10 พ.ย. เวลา 06:50 • ดนตรี เพลง

เมื่อม่านเหล็กไม่อาจต้านทานชาว Rock

คอนเสิร์ตที่ปูตินเกลียดที่สุดจึงเกิดขึ้น !
ก็อย่างที่รู้แหละ ปูตินเกลียดทุกอย่างที่มาจากตะวันตก
ดังนั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจอะไร ที่เขาจะรู้สึกหน้าชา
เลือดรักชาติพุ่งพล่าน เหมือนโดนพวกอเมริกันถีบหน้า
ทุกครั้งที่เห็นคลิปวิดีโอนี้ จนมันถูกแบนในรัสเซีย
เมื่อเพื่อนร่วมชาติกว่า 3 ล้านคน เบียดเสียดยัดเยียด
เพื่อเข้าไปดูคอนเสิร์ตของวงตะวันตก
ที่ขื่อว่า Monsters of rock ในปี 1991 หลังโซเวียตและตะวันตกมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
มันกลายเป็นคอนเสิร์ตร็อคที่มีคนดูมากที่สุดในประวัติศาสตร์
มากกว่า Wood stock ในตำนานยุค 70 ที่จัดบนแผ่นดินอเมริกาเองเสียอีก
วงดนตรีที่มาในครั้งนั้น ตัวขายจริงๆ ก็คือ Metallica
และ AC/DC จากออสเตรเลีย ซึ่งกำลังดังสุดขีดในช่วงนั้น
แน่นอน Rock , Heavy metal มันคือวัฒนธรรมอเมริกันแท้ๆ
การที่คนรัสเซีย(โซเวียต) แออัดเพื่อเข้าไปดูตัวแทนวัฒนธรรม
ของศัตรู ในสายตาปูติน และพวกนิยมคอมมี่ มันจึงดูเป็นเรื่อง
เสื่อมเสียหน้าอย่างที่สุด
…และในทางหนึ่ง มันสื่อออกมาว่า ประชาชนส่วนมากนั้น
ไม่ได้แฮปปี้เลย ภายใต้การปกครองของคอมมี่ และอยากมีเสรีภาพในแบบตะวันตกมากกว่า….
มันคือการประกาศชัยชนะ ที่พวกอเมริกันมีต่อโซเวียต
ในสงครามเย็นที่ชัดเจนที่สุด
เพราะทั้งที่ยุคนั้น มีการปิดกั้นข้อมูลต่างๆอย่างมาก
ในโซเวียต อินเตอร์เน็ตก็ไม่มีแบบปัจจุบัน
แต่คนรัสเซีย(โซเวียต) สมัยนั้นกลับเข้าถึงวัฒนธรรม
ดนตรีตะวันตกได้แพร่หลายอย่างไม่น่าเชื่อ
มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความล้มเหลว ภายใต้การปกครอง
ที่กดทับชาวบ้านอยู่อย่างชัดเจน
…ว่ากันว่า คอนเสิร์ตนี้ ฝังใจปูตินเป็นอย่างมาก
เขารู้สึกพ่ายแพ้ และอับอายที่เพื่อนร่วมชาติหลายล้าน
ไปคลั่งวัฒนธรรมของศัตรู…
หลังโซเวียตล่มสลาย กระแสความคลั่งดนตรีหนักกระโหลก
เหล่านี้ ก็ยิ่งถาโถมเข้าไปในรัสเซีย จนกลายเป็น
ดนตรีกระแสหลักของพวกเขา มาจนถึงปัจจุบัน
แต่ทุกอย่างสะดุดลงหลังปี 2014 เมื่อรัสเซียบุกยูเครน
ครั้งแรก ทำให้วงอเมริกันถูกห้ามไม่ให้ไปเล่น
จากมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐ
แต่นั่นก็หยุด Matallica ไม่ได้ พวกเขายังไปเปิดคอนเสิร์ต
อยู่เสมอ แม้จะโดนห้าม โดนปรับก็ตาม
…ก็พวกเขามัน Out laws อยู่แล้วนี่ 555…
ในช่วงหลังการเมืองกับสหรัฐตึงเครียดขึ้น
ทางการรัสเซียนั้นก็เลยห้าม
แต่ก็ยังมีการอนุญาตให้ Metallica มาเปิดคอนเสิร์ตอยู่บ้าง แต่ก็มักถูกจำกัดไม่ให้มีการจัดที่ใหญ่โตมากนัก เพื่อไม่ให้ดูอลังการ เสื่อมเสียศักดิ์ศรีจนเกินไป….
…แต่ถึงงั้น คนรัสเซียเอง กลับยังเป็นฐานแฟนเพลงที่ใหญ่
มากที่สุดของ Metallica นอกสหรัฐ แม้แต่ในวันนี้ …
1
…และยังมีวงรัสเซียที่เล่น cover เพลงของ Metallica
อยู่เต็มรัสเซียไปหมด…
ปัจจุบัน ว่ากันว่าทางการรัสเซียแบนเพลงของ Metallica ไปหลายเพลง โดยเฉพาะ "The Struggle Within" จาก Black album ซึ่งมีเนื้อหาเชิงประชดประชันต่อผู้มีอำนาจในสังคม
และ One จากอัลบั้ม and Justices for all… ก็ถูกแบนอย่างเด็ดขาด ทางช่องทางแบบถูกกฎหมายของรัสเซีย
ชาวรัสเซีย จึงต้องหาเพลงพวกนี้ฟังแบบเถื่อนๆ….
…แต่นั่น ก็ไม่สามารถหยุดแฟนเพลงหูเหล็กชาวรัสเซียได้…
ในขณะที่เฮฟวี่เมทัล อาจมีความนิยมลดลง
จากกระแสหลักในตลาดดนตรีของโลก
แต่มันยังมีฐานแฟนเพลงที่แข็งแกร่งมาก
ในยุโรปทางตอนเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มสแกนดิเนเวีย
และที่สำคัญที่สุด คือในรัสเซีย คนรัสเซียยังชอบ
และมีวงเจ๋งๆของตัวเองอยู่ค่อนข้างมาก
แต่น่าขำเหมือนกัน ที่ในยุโรปตะวันตกนั้น
เฮฟวี่เมทัลมักถูกนำเสนอในลักษณะของ
Melodic Metal ที่ใส่ความเป็นดนตรีคลาสสิค
หรือเพลงพื้นบ้านโบราณทางยุโรปเข้าไป
แต่ในรัสเซียนั้น พวกเขากลับนิยม Trash Metal
ซึ่งมีความเป็นอเมริกันจ๋าเลยมากกว่า
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ก็เป็นผลพวงมาจาก
วงดนตรีที่ชื่อ Metallica นี่เอง
อย่างไรก็ตาม แม้ Metallica จะเป็นวงอเมริกันแท้ๆ
แต่พวกเขาไม่ใช่วงที่อวยอเมริกามากนัก
ที่จริงมันตรงข้าม เพลงของพวกเขาด่าสังคมอเมริกันด้วยซ้ำ
มันดูเหมือนเป็นเพลงสำหรับพวก Out laws เสียมากกว่า
แต่ด้วยความที่สุดท้ายแล้ว เนื้อหาของเพลงมันคือการต่อต้าน
การกดขี่ และชนชั้นปกครอง มันจึงเข้าถึงจิตใจคนรัสเซียได้มาก จากการที่พวกเขาไม่มีที่ให้ระบายออก
จะว่าชาวรัสเซียนั้น ชอบ Metallica เพราะหลงอเมริกัน
คงไม่ถูกต้องนัก แต่พวกเขาชอบการปฏิเสธชนชั้นปกครอง
เสียมากกว่า …
ตัวโกงในสายตาของ Metallica อาจเป็นบรรดานายทุน
นายเงิน ที่ครองอำนาจในสังคมอเมริกัน
แต่เมื่อความหมายที่สื่อออกมาถึงการเอาเปรียบ
มันก็จึงไม่ต่างอะไรในความหมายที่ชาวรัสเซีย
มองถึงชนชั้นปกครองในบ้านตัวเอง
มันเลยกลายเป็นเรื่องถูกจริตกันไปแบบสุดๆ ทีเดียว
ปัจจุบันเราจะเห็นสาวก Mat ชาวรัสเซีย
ยังคงตระเวนไปทั่วโลก รวมถึงสหรัฐ เพื่อติดตามวงโปรด
อย่างเหนียวแน่นอยู่เสมอ โดยไม่สนว่าการเมืองเป็นอย่างไร
…เพราะในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะคนที่ไหน ชาติใด
ก็ไม่ชอบการกดขี่จากใคร และไม่มีใครต้องการสงคราม
ด้วยกันทั้งนั้นนั่นเอง ….
…แม้มันจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้….
…แต่อย่างน้อย การได้ปลดปล่อยไปกับดนตรี มันก็ยังดี….
โฆษณา