17 ก.ย. เวลา 11:57 • ความคิดเห็น
"เด็กเลี้ยงควายกับสาวทอผ้า" เป็นตำนานรักโรแมนติกของชาวจีนที่ผมชื่นชอบมากที่สุด นิทานเรื่องนี้สอดแทรกทั้งแนวคิดแบบขงจื้อและปรัชญาเต๋า แม้ผมคิดว่าจะเป็นการโปรเต่ามากกว่าขงจื้อก็ตาม (แน่นอนความคิดนี้ของผมอาจจะผิด)
เด็กเลี้ยงควายไม่ได้เป็นเพียงเด็กเลี้ยงควายที่หาได้ง่าย ๆ เขายังกอรปด้วยความซื่อตรงและความกตัญญูรู้คุณ ซึ่งเป็นคุณธรรมหลักของขงจื้อ และเหนือสิ่งอื่นใด เขายังมีเมตตาธรรมต่อควายซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงเอาไว้ใช้งานในยุคเกษตรกรรมนั้นอีกต่างหาก เขามองควายของเขาเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนพี่น้อง ไม่ได้มองว่าเป็นเพียงปัจจัยการผลิตตามที่คนในยุคสมัยนั้นควรจะมอง
เขาดูแลควายของเขาเป็นอย่างดี จนสุดท้ายเมื่อควายตัวนั้นตายด้วยความแก่ชราและการใช้งานหนักมากเกินไป(ตอนแรกควายเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้านายของเขา จนต่อมาเจ้านายจึงยกให้ หากผมจำนิทานเรื่องนี้ไม่ผิด) ควายจึงได้ตอบแทนเขาด้วยการบอกเรื่องราวของ "สาวสวรรค์" ซึ่งตอนนี้จะเห้นได้ว่าเป็นอนุภาคเดียวกันกับเรื่อง "พระสุธนมโนราห์" ของไทยเรา ซึ่งตรงนี้เองที่ผมมองว่าเป็นการฉีกขบนประเพณีในยุคนั้น
คนธรรมดาสามัญ ซึ่งว่ากันที่จริงเป็นคนชั้นล่างของสังคมเสียด้วย กลับได้ครองรักกับสาวงามแห่งสรวงสวรรค์ ในยุคที่สังคมจีนเองก็ได้รับอิทธพลจากปรัชญาสำนักฃงจื้อที่เน้นเรื่องความสัมพันธ์ที่เที่ยงตรงของผู้คนในสังคม นายส่วนนาย บ่าวส่วนบ่าว หรือที่ขงจื่อเรียกว่า "ทำนามให้เที่ยง" การที่คนชั้นล่างสามารถมีรักกับสาวงามบนสวรรค์ได้อย่างนี้นับเป็นการฉีกขนบถึงขั้น "ฝืน" ขนบเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ตามตำนานรักเรื่องนี้กลับจบลงด้วยความเศร้า เมื่อผู้ครองสวรรค์ที่เป็นเพศหญิง(ผมจำชื่อเธอไม่ได้เสียแล้ว)รับรู้การฝ่าฝืนกฎอันร้ายแรงนี้เข้า เธอจึงมานำสาวทอผ้ากลับสวรรค์ แม้หนุ่มเลี้ยงควายจะได้ของวิเศษจากควายทำให้เหาะเหินเดินอากาศพาลูกพาเต้าติดตามคนรักไปได้ แต่ผู้ทรงอำนาจแห่งสวรรค์นางนั้นก็ยังไม่วายเสกทางช้างเผือกมากางกั้นคนรักทั้งสองไว้
ว่ากันว่าในแต่ละปีหนุ่มเลี้ยงควายกับสาวทอผ้าจะสามารถพบกันได้เพียงหนึ่งครั้งด้วยสะพานนกกระเรียนที่ทอดข้ามทางช้างเผือกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนั้น วันนี้ชามวญี่ปุ่น(ซึ่งก็รับเอาวัฒนธรรมของชาวจีนมาอีกที)เรียกกันว่าเทศกาล "ฮินาบาตะ" ส่วนชื่อวันของชาวจีนนั้นผมจำไม่ได้เสียแล้วว่าเรียกว่าอะไร
ฉะนั้น "เด็กเลี้ยงควายได้ไปสวรรค์สุขใจถาวร ไร้มลทิน แต่ถ้าอยากไปนรกก็จงแสวงหายศฐาอำนาจ" เป็นคำกล่าวที่ชอบใจผมเลยทีเดียว แม้ว่าความจริงแล้ว ยากแท้จะพบเรื่องเช่นนี้ได้ 😜
โฆษณา