสำคัญให้ได้ในที่สุด เป็นคนที่หรือแม้แต่กับศัตรู
เปรียบดั่งจันทราที่มีแสงโดดเด่นในตัว และพาให้ดาวที่อยู่รอบๆ เปล่งประกายไปด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือคุณค่าที่แท้จริง ต่อให้ไม่ใช่ควีนหรืออัศวินเซเลอร์ ทุกคนก็จะยังรักเธอในแบบที่เป็นอยู่ดี ความอบอุ่น ใส่ใจ และเปี่ยมเมตตาของอุซางิจึงสื่อออกมาในทุกชาติภพ ทุกไทม์ไลน์ ไม่ว่าเธอจะเปลี่ยนบทบาทและทรงพลังขึ้นแค่ไหน เนื้อในก็ยังเป็นคนเดิม
7. “ทุกการสิ้นสุด คือจุดเริ่มต้นใหม่”
- แก่นสำคัญอีกข้อที่ขาดไม่ได้ในเรื่องนี้คือ “วังวนแห่งสงครามมีจุดจบจริงหรือไม่? ในเมื่อพลังอันแข็งแกร่งของเซเลอร์มูนคือเหตุตั้งต้นที่ทำให้บรรดาปีศาจหมายครอบครอง และตราบใดที่คาออสยังคงลอยนวล แบ่งร่างต่างๆ มาเปิดศึกต่อ สงครามก็จะยังมีไม่รู้จบ
แม้แต่ “จิบิจิบิ (Sailor Cosmos)” หรือเซเลอร์มูนในร่างอนาคตอันไกลโพ้นที่กลับชาติมาเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเปี่ยมพลังขั้นสุด ก็ยังไม่อาจโค่นมันได้ พยายามมาแค่ไหนก็ล้มเหลว จึงยังกลับมาอดีตด้วยความย้อนแย้ง ทั้งสิ้นหวังกับตัวเองและยังคงหวังว่าเธอในอดีตจะเปลี่ยนแปลงสมการนี้ได้ จึงขอให้ทำลายมันไปพร้อมคอลดร้อน ต้องลงมือเดี๋ยวนี้ ปิดฉากลูปนรกทั้งปวง
ก่อนที่กาแล็กเซียจะชวนตั้งคำถามว่ามันทำได้ง่ายขนาดนั้นจริงหรือเปล่า? เพราะถึงกาแล็กซี่แห่งนี้จะถูกทำลายไป คอลดร้อนแห่งใหม่และอนาคตใหม่ก็จะเริ่มที่ไหนสักแห่ง ก่อให้เกิดแสงและความมืดอีก ไม่มีทางยุติความขัดแย้งทั้งหมดได้แบบนั้นหรอก ได้ยินแบบนั้นจึงเหมือนเป็นการปลดล็อคให้อุซางิคิดออก ว่าแท้จริงแล้วเราไม่ต้องไปพยายามฝืนธรรมชาติความเป็นไปของสรรพสิ่ง
เพราะความจริงทุกอย่างล้วนอยู่บนพื้นฐานของความสมดุลต่างๆ ในความมืดย่อมมีแสงสว่าง และแสงย่อมเพรียกหาความมืด มีโศกก็ต้องมีสุข มีสงบก็ต้องมีความขัดแย้งตามมาอีก การปลิดชีวิตคาออสพร้อมคอลดร้อน นอกจากจะไม่ช่วยยุติลูป ซ้ำยังเป็นการทำลายอนาคตกาแล็กซี่ให้ดับสนิท กลายเป็นปิดโอกาส ไม่ให้ทางเลือกแก่ทุกชีวิตไปโดยปริยาย (แดนศักดิ์สิทธิ์ของหมู่ดาวกาแล็กซี่คอลดร้อน (คอล-ดร้อน) เป็นแหล่งกำเนิดของดาวทุกดวงในกาแล็กซี่ ทุกความเป็นไปได้มาจากที่นี่)
อุซางิเลยต่อยอดขึ้นไปได้ว่าอนาคตใหม่เกิดได้ตลอด และอนาคตเหล่านั้นจะมีสมดุลทั้งสองขั้วเกิดขึ้นมาเสมอ ซึ่งสิ่งนั้นคือ “จักรวาล” เพราะเราทุกคนต่างเป็นดวงดาวที่โดดเดี่ยว ถึงได้ตามหากันและกัน เพื่อที่จะได้รวมเป็นหนึ่งเดียว จึงอยากจะตามหาและโอบกอดทุกชีวิตไว้ให้ได้จนถึงที่สุด คงไว้ซึ่งแหล่งกำเนิดของดวงดาว และบันดาลความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ยังมีเราอยู่ด้วยกัน
“ฉันจะสร้างอนาคตใหม่ขึ้นมา ดวงดาวแห่งความหวังของเราจะไม่มีวันดับ เราจะไม่เป็นไร ตราบใดที่ดาวนั้นยังคงเปล่งประกาย”
เซเลอร์มูน
ซึ่งหัวใจรักอันบริสุทธิ์ของอีเทอร์นัลเซเลอร์มูน ก็ได้ส่งไปถึงวิญญาณเหล่าอัศวินเซเลอร์ทุกชีวิตในกาแล็กซี่ให้รับรู้และขานรับ ส่งพลังกลับมาให้ เกิดเป็นสุดยอดพลังแลมด้าของคอสมอสคริสตัล สร้างเป็นพลังแห่งการคืนชีพ ทำสิ่งที่ยากยิ่งให้สำเร็จขึ้นมาได้
และยังสร้างแรงบันดาลใจกลับมาให้ตัวเธอในอนาคตได้เห็นว่าการตัดสินใจในอดีตตอนนั้นไม่ใช่ความผิดพลาด เพราะไม่มีใครฝืนธรรมชาติ ไม่อาจทำลายแหล่งกำเนิดของดาวซึ่งเป็นพื้นที่ให้ทุกคนดำรงอยู่และลุกขึ้นสู้ใหม่ แม้พลังร้ายจะทำลายกายเนื้อเราสลายไป แต่คริสตัลที่เปรียบได้กับ “ตัวตน” และ “หัวใจ” แห่งคุณธรรมนี่เองที่จะยังคงคุณค่าไว้ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมจะหวนคืนฟื้นพลังกลับมา ขอเพียงยังมีความหวัง ศรัทธา และความพยายามอย่างถึงที่สุด ทุกการจุติ ทุกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้นได้ด้วยสองมือ
รวมถึงการเติบโตที่แท้จริง ย่อมไม่ใช่การวิ่งหนีหรือแก้เหตุการณ์ในอดีต แบบที่เรามักจะคิดกันว่าถ้ามีไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปแก้นั่นนี่ได้คงจะดีมาก แต่จริงๆ แล้วคือ “พลังแห่งความกล้า” ที่จะละทิ้งความรู้สึกผิดที่คอยเฆี่ยนตีหัวใจซ้ำไปมา แค่กล้าที่จะยอมรับความเป็นไปของทุกสรรพชีวิตและทุกอย่าง นี่ต่างหากพลังอันไร้เทียมทานที่สุดของเซเลอร์คอสมอสหรือเซเลอร์มูนแห่งอนาคตจริงๆ วันนี้เธอได้ส่งพลังอันยิ่งใหญ่ให้ตัวเองได้กลับมายิ้มได้กับความจริงและพร้อมจะเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง
เรื่องราวในภาคนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้อุซางิได้เรียนรู้ เติบโต และเข้าใจอะไรขึ้นอีกมากมาย ด้วยคำตอบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ตรงไปตรงมา ว่าเธอและเพื่อนๆ ขอเลือกกำหนดเส้นทางชีวิตเอง พร้อมจะสร้างอนาคตใหม่ไปด้วยกัน แม้ต้องเจออุปสรรคและบททดสอบที่ยากลำบากแค่ไหนก็พร้อมเผชิญ
“เซเลอร์มูน”
จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว
ที่งดงามเหนือกาลเวลา
ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน
ก็ยังคงมีความหมายต่อใจเสมอ
เหมือนเพื่อนเก่าที่
ยังใหม่ในความทรงจำ
เติบโตมาด้วยกันวันนั้น
แล้วพากันติดปีกโบยบินต่อในวันนี้
แล้วเจอกันใหม่นะ
เหล่าอัศวินเซเลอร์ที่เรารัก,,,
ขอขอบคุณแอดมินเพจ: Sailor Moon Thailand Fanclub ด้วยนะครับที่คอยให้การซัพพอร์ต ใส่ใจตอบอย่างตั้งใจทุกครั้งที่ถาม ช่วยให้บทความนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 🙏
โฆษณา