16 ก.ย. เวลา 02:03 • สิ่งแวดล้อม

“เอลนีโญ-ลานิญญา” วิกฤตภัยแล้งและอุทกภัย สู่การรับมืออย่างยั่งยืน

สถานการณ์เอลนิญโญในประเทศไทยปี พ.ศ. 2567 ขณะนี้เริ่มอ่อนกำลังลง และคาดว่าจะสิ้นสุดในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ส่งผลให้ฝนน้อยและอุณหภูมิสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจกระทบต่อภาคการเกษตรและปริมาณน้ำในเขื่อน รวมถึงสุขภาพของประชาชน
เอลนิญโญและลานิญญา คือสองปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลก โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบทั้งจากภัยแล้งและน้ำท่วม ที่สำคัญคือในช่วงการเปลี่ยนผ่านระหว่างสองปรากฏการณ์นี้ยิ่งทำให้สภาพอากาศมีความผันผวน และทำให้การคาดการณ์ รวมถึงการรับมือเป็นไปอย่างยากลำบาก การเตรียมพร้อมรับมืออย่างยั่งยืน ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การเกษตรที่ปรับตัว และการสร้างความตระหนักรู้ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการลดผลกระทบและสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ
ดร.พรอำไพ นเรนทร์พิทักษ์ นักวิจัยจากทีมวิจัยการจำลองและระบบขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหล่งชาติ (สวทช.) ให้ข้อมูลเน้นย้ำถึงความผันผวนของสภาพอากาศในช่วงเปลี่ยนผ่านจากเอลนิญโญไปสู่ลานิญญาว่า อาจทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่
แม้ภาพรวมปริมาณฝนจะน้อยกว่าปกติ การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตะวันออกลดลงจากสภาวะที่อุ่นกว่าปกติในช่วงเอลนิญโญ กลับสู่สภาวะที่เย็นกว่าปกติ ซึ่งเป็นลักษณะของลานิญญา
ในขณะเดียวกัน มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดลานิญญาในช่วงปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 แม้ยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่หากเกิดขึ้นจริงอาจทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติในฤดูฝน เสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมและดินถล่ม รวมถึงอุณหภูมิจะลดลงโดยเฉพาะในฤดูหนาว
เอลนิญโญและลานิญญาเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ประชาชนควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลง ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม การสำรองน้ำ การวางแผนเพาะปลูก และการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญ การเรียนรู้จากปรากฏการณ์เหล่านี้และการลงทุนในการพัฒนาที่ยั่งยืนจะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างอนาคตที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน
ข้อมูลอ้างอิง
- กรมอุตุนิยมวิทยา
- NOAA Climate Prediction Center
โฆษณา