16 ก.ย. เวลา 23:00 • สัตว์เลี้ยง

5 พื้นฐาน ตอบทุกความต้องการน้องหมา

เราเข้าใจความต้องการของหมาเราดีแค่ไหน ? แน่นอนว่าหลัก ๆ คือการมีที่อยู่ มีน้ำสะอาดดื่ม มีอาหารให้กิน และอาจจะมีออกกำลังกายด้วย แต่เท่านี้มันเพียงพอจริงหรือเปล่า หรือมีอะไรอีกที่เรายังไม่ได้ทันนึก ? นักจิตวิทยาชื่อ Linda Michaels เองก็มีคำถามนี้ครับ นั่นทำให้เธอค้นคว้าและสรุปปัจจัยพื้นฐานสำหรับหมาออกมาทั้งหมด 5 ขั้นด้วยกัน
โดยพื้นฐานของโมเดลนี้เธอได้ดัดแปลงมาจาก Maslow's hierarchy of needs หรือพีระมิดปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ที่ได้รับความนิยม และหลาย ๆ ท่านอาจจะเคยเห็นกันมาบ้าง
ภาพจาก https://www.bitesizelearning.co.uk/resources/maslows-hierarchy-of-needs-theory
โดยในรูปแบบเดียวกันนี้คุณ Linda Michaels มองว่าความต้องการหมา หรือสิ่งที่น้องหมาต้องการจากเรามีความเป็นตามลำดับขั้นเพื่อการตอบโจทย์ความต้องการหมาได้ตรงจุดที่สุด และได้ออกแบบพีระมิดความต้องการของหมา หรือ Hierarchy of Dog Needs ตามภาพด้านล่างนี้ครับ
Hierarchy of Dog Needs by Linda Michaels
จะเห็นได้ว่าคุณ Linda มองว่าความต้องการของหมามีทั้งหมด 5 ขั้น เช่นเดียวกันกับของคน แต่มีความแตกต่างกันในหัวข้อและรายละเอียด โดยสรุปแล้วแต่ละขั้นจะมีรายละเอียดตามนี้ครับ
1. Biological Needs
เริ่มจากขั้นแรกสุดคือ Biological Needs หรือความต้องการพื้นฐานเชิงกายภาพ ที่จะเป็นรากฐานของทุกอย่าง ลองนึกดูว่าเวลาที่เราหิว หรือไม่สบาย เรามีอารมณ์จะไปเที่ยวกับเพื่อน หรืออยากจะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ได้สักแค่ไหน น้องหมาก็เช่นกัน และยิ่งกว่านั้นคือสำหรับน้องหมาแล้วพวกเขาไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการพื้นฐานนี้ได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องรอให้เพื่อนนุดของพวกเขาช่วย ดังนั้นหลักการสำคัญในการตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานของน้องหมาคือ:
- มีให้อาหารทุกวัน
- มีน้ำสะอาดให้ดื่มได้ตลอด
- มีที่ให้นอนหลับได้โดยไม่มีสิ่งรบกวน
- พาไปออกกำลังกายเป็นประจำ
- พาไปหาสัตวแพทย์เวลาจำเป็น
ทั้งหมดนี้คือพื้นฐานที่เราต้องจัดสรรให้พวกเขาเพื่อให้พวกเขาสบายใจที่จะอยู่กับเรา และพร้อมที่จะไว้ใจเรา
2. Emotional Needs
ขั้นถัดมาก็คือ Emotional Needs หรือความต้องการเชิงอารมณ์ ซึ่งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากปัจจัยพื้นฐานแล้วน้องหมาทุกตัวมีความต้องการพื้นฐานที่จะมอบความรัก และรับความรักจากมนุษย์ หัวใจหลักของขั้นนี้คือการสร้างความไว้วางใจเพื่อสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างเขาและเรา โดยสิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอของเราที่ปฏิบัติกับเขาอย่างดีใช้ภาษากายท่าทางที่เป็นมิตร เลี่ยงการทำร้ายร่างกายน้องหมา
3. Social Needs
สองขั้นแรกนั้นทำให้น้องหมามีร่างกายแข็งแรง และรู้ว่ายังไงก็จะมีคนที่อยู่ดูแลเขาเสมอ แต่คงเป็นอะไรที่น่าเศร้ามากถ้าโลกทั้งใบของน้องหมานั้นมีแค่เราคนเดียวที่เขาไว้ใจได้ นั่นทำให้ขั้นนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยเปิดโลกให้กับน้องหมา ด้วยการพาให้เขาได้รู้จักกับมนุษย์คนอื่น ๆ หมาตัวอื่น ๆ และอาจจะรวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วย
เป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะช่วยพาน้องหมาไปรู้จักกับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว เหล่าคนแปลกหน้า และเพื่อนรวมสปีชีย์ตามสวนสาธารณะ และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ที่เขาอาจจะได้เจอ น้องหมาที่ไม่มีโอกาสได้ฝึกเข้าสังคมตั้งแต่วัยเด็กจะเครียด และกลัวเวลาเจอหมา และคนแปลกหน้า จนอาจถึงขั้นวิ่งหนี หรือกัดเพื่อลดความเครียด และนำไปสู่ปัญหาด้านพฤติกรรมอื่น ๆ อีกมากที่ขัดขวางความสุขน้องหมาเรา ดังนั้นระหว่างที่พวกเขายังเด็กพาไปสวนหมากันเถอะครับ
4. Force-free training needs
เมื่อความต้องการในสามขั้นแรกได้รับการเติมเต็มน้องหมาก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตในขั้นพื้นฐานไปกับเราได้อย่างสบายใจแล้ว แต่ก็เช่นเดียวกันกับมนุษย์ที่เมื่อไม่ได้ใช้สมองคิดอะไรบ้างก็จะเบื่อ หมาทุกตัวเองก็มีแรงขับโดยธรรมชาติที่อยากจะใช้สมอง และอยากจะเรียนรู้เช่นกัน นั่นทำให้การฝึกก็เป็นสิ่งที่จำเป็นกับพวกเขา โดยในการฝึกนั้นหลักการสำคัญ ๆ ได้แก่
- เจ้าของคือครูฝึกที่ดีที่สุด เพราะไม่มีใครที่พวกเขาไว้ใจมากกว่าเราแล้ว
- การฝึกเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันแล้วทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะมันคือการกิจกรรมที่เราและน้องหมาได้สนุกไปด้วยกัน
- ไม่ต้องไปแข่งก็ควรฝึก เพราะคำสั่งพื้นฐาน และคำสั่งด้านความปลอดภัย เช่น "คาย" "ไม่"" "มานี่" นั้นจะช่วยให้น้องหมาอยู่กับเราไปได้นาน ๆ ด้วย
- อย่าใช้การทำร้ายน้องเพื่อ"สอน" เพราะนอกจากจะไม่มีประสิทธิภาพแล้ว มันจะทำลายทั้งความไว้ใจ และความรู้สึกปลอดภัยของน้องหมา
5. Cognitive needs
ต่อเนื่องจากการฝึกคำสั่งพื้นฐานแล้ว ด้วยความฉลาดของน้องหมาแล้วนั้นการให้แค่ทำตามคำสั่งเองก็ไม่พอจะท้าทายสมองพวกเขา การมีโจทย์ที่ซับซ้อน ที่พวกเขาได้ถือโอกาสแก้ปัญหาด้วยตัวเองก็เป็นสิ่งที่พวกเขาอยากได้เช่นกันในพื้นฐานเราตอบสนองความต้องการนี้ให้พวกเขาได้ด้วยของเล่นที่เล่นฟรีสไตล์ได้ เช่น ลูกบอล หรือพวกเกมส์กีฬาสำหรับน้องหมา เช่น Agility ลากเลื่อน ต้อนแกะ หรือแต่ละบ้านสามารถคิดค้นเองได้
# สรุป
ทั้งหมดนี้คือโมเดลที่ชื่อว่า Hierarchy of Dog Needs ซึ่งผมมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ สำหรับผู้ปกครองมือใหม่ที่อยากจะทำความเข้าใจความต้องการของหมาให้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องระวังไว้เช่นเดียวกันคือ ความต้องการของทั้งมนุษย์และหมาในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีความเป็นลำดับขั้นเสมอไป และความต้องการในแต่ละขั้นสามารถเกิดขึ้นพร้อมกันได้เช่นเดียวกัน
แต่ความเป็นลำดับขั้นในที่นี้หมายถึงว่าความต้องการในระดับบนนั้นจะเป็นเรื่องยากที่จะตอบโจทย์ถ้าด้านล่างยังไม่เติมเต็ม เพราะยิ่งเราลงไปข้างล่างเท่าไหร่จะเห็นได้ว่าความต้องการเหล่านั้นจะยิ่งมีความเร่งด่วนมากขึ้น ในขณะที่ด้านบนเป็นเรื่องที่ไม่เร่งด่วน ตัวอย่างเช่น ในขณะที่หมากำลังปวดฉี่อยู่นั้น ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ได้อยากที่จะออกไปเล่นปาบอลกับเรา เพียงแต่การกินข้าวเป็นเรื่องที่ต้องทำก่อนอย่างช่วยไม่ได้นั่นเองครับ
และทั้งหมดนี้คือ Hierarchy of Dog Needs ที่เป็นหนึ่งในพื้นฐานของการเลี้ยงหมาในบ้าน และเป็นส่วนหนึ่งของหลักการการฝึกหมาในแบบของเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ
และอย่าลืมติดตามบทความอื่น ๆ ของเราได้ทาง www.dogology.org/blog
โฆษณา