18 ก.ย. เวลา 04:51 • ข่าวรอบโลก

คูฮารา กฎหมายที่แลกด้วยชีวิตของนักร้องสาว

“คูฮารา” กฎหมายที่แลกด้วยชีวิตของคนคนหนึ่ง เมื่อแม่ของ “คู ฮารา” นักร้องเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี “KARA” ที่ทอดทิ้งลูกไม่เคยเลี้ยงดู ส่งเสีย พอเธอจากไปก็มาเรียกร้องเอาสมบัติ กฎหมายจึงถูกประกาศขึ้นเพื่อป้องกันพ่อแม่ใจยักษ์ใช้อ้างสิทธิ์ในตัวลูกและทรัพย์สมบัติ มีผลบังคับใช้ปี 2026
แม้ใครจะบอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เคยคิดจะทำร้ายลูก คนเป็นลูกต้องกตัญญูทดแทนบุญคุณ แม้ว่าจะไม่เคยเลี้ยงดูมาก็ตาม เพราะนั่นคือผู้ให้กำเนิด ซึ่งบางครั้งกรอบความคิดนี้เป็นสิ่งที่บีบรัดสังคมและทำร้ายตัวบุคคลที่ทั้งชีวิตไม่เคยได้สัมผัสกับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ เพราะถูกทอดทิ้งไปตั้งแต่เด็ก และไม่เคยคิดที่จะส่งเสียเลี้ยงดูใดๆ
แต่วันหนึ่งชีวิตก้าวสู่การเป็นบุคคลสาธารณะ มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นศิลปิน ดารา หรือสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจนเป็นเศรษฐี บุคคลที่เป็นเพียงแค่ผู้เบ่งก้อนเนื้อที่เขาไม่ต้องการ กลับเข้ามาในชีวิตเพื่อทวงสมบัติที่ไม่เคยร่วมสร้างขึ้นมาจากก้อนเนื้อที่ถูกทอดทิ้ง
โดยทวงบุญคุณว่าเป็นผู้ให้กำเนิด หรือเมื่อวันที่จู่ๆ คนดังคนนั้นต้องเสียชีวิตกระทันหัน อดีตคนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นก็จะมาเรียกร้องเอาสมบัติจากลูกที่สิ้นลมหายใจไป ทั้งๆ ที่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวแล แต่ผู้ที่เลี้ยงดู ให้ความรัก ความอบอุ่นที่แท้จริงที่แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดกลับถูกฟ้อง หรือไม่ได้สิทธิอะไรในสมบัติ ซึ่งเรื่องนี้ได้เกิดการถกเถียงกันขึ้นในสังคม และได้นำไปสู่การประกาศเป็นกฎหมายใหม่ที่ปกป้องทรัพย์สมบัติของผู้วายชน ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือพ่อแม่ที่ไม่เคยดูแลลูกให้ได้ผลประโยชน์
“กฎหมายคูฮารา” (Goo Hara Act) กฎหมายที่แลกมาด้วยชีวิตของคนๆ หนึ่ง ซึ่งเธอคือ “คู ฮารา” อดีตนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีใต้ “KARA” ที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันในบัานของตัวเองเมื่อปี 2019
แน่นอนว่าการเสียชีวิตของเธอก่อนวัยอันควรนำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่แฟนคลับ และครอบครัวที่ไม่ใช่พ่อหรือแม่ของเธอ เพราะพ่อและแม่ของฮาราได้แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก และแม่ของเธอก็ไม่เคยเหลียวแล เลี้ยงดู ส่งเสียใดๆ ซึ่งคนที่เลี้ยงดูคู ฮารา และพี่ชาย คู โฮอิน มีเพียงคุณย่า และคุณป้าเท่านั้น
แต่เมื่อเธอจากไปจู่ๆ ผู้เป็นแม่ก็ปรากฎตัวเพื่อเรียกร้องทรัพย์สมบัติของฮารา ซึ่งสร้างความไม่พอใจอย่างมากทั้งจากครอบครัวที่เลี้ยงดูเธอ จากแฟนคลับ และผู้คนในเกาหลีใต้ โดยแม่ของเธออ้างว่าฮาราเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขโดยตรง ต่อให้ไม่เคยเลี้ยงดูผู้เป็นแม่ก็ควรจะได้มรดกนี้อย่างน้อย 50%
1
ตามกฎหมายครอบครัวของเกาหลีใต้ในขณะนั้นระบุว่า กรณีที่บุคคลเสียชีวิตโดยไม่มีคู่สมรสหรือบุตร บิดามารดาจะสามารถรับมรดกได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เลี้ยงดูมาด้วยตนเองก็ตาม ยกเว้นในกรณีรุนแรง เช่น การฆาตกรรมหรือปลอมแปลงพินัยกรรม โดยศาลจะแบ่งทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตให้ผู้ปกครองอย่างเท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย
การเรียกร้องจะเอามรดกให้ได้ของแม่นักร้องสาว สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับครอบครัวที่เลี้ยงดูเธอ โดยเฉพาะพี่ชายของฮารา ที่แม้ว่าจะเป็นลูกในไส้ของแม่ใจยักษ์เช่นกัน แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดที่คนเป็นแม่แท้ๆ ก็ทอดทิ้งเขาไปไม่ต่างจากน้องสาว จึงเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้วายชน โดยยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้มีการพิจารณาการแบ่งทรัพย์สมบัติอย่างเหมาะสมอีกครั้ง ศาลมีคำตัดสินให้แบ่งทรัพย์สินในอัตรา 6 ต่อ 4 จากปกติจะแบ่งในอัตรา 5 ต่อ 5
และหลังจากนั้นก็มีการผลักดันการแก้ไขกฎหมาย “ปกป้องสิทธิ์และมรดกของลูกที่ถูกผู้ปกครองทอดทิ้งละเลย” เกิดขึ้นในเกาหลีใต้อีกด้วย ซึ่งในครั้งแรกกฎหมายดังกล่าวไม่ผ่านสภา
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยความพยายามเรียกร้องตลอด 1 ปี ประชาชนชาวเกาหลีใต้ก็ตื่นตัวกับเรื่องนี้ และเห็นด้วยกับแนวคิดของกฎหมายดังกล่าว โดยมีการลงชื่อสนับสนุนมากกว่า 1 แสนคน จนกระทั้งสภาได้นำกฎหมายนี้เข้าสู่วาระการพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม 2020
รัฐสภาเกาหลีใต้ใช้เวลาเพียง 4 เดือนเศษ ก็มีการกำหนดร่างรัฐบัญญัติว่าด้วยการตัดสิทธิผู้ปกครองที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการสืบทอดมรดกของบุตร โดยระบุไว้ว่า
“บุคคลที่บกพร่องในการทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตร เช่น ทอดทิ้ง ละเลยบุตร หรือไม่มีความรับผิดชอบในการเป็นผู้ปกครองของบุตร หรือการก่ออาชญากรรม เช่น การไม่ดูแลบุตร หรือ ทารุณกรรมบุตร จะถูกตัดสิทธิจากการสืบมรดกของบุตรหากมีการพิสูจน์ได้ว่าการกระทำนั้นเป็นความจริง”
​​หลังจากนั้นกฎหมายนี้ก็มีการปรับแก้อีก 4 ปี จนกระทั้งกลายเป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ จนเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2024 “กฎหมายคูฮารา” ซึ่งตั้งชื่ออุทิศให้กับนักร้องสาวผู้วายชนได้ผ่านการพิจารณาโดยรัฐสภาแห่งชาติเกาหลีใต้ครั้งที่ 22 เป็นที่เรียบร้อย ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ไม่ให้ผู้ปกครองที่ละเลยความรับผิดชอบหน้าที่ผู้ปกครองที่พึ่งกระทำต่อบุตรหลานได้รับทรัพย์สินของพวกเขา
เนื้อหาเพิ่มเติมในกฎหมายคูฮาราที่มีการแก้ไขครั้งสุดท้ายก่อนประกาศบังคับใช้จริงคือ ได้เพิ่มการพิจารณาความชอบธรรม และรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวที่มีสิทธิรับมรดกกับผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือคู่สมรส ก่อนที่จะมอบมรดกให้แก่บุคคลผู้นั้น
ดังนั้นหาพบว่าบุคคลที่มีสิทธิได้รับมรดกมีพฤติกรรมที่ละเลย ไม่สนับสนุน หรือเลี้ยงดูผู้ตาย พวกเขาก็จะไม่มีสิทธิที่จะได้รับมรดก ทั้งนี้หากผู้ตายไม่มีพินัยกรรม ทายาทร่วมสามารถร้องขอให้สูญเสียสิทธิการรับมรดกต่อศาลครอบครัวได้ โดยจะต้องยื่นคำร้องภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ทราบว่าบุพการีสายตรงไม่ทำหน้าที่ ไม่ดูแลผู้ตาย
แม้ว่ากฎหมายดังกล่าวจะไม่มีผลย้อนหลังในกรณีของคู ฮารา เนื่องจากศาลได้ตัดสินไปเป็นที่เรียบร้อยและครอบครัวของเธอได้มีการรับมรดกตามที่ศาลได้มีคำสั่งให้แบ่งมรดกแล้ว แต่นี้ถือเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญของสังคมเกาหลีใต้ ที่กฎหมายที่ถูกเสนอและเรียกร้องโดยประชาชนคนหนึ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถผลักดันเข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภา
และออกมาเป็นกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองและครอบครัว แม้ว่าในตอนเแรกมันจะต้องแลกมาด้วยชีวิตของคนๆ หนึ่งที่ต้องสูญเสียไปก็ตาม แต่สุดท้ายความพยายามรักษาความเป็นธรรมของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ข้างหลังก็ผลักดันจนกระทั่งความเป็นธรรมนั้นได้ประโยชน์ต่อสังคมและผู้คนรุ่นต่อไป
โฆษณา