19 ก.ย. เวลา 06:20 • ปรัชญา

ธรรมะรักษา

การฝึกใจให้หยุดนิ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต อย่าให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค ไม่ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เจ็บไข้ได้ป่วย หรืออ่อนเพลียเพียงไรก็ตาม ให้ลงมือนั่งสมาธิกำหนดจิตไปเลยว่า เราจะหยุดนิ่งให้ได้
เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่อย่างนี้ ไม่ช้าความเหน็ดเหนื่อยเมื่อขล้าก็จะหายไป เปลี่ยนมาเป็นความสุข แม้ความทุกข์ทรมาน ที่เกิดจากโรคภัยใช้เจ็บ ก็จะเลือนหายไป
ยกตัวอย่าง ผู้ป่วยโรคมะเร็งท่านหนึ่ง คุณหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่อีกไม่กี่เดือน ให้ร่ำลาหมู่ญาติ เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม
ผู้ป่วยฟังแล้วใจเศร้าหมอง เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะไป ไหนชีวิตในสัมปรายภพจะเป็นอย่างไรมีความกังวลมากทุกข์ทั้งกายทั้งใจ
แต่เมื่อได้ขอดกัลยาณมิตรไปแนะนำให้ฝึกสมาธิ ให้ปล่อยวางเรื่องความเจ็บป่วย อย่ากังวลเรื่องที่คุณหมอบอก
ซึ่งมีแต่จะทำให้เกิดความวิตกกังวล และให้กำหนดจิตตัดไรทำใจให้แน่วแน่อยู่กลางกาย ให้ใจหยุดนิ่งอยู่ภายในตัว
เมื่อตั้งใจทำอย่างจริงจังแล้ว ผลแห่งการปฏิบัติอย่างจริงจังย่อมปรากฎ แม้ร่างกายจะเจ็บป่วยด้วยโรคภัยที่ร้ายแรงแต่ก็สู้กำลังใจที่เข้มแข็งแน่วแน่ และการฝึกใจให้หยุดนิ่งไม่ได้
ในที่สุดก็สามารถเอาชนะทุกขเวทนาได้ ใจหลุดจากสังขารแห่งความทุกข์ทรมาน หยุดนิ่งเข้าถึงความสว่างภายใน เห็นดวงปฐมมรรค เห็นกายมนุษย์ละเอียด และในที่สุดก็เข้าถึงองค์พระธรรมกายในตัว
ความสุขก็พรั่งพรูออกมา จนลืมไปว่า ตัวเองเจ็บใช้ได้ป่วย ลืมไปว่าคุณหมอบอกว่า จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน ลืมความทุกข์ทรมานทั้งหมด มีแต่สุขอย่างเดียว สุขอยู่ในพระธรรมกายที่สว่างไสว ไม่หวาดกลัวต่อมรณภัย มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีปีติเบิกบาน
สิ่งที่เหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น ทำให้คำพยากรณ์ของคุณหมอคลาดเคลื่อนไป จากที่ว่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน กลับกลายเป็นว่า มีอายุยืนยาวต่อมาได้อีก ๑๐ ปี
ทำให้หมออัศจรรย์ใจว่า คนไข้คนนี้ ทำไมมีหน้าตาเบิกบาน เนื้อตัวสะอาดเกลี้ยงเกลา ดวงตาสดใส ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ผู้ที่มาเยี่ยมไข้ คุณหมอ คุณพยาบาลก็ได้กำลังใจจากผู้ใช้ ผู้ใข้ก็มีความสุขอยู่ในกลางพระธรรมกายที่ชัดใสแจ่ม
ดังนั้น พระธรรมกายจึงเป็นที่พึ่งที่ระลึกอย่างสำคัญ ที่ช่วยขจัดทุกข์โศกโรคภัยได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องฝึกสมาธิ ทำใจให้เบิกบาน ให้อยู่เหนือความทุกข์ เหนือความวิตกกังวลให้ใจอยู่ในบุญ แล้วก็ทำใจให้หยุดนิ่ง ๆ เฉยๆ ที่ศูนย์กลางกาย
ถ้าได้ดวงธรรม เราก็ตรึกในกลางดวงธรรม ถ้าได้กายภายใน เราก็ตรึกในกลางกายกายใน ถ้าได้องค์พระ เราก็ตรึกในกลางองค์พระ ถ้ายังไม่ได้อะไรเราก็กาวนา สัมมาอะระหังเรื่อยไป ใจนิ่งอยู่ตรงกลางตรงนั้น
แล้วนึกอาราธนาพระนิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย พระอริยบุคคลทั้งหลาย ให้ลงมาปกปีกรักษาเรา ขจัดสิ่งที่ไม่ดีกายในร่างกายให้หมดสิ้นไป แล้วทำใจใส ๆสบาย ๆ เบิกบาน แช่มชื่น ราวกับผู้นิรทุกข์ ไม่เคยเจ็บป่วยไข้เลย
ถ้าทำได้อย่างนี้ ไม่ช้าเราจะเข้าถึงธรรม จะเป็นคนป่วยที่สง่างาม องอาจ อยู่ในสายตาของชาวสวรรค์ เขาจะชื่นชมยินดีกับผู้ป้วยที่มีที่พึ่งทางใจ แม้ป่วยกายแต่รัศมีธรรมจากใจก็สว่างวาบ
ดวงตาทุกคู่ของชาวสวรค์ ก็จะจ้องมองมาที่เรา ใจจะสดชื่น เบิกบานในทุกสถานการณ์ เป็นคนป่วยที่ให้กำลังใจแก่หมอ พยาบาล และผู้มาเยี่ยมใช้ อย่างนี้ เรียกว่าป่วยอย่างสง่างาม
การฝึกใจให้หยุดนิ่ง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต เป็นที่พึ่งแก่เราได้ อย่าให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรค เราจะอาศัยกายมนุษย์นี้อยู่เพียงชั่วคราว ให้รีบชิงช่วงความแข็งแรงและสดชื่นของร่างกายนี้ ก่อนที่จะถูกช่วงชิงความแข็งแรงความสดชื่นไป
คำสอนคุณครูไม่ใหญ่
๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
จากหนังสือ สิ่งที่ต้องแสวงหา ๒ (หน้า ๑๑๔ - ๑๑๗)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
โฆษณา