16 ก.ย. เวลา 13:30 • ความคิดเห็น

เคยมีทรัพย์สินกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ล้มละลายพร้อมหนี้ 800 ล้านบาท

บทเรียนการเงินจาก 'ไมค์ ไทสัน' มฤตยูดำตำนานแชมป์โลกเฮฟวีเวต ขึ้นสุดในรุ่น ดิ่งสุดจนเกือบดับแต่ยังกลับมาได้
🥊👑 หนึ่งในนักมวยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ที่เคยมีทรัพย์สินรวมกว่า 10,000 ล้านบาท แต่กลับต้องเผชิญกับการล้มละลายพร้อมหนี้เกือบ 800 ล้าน วันนี้ #aomMONEY จะพาไปดูการขึ้นสุดในรุ่น ดิ่งลงจนเกือบดับ แต่ก็กลับมาผงาดได้อีกครั้งของชายที่ชื่อ ‘ไมค์ ไทสัน’
สาเหตุใดที่ทำให้นักมวยยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง
กลับกลายเป็นคนไร้ทรัพย์สิน
และอะไรทำให้เขากลับมาได้
🏙️ [[ #การเติบโตของเด็กสลัมในบรูคลิน ]]
ไมค์ ไทสัน (Mike Tyson) เกิดเมื่อปี 1966 บรูคลิน, นิวยอร์ก (Brooklyn, New York) เขาเติบโตในย่านที่มีปัญหาที่สุดของเมือง พ่อทิ้งเขาไปตั้งแต่อายุได้เพียง 2 ขวบ ปล่อยให้ ‘ลอร์นา เมย์ สมิธ’ (Lorna Mae Smith) ผู้เป็นแม่ต้องเลี้ยงดูไมค์และพี่น้องด้วยความยากลำบาก
ไมค์ถือว่าเป็นเด็กแสบคนหนึ่ง ในวัยเพียง 13 ขวบ เขาถูกจับไปถึง 38 ครั้ง กระทั่งถูกส่งตัวไปสถานพินิจและได้พบกับ ‘บ็อบบี้ สจ๊วต’ (Bobby Stewart) อดีตนักมวยที่เห็นศักยภาพในตัวเขา และแนะนำให้รู้จักกับ ‘คัส ดามาโต’ (Cus D'Amato) ผู้ฝึกสอนมวยที่เปรียบเสมือนพ่อ และผู้ถ่ายทอดวิชาให้เขา จนกลายเป็น "มฤตยูดำ"
1
💰💰💰 [[ #นักชกพันล้าน ]]
2
ไมค์ ไทสัน ชกอาชีพในวัยอาชีพในวัยเพียง 18 ปี ด้วยฝีไม้ลายมือที่โดดเด่น เขาจึงเป็นที่จับตามอง และในวัยเพียง 20 ปี ไมค์ก็เอาชนะ ‘เทรเวอร์ เบอร์บิก’ (Trevor Berbick) และกลายเป็นแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ในปี 1986 ต่อมาก็สร้างสถิติ เป็นนักชกเฮฟวีเวตคนแรกที่ครอบครองเข็มขัดแชมป์รายการสำคัญทั้ง 3 เส้น (WBA, WBC และ IBF) ขึ้นเป็นเบอร์ 1 แห่งวงการมวย
2
📉 [[ #กราฟชีวิตที่ร่วงหล่น ]]
ไทสันมีรายได้มากมายจากการชกมวย ในปี 1987 เขาเซ็นสัญญากับ ‘HBO’ มูลค่า 27,000,000 ดอลลาร์ ( 910 ล้านบาท) ต่อด้วยการเซ็นสัญญากับ ‘Showtime’ (ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรทัศน์) มูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ (4,050 ล้านบาท) สร้างสถิติชนะ 19 ครั้งติดต่อกัน และน็อกคู่ต่อสู้ถึง 12 ครั้ง
1
มาแพ้ครั้งแรกให้กับ ‘เจมส์ "บัสเตอร์" ดักลาส’ (James "Buster" Douglas) ในปี 1990 ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในการพลิกล็อกที่สุดในประวัติศาสตร์มวย ต่อมาก็แพ้ให้กับตำนานมวยอีกคนอย่าง ‘อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์’ (Evander Holyfield)
1
ปี 1992 เกิดเหตุการณ์สำคัญ ไมค์ ไทสัน ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี ในข้อหาข่มขืน แต่ได้รับการลดโทษและถูกปล่อยตัวในปี 1995 และกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งในปี 1996 และคว้าแชมป์ WBA และ WBC อย่างไรก็ตาม การชกกับอีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ อีกครั้งในปี 1997 ก็เกิดเหตุการณ์ ‘กัดหู’ สะเทือนโลก ทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์และถูกพักใบอนุญาตชกมวยชั่วคราว และแม้จะกลับมาชกได้อีกครั้ง ในปี 1998 แต่ก็มีสถิติที่ไม่ค่อยดี กระทั่งเลิกชกไปในปี 2004 สิ้นสุดเส้นทางบนสังเวียน
💸 [[ #หายนะทางการเงิน ]]
เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า ไมค์ ไทสันเป็นคนที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาก โดยมีการคำนวณว่า ตั้งแต่ที่เขาชกมวยอาชีพ (1984) จนกระทั่งแขวนนวม ไทสัน มีรายได้กว่า 400 ล้านเหรียญ (13,500 ล้านบาท) แต่ในปี 2003 ไมค์ ไทสันยื่นล้มละลาย และมีหนี้สูงถึง 23 ล้านดอลลาร์ (775 ล้านบาท) โดยไมค์ยอมรับว่าเขาใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายและขาดการวางแผนการเงินที่ดี
💎 โดยที่เขาเป็นนักมวย ไทสันใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งการซื้อของแปลกๆ มอบของขวัญราคาแพงให้คนเพื่อนฝูง และจ้างบริวารจำนวนมากเพื่อทำงานโดยให้เงินเดือนสูง
🐯 เขาเคยซื้อเสือโคร่งเบงกอล ราคาประมาณ 70,000 ดอลลาร์ (2.5 ล้านบาท) จำนวน 3 ตัว พร้อมเสียค่าเลี้ยงดูกว่า 300,000 ดอลลาร์ต่อปี (10 ล้านบาท), ใช้เงินกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ (150 ล้านบาท) ไปกับการซื้อรถยนต์หรูหลายรุ่น และซื้อรถให้เพื่อนๆ เป็นของขวัญมากกว่า 12 คัน
🏠 นอกจากนี้ เขาซื้อบ้านหรูราคา 4 ล้านดอลลาร์ (135 ล้านบาท) ที่มีไนต์คลับและกาสิโนในตัวที่ลาสเวกัส และจ่ายเงินกว่า 300,000 ดอลลาร์ (10 ล้านบาท) ต่อปีในการดูแลสวนและสนามหญ้า อีกทั้งยังซื้ออ่างอาบน้ำเคลือบทองคำมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ (67 ล้านบาท) ให้ภรรยาด้วย (ของแทร่)
1
แม้ว่าเขาจะมีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย แต่สิ่งที่ดูดเงินของเขาไปมากที่สุด กลับเป็นการร่วมหุ้นกับโปรโมเตอร์มวยชื่อดัง ‘ดอน คิง’ (Don King) โดยมีรายงานว่าคิงรับเงินส่วนแบ่งมากถึง 50% จากรายได้ของไทสัน และจากการใช้จ่ายที่ไม่ระมัดระวังและการจัดการการเงินที่ผิดพลาด ไทสันจึงสูญเสียความมั่งคั่งเกือบทั้งหมดของชีวิต
🔄💪 [[ #การกลับมาไทสัน ]]
1
“ผมสิ้นเนื้อประดาตัว แต่ก็สนุกกับมันมากๆ” ไทสันกล่าวในการให้สัมภาษณ์ในรายการ “The View” เพื่อโปรโมทละครบรอดเวย์ที่สร้างจากชีวิตของเขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจที่ทำให้เขาฟื้นกลับขึ้นมาได้
💊 หลังจากที่เขาเป็นหนี้มากกว่า 23 ล้านเหรียญ ไทสันต้องเข้ารับการบำบัดยาเสพติด และใช้เวลากว่า 10 ปีในการฟื้นฟู โดยเขายอมรับว่ากว่าจะผ่านช่วงนั้นของชีวิตเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่เขายังมี ‘ลาคินา สไปเซอร์’(Lakiha 'Kiki' Spicer) ภรรยาคนที่ 3 และเพื่อนๆ กลุ่มหนึ่งที่ยืนเคียงข้าง
🎬 โดยเขาเริ่มกลับรับงานโชว์ตัวตามกาสิโน หรืองานอีเวนต์ต่างๆ แม้เงินที่ได้จะไม่ได้เยอะเท่าสมัยเป็นนักมวย จากนั้นก็ได้รับโอกาสแสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ‘The Hangover’ หรือ ‘How I Met Your Mother’ ทำให้เขากลับมามีชื่อเสียงและถูกมองในแง่ที่ดีขึ้น
ในปี 2012 เขามีงานแสดงบรอดเวย์เรื่อง ‘Mike Tyson: The Undisputed Truth’ ที่สร้างมาจากชีวิตของไมค์ โดยทำการแสดงถึง 36 ประเทศ ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งทำให้เขารู้เริ่มชื่นชอบการแสดงอย่างจริงจัง
📚 2013 ไทสันเปิดตัวหนังสือที่ชื่อว่า ‘Undisputed Truth’ และอีกเล่มใน 2014 ที่ชื่อว่า ‘Iron Ambition: My Life with Cus D'Amato’ ซึ่งก็ได้การตอบรับที่ดี จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจกัญชาด้วยการเปิดตัว ‘Tyson Holistic Holdings’ ในปี 2016 ก่อนจะพัฒนาเป็น ‘Tyson 2.0’ ในปี 2021
1
นอกจากนี้ยังมีข่าวการขึ้นชกกับ ‘เจค พอล’ (Jake Paul) ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2024 โดยจะถ่ายทอดผ่านทาง #Netflix 📺🥊
2
และเพื่ออุดช่องว่างการวางแผนการเงินที่ผิดพลาด ไทสันเลือกให้มืออาชีพเข้ามาดูแลทรัพย์สิน รวมถึงการลงทุนของเขาด้วย ซึ่งเป็นการวางแผนที่ถูกต้อง เพราะทำให้ทรัพย์สินที่มีเพิ่มพูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งการเงิน ชื่อเสียง และการใช้ชีวิต
ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า ทรัพย์สินรวมของ ไมค์ ไทสัน มีอยู่ราว 10 ล้านดอลลาร์ (340 ล้านบาท) แม้เทียบไม่ได้กับช่วงที่เขารุ่งเรือง แต่หากคิดว่าทรัพย์สินเหล่านี้ได้มาหลังจากการเป็นหนี้กว่า 23 ล้านดอลลาร์แล้ว นี้คือการกลับมาที่ยิ่งใหญ่
หลายคนบอกว่า ความสำเร็จครั้งนี้ ยิ่งใหญ่กว่าสมัยที่เขาได้แชมป์โลก 3 สถาบันเสียอีก และทั้งหมดนี้เกิดจากความพยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นให้ได้ ความพยายามของตำนานนักชกผู้ถูกขนานนามว่า “มฤตยูดำ”
2
🥊 มีคำกล่าวหนึ่งจาก Rocky Balboa ตัวละครนักมวยอาชีพจากภาพยนตร์ Rocky อันโด่งดังที่บอกว่า
“ไม่สำคัญว่าคุณจะต่อยหนักแค่ไหน แต่สำคัญที่ว่าคุณรับหมัดได้แรงแค่ไหนและยังเดินหน้าต่อไปได้”
2
🌟 ชีวิตของไทสันก็คงเป็นแบบตัวอย่างที่ดีมากๆ สำหรับเรื่องนี้
เรียบเรียงโดย อติพงษ์ ศรนารา
อย่าพลาดโอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ดีขึ้น!
เตรียมพบกับ Make Rich Expo มหกรรมการลงทุนแห่งชาติ ที่จะพาคุณก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนที่ทันสมัยและเข้าใจง่ายกว่าที่เคย! ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดลงทุน หรือผู้ที่มีประสบการณ์ เรามีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างความมั่งคั่งในอนาคต
เข้าร่วมงานฟรี!!
ลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้แล้ววันนี้ ที่ https://bit.ly/4dSTfcK
แล้วพบกันวันที่ 2 - 3 November 2024 เวลา 10.00 - 19.00 น. ณ Paragon Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้า Siam Paragon
#aomMONEY #MakeRichExpo #WorkLifeFestival2024 #ออมมันนี #มฤตยูสีดำ #มวย #แรงบันดาลใจ #การเงิน #การลงทุน #วางแผนการเงิน #ไมค์ไทสัน
โฆษณา