19 ก.ย. เวลา 04:55 • การตลาด

ชวนคุยกับ kaopoon Talk เผยเทคนิคปั้นเพจข่าวโนเนม จนกลายเป็นเพจสุดปัง ด้วยความกล้าที่จะนำเสนอ

เชื่อว่าใครหลายคนที่เล่น Blockdit เพื่อติดตามข่าวเป็นประจำอยู่แล้ว ต่างต้องคุ้นเคยผ่านตากับเพจสายข่าวที่สุดแสนจะอินเทรนด์ มีการเล่าเรื่องสรุปประเด็นข่าวที่เข้าใจง่าย เน้นที่เนื้อ ไม่เน้นน้ำ อย่างเพจ kaopoon Talk อย่างแน่นอน
6
ซึ่งทีม ‘บล็อกดิต’ (Blockdit) ได้มีโอกาสติดต่อไปเพื่อขอนัดสัมภาษณ์พูดคุยกับ คุณปพนวิช เดชะศิริ หรือคุณข้าวปุ้น หนุ่มตี๋หน้าตาดีสไตล์เกาหลี เจ้าของเพจ kaopoon Talk นั่นเอง
5
จากการพูดคุยกันมีหลายเรื่องเลยที่ทำให้เรารู้สึกทึ่งไปกับคำตอบ วิสัยทัศน์ แนวความคิด รวมถึงวิธีการสร้างสรรค์ผลงานที่ส่งผลให้เพจ kaopoon Talk นั้นดังเปรี้ยงปร้างจนมีผู้ติดตามตอนนี้มากถึง 29,000 คนเลยทีเดียว
8
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณข้าวปุ้นถึงทำคอนเทนต์บน Blockdit ได้สำเร็จขนาดนี้ ถือว่าเป็นชาว Blockditor ที่น่าเรียนรู้เป็นอย่างมาก
ถ้าอยากรู้ว่าเพจ kaopoon Talk นั้นมีจุดเริ่มต้นเป็นมาอย่างไร? แล้วคุณข้าวปุ้นมีกระบวนการวิธีคิดคอนเทนต์อย่างไรให้ถูกใจคนอ่าน
ไปจนถึงมุมมองแนวความคิดต่างๆอันเป็นประโยชน์ ที่นักทำคอนเทนต์ทุกคนจะได้นำเอาไปประยุกต์ใช้กับเพจของตัวเองได้อย่างแน่นอน ต้องห้ามพลาดบทสัมภาษณ์ Blockditor Corner นี้เลย
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปกันเลย
อ๊ะ! อย่าลืมกดแชร์โพสต์นี้ให้ด้วยนะ กดแชร์ให้ก่อนเลย
สวัสดีคุณข้าวปุ้นด้วยนะครับ ทีม Blockdit ขอเริ่มต้นคำถามง่ายๆก่อน เพื่อให้เพื่อนๆทุกคนที่อ่านได้รู้ถึงความเป็นมาของเพจ ซึ่งคิดว่าเป็นคำถามที่หลายคนก็อยากรู้กันอยู่อย่างแน่นอน
  • 🎙️ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าคอนเทนต์หลักของเพจ kaopoon Talk นั้นมีอะไรบ้าง? และทำไมถึงเลือกที่จะทำคอนเทนต์แนวนี้ ❓
💬คุณข้าวปุ้นตอบว่า
ถ้าให้พูดแบบเร็ว ๆ คงตอบได้ว่าคอนเทนต์หลักของเพจ Kaopoon Talk คือการ “นำเสนอข่าว” ครับ แต่ถ้าให้เจาะลึกลงไปผมว่ามันสามารถแบ่งได้เป็น 3 หัวข้อย่อย คือ
สรุปข่าว/เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
นำเสนอข่าวต่างประเทศในหมวดของสังคมและการเมือง นำเสนอบทความที่มีเนื้อหาจรรโลงใจอ่านแล้วไม่เครียด เช่น เรื่องขำขันที่เป็นไวรัล หรือเรื่องราวของหญิงสาวมากมายจากทั่วทุกมุมโลก
ส่วนตัวเป็นคน “ชอบตามข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ” อยู่แล้ว ทุกครั้งที่ได้อ่านข่าวตามเว็บหรือช่องทางต่าง ๆ มักเห็นสิ่งที่เหมือนกันคือ “ความยืดเยื้อก่อนจะเข้าเนื้อหาของข่าว”
ประกอบกับในช่วงที่เปิดเพจ Kaopoon Talk ใหม่ ๆ ตอนนั้นยังเป็นช่วงค้นหาตัวตน หรือเอาง่าย ๆ ก็คือ คิดไม่ออกว่าจะเขียนบทความอะไรหรือทำคอนเทนต์แนวไหน
พอได้ลองเขียนบทความไปหลากหลายแนว สุดท้ายเลยเลือกที่จะทำคอนเทนต์แนวสรุปข่าวเพราะคิดว่าน่าจะเป็นแนวที่ตัวเองถนัดที่สุด และน่าจะเป็นแนวที่คนอ่านชอบ เพราะผมกำหนดไว้ว่าบทความในเพจ Kaopoon Talk “ต้องอ่านจบเร็ว เข้าใจง่าย เน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ” 💡
แต่อย่างไรก็ตาม การจะทำแต่บทความแนวสรุปข่าว หรือนำเสนอข่าวต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ผมกลับมองว่ามันน่าเบื่อหน่าย ดังนั้นผมจึงสอดแทรกด้วยการนำเรื่องราวไวรัลขำขัน หรือเรื่องที่เบาสมองมาทำด้วยปะปนกันไป เพื่อให้ทั้งตัวคนอ่านและคนเขียน (ผมเอง) รู้สึกสนุกไปกับมันครับ
พอรู้ที่มาของเพจ kaopoon Talk กันแล้ว ทีนี้อยากรู้เกี่ยวกับการทำคอนเทนต์บ้าง
  • 🎙️การทำคอนเทนต์ขึ้นมา 1 ชิ้น มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง❓
💬คุณข้าวปุ้นตอบว่า
ด้วยความที่คอนเทนต์หลักของเพจคือการ สรุปและนำเสนอข่าว ดังนั้นสิ่งที่ต้องมีเป็นอย่างแรกเลยก็คือ “ข่าวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” ณ ตอนนั้น
ขั้นตอนที่สองคือเวลาในการนั่งอ่านและทำความเข้าใจกับข่าวหรือเหตุการณ์นั้น
.. ขั้นตอนที่สามคือนำข้อมูลเหล่านั้นมาเขียนสรุปแบบเข้าใจง่ายลงเพจ และขั้นตอนที่สี่หรือก็คือขั้นตอนสุดท้าย คือการแต่งภาพหน้าปกบทความเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
  • 🎙️สงสัยว่าทำไมถึงเลือกทำคอนเทนต์ลงบน Blockdit❓
💬คุณข้าวปุ้นเล่าให้ฟังต่อว่า
ถ้าให้พูดอย่างตรงไปตรงมาก็คงบอกตรง ๆ ว่า ผมรู้จัก Blockdit เพราะมีเพจ ๆ หนึ่งในเฟสบุ๊คนำไปโปรโมตทำนองว่า “Blockdit เป็นแอพเขียนบทความที่สามารถสร้างรายได้จากบทความที่เขียนได้” นั่นคือความสนใจแรกที่ผมมีต่อ Blockdit
ส่วนความสนใจที่สองนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ผมเข้ามาเปิดเพจ Kaopoon Talk ครับ ตอนนั้นสังคมใน Blockdit ยังเป็นสังคมเล็ก ๆ ที่เหล่าครีเอเตอร์เจ้าของเพจทั้งหลายมักเข้ามาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับรู้จักกันมานาน
เพจของทุกคนต่างมีแนวทางที่ชัดเจนและเป็นเรื่องที่มีความเฉพาะตัวมาก ๆ มันเป็นบรรยากาศที่หาไม่ได้ในแพลตฟอร์มอื่น ซึ่งถ้าถามว่าในแพลตฟอร์มอื่นมีไหม มันก็คงมีแหละ แต่ส่วนตัวมองว่าใน Blockdit มันมีความสบาย ๆ และสนุกมากกว่าในแพลตฟอร์มอื่น
ทีนี้มาที่เรื่องของความแตกต่าง สิ่งที่ผมมองว่า “Blockdit แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นอย่างสิ้นเชิงคือ โอกาสในการเติบโตของครีเอเตอร์ สำหรับผมมองว่า Blockdit เป็นแพลตฟอร์มไม่กี่แห่งที่เปิดโอกาสให้ทุกเพจที่กล้านำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบของตัวเองให้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น”
ที่ผมกล้าพูดแบบนี้เป็นเพราะเดิมทีเพจ Kaopoon Talk ก็เป็นเพจโนเนมที่มีผู้ติดตามหลักหน่วย มียอดอ่านเพียงหลักสิบ แถมไม่ได้โด่งดังหรือมีเพจอยู่ในแพลตฟอร์มอื่น เอาง่าย ๆ คือมาเปิดเพจใน Blockdit เป็นที่แรกเลย
แต่พอเวลาผ่านไปบทความต่าง ๆ ของ Kaopoon Talk ก็เริ่มเป็นที่รู้จักเพราะถูกนำเสนอในหมวดยอดนิยม และถูกแนะนำให้การแจ้งเตือนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ทุกวันนี้เพจ Kaopoon Talk มีผู้ติดตามหลักหมื่นมากถึง 29,000 คน และผลิตบทความมาแล้วมากกว่า 3,000 บทความ
จังหวะนี้ทีม Blockdit รู้สึกทึ่งมากกับการที่คุณข้าวปุ้นได้ปั้นเพจโนเนมธรรมดานี้ให้กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในชื่อ kaopoon Talk ซึ่งเริ่มต้นจากการสร้างเพจใน Blockdit เป็นที่แรก
โดยปกติเรามักจะเห็นเพจอื่นๆที่จะเติบโตจากแพลตฟอร์มอื่นก่อน แล้วค่อยเข้ามาใน Blockdit แต่ kaopoon Talk นั้นไม่ใช่เลย
1
เราไปต่อกันที่คำถามต่อไปกันเลย
  • 🎙️คิดว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ คอนเทนต์โดดเด่นและแตกต่าง❓
💬คุณข้าวปุ้นคิดอยู่สักครู่ก่อนให้คำตอบนี้มา
ความโดดเด่นของคอมเทนต์ในเพจ Kaopoon Talk นอกจากเนื้อหาที่อ่านเข้าใจง่ายแล้ว ส่วนตัวมองว่ายังมีอีกเหตุผลคือ ความกล้าที่จะนำเสนอ และความอิสระในการพูดคุยใต้คอมเมนท์ครับ
ผมชอบบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกันระหว่างตัวของผมเองและผู้คนที่เข้ามาอ่าน ผมจึงมักจะทิ้งท้ายใต้บทความว่า “ใครคิดเห็นอย่างไรก็มาแชร์กันในคอมเมนท์นะ”
แน่นอนว่ามันไม่มีคอมเมนท์ไหนถูกใจเราไปซะหมด คนเห็นต่างที่เข้ามาแย้งอย่างสร้างสรรค์ก็มี คนเห็นต่างที่หลับหูหลับตาประชดก็เยอะ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้สึกว่า นี่แหละคือบรรยากาศที่ผมต้องการ
  • 🎙️สถานที่สุดโปรดที่ชอบคิดงานเป็นประจำคือที่ไหน? แล้วสถานที่เหล่านี้ส่งผลในด้านคิดคอนเทนต์อย่างไร❓
💬คุณข้าวปุ้นตอบ
สถานที่สุดโปรดที่ชอบคิดงานคือในห้องทำงานที่บ้านครับ ผมเป็นคนชอบทำงานหรือคิดงานอยู่ในบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนตัว ไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะ ๆ เพราะมันรบกวนสมาธิในการทำงาน
เอาหละทีนี้เราก็รู้จักกับเพจ kaopoon Talk มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ทั้งจุดเริ่มต้นของการทำเพจ , วิธีคิดคอนเทนต์ให้มีจุดเด่นและแตกต่าง
เราลองถามเรื่องวิสัยทัศน์ของการทำคอนเทนต์กันบ้าง
  • 🎙️คิดว่าเทรนด์ทำคอนเทนต์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร? และมีผลกระทบต่อการทำคอนเทนต์ของ kaopoon Talk หรือไม่❓
💬คุณข้าวปุ้นใช้เวลาคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงให้คำตอบมาว่า
ส่วนตัวมองว่าเทรนด์การทำคอนเทนต์ปัจจุบันครีเอเตอร์หลายคนจะมุ่งไปด้านการทำคลิปวิดีโอเป็นหลัก (ไม่ว่าจะเป็นคลิปสั้นหรือคลิปยาว) เพราะมันเป็นการทำคอนเทนต์ที่เข้าถึงคนได้ง่าย และมีโอกาสแมสกว่าการทำคอนเทนต์แนวอื่น
แน่นอนว่ากลุ่มคนที่ชอบเสพคอนเทนต์แนวอ่านบทความก็มีไม่น้อย แต่ถ้าเทียบกับคนส่วนใหญ่แล้ว ยังไงซะตลาดของคนที่ชอบเสพคอนเทนต์แนวคลิปวิดีโอก็เยอะกว่าอยู่ดี
ส่วนผลกระทบที่ Kaopoon Talk เจอหลัก ๆ ก็คือกลุ่มคนที่เป็นผู้ติดตามหรือมีส่วนร่วมต่อบทความเป็นอะไรที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม
แน่นอนว่าจำนวนผู้ติดตามเพจ 2 หมื่นกว่าบัญชีมันเป็นอะไรที่เยอะและผมก็รู้สึกขอบคุณทุกคนจากใจจริง แต่ถึงอย่างนั้นผมเองก็ต้องปรับตัวและพัฒนาทั้งเรื่องงานเขียน และงานคอนเทนต์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อทำให้เพจเติบโตขึ้นต่อไป
ทีม Blockdit ก็แอบเห็นด้วยกับเทรนด์การทำคอนเทนต์ด้วยวิดีโอนะ เพราะขนาดใน Blockdit ปริมาณคอนเทนต์ประเภทวิดีโอก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนกัน
  • 🎙️ข้าวปุ้นเลือกใช้กลยุทธ์อะไรในการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามหรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย❓
💬คุณข้าวปุ้นตอบสั้นๆว่า
กลยุทธ์ที่เพจ Kaopoon Talk ใช้มาอย่างยาวนานคือ
"ยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง"
หมุนเวียนเนื้อหาของบทความไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้อ่านไม่รู้สึกเบื่อ แต่บทความยังอยู่ในแนวทางของเพจ เช่น วันนี้ทำบทความสรุปข่าว อีกวันทำบทความข่าวต่างประเทศ และอีกวันทำบทความไวรัลเบาสมอง
1
พร้อมน้อมรับคำวิจารณ์ทุกอย่างที่เป็นประโยชน์เพื่อนำคำวิจารณ์เหล่านั้นมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
  • 🎙️อยากรู้ว่าเคยเจออุปสรรคอะไรบ้างในการทำคอนเทนต์ และผ่านมันไปได้อย่างไร❓
💬คุณข้าวปุ้นตอบ
อุปสรรคใหญ่หลวงที่มักเจอเสมอตอนที่เพิ่งเปิดเพจใหม่ ๆ คือ เรื่องของข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และการลำดับเหตุการณ์ที่วกไปวนมาจนคนอ่านงง
สิ่งที่ทำเพื่อให้ผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้คือ น้อมรับคำวิจารณ์ นำความผิดพลาดเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน และเพิ่มความรอบคอบเข้าไปในบทความใหม่ที่กำลังจะทำ
  • 🎙️ชอบใช้เมนูหรือฟีเชอร์อะไรใน Blockdit? เพราะอะไรถึงชอบ❓
ส่วนตัวชอบ Popular และ Community เพราะทั้งสองฟีเชอร์นี้ช่วยให้ผมได้อัปเดตบทความที่กำลังได้รับความนิยม รวมถึงบทความเฉพาะหมวดที่ผมมีความสนใจ ณ ตอนนั้น เช่น หมวดข่าวรอบโลก หมวดภาพยนต์ และหมวดการเมือง
  • 🎙️สิ่งไหนที่คิดว่าถ้ามีเพิ่มเข้ามาใน Blockdit แล้วจะช่วยให้เพจ kaopoon Talk ดีขึ้น❓
💬คุณข้าวปุ้นมีลังเลก่อนตอบนิดๆ พร้อมกับแอบอมยิ้มกับคำตอบนี้
พูดอย่างตรงไปตรงมา ผมรู้สึกว่าตอนนี้ใน Blockdit มีฟังก์ชั่นมากมายให้สมาชิกได้เลือกใช้ เลือกเล่น จนแทบจะใช้จะเล่นไม่ทันแล้วล่ะ แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมาก และผมก็ชอบมันมาก ๆ เช่นกัน
แต่ถ้าถามว่าอะไรที่จะช่วยให้เพจ Kaopoon Talk ดีขึ้น ถ้าให้คิดแบบเร็ว ๆ ผมก็ขอตอบว่า “การย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมในบางเรื่อง” อย่างเรื่องระยะเวลาการคำนวณดาวและเรื่องของรายได้ค่าโฆษณา
ฟังมาถึงตรงนี้ก็อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิดนะ ขอโอกาสฟังผมก่อน ฮ่า ๆ 🙂
คือตัวผมเองนั้นอยู่ใน Blockdit มาตั้งแต่ปี 2021 ตอนนั้นมีครีเอเตอร์โนเนมมากมายที่เปิดเพจอยู่ในนี้ แต่พอ Blockdit เริ่มมีการปรับกฎการให้ดาวใหม่ ผมรู้สึกว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของครีเอเตอร์ใน Blockdit ไปบ้าง มีทั้งคนที่ยังคงทำคอนเทนต์ต่อไป แต่บางเพจก็หยุดทำไปบ้าง
ซึ่งจริงๆแล้วการหยุดทำเพจไปนั้นอาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุผลอื่นๆก็ได้นะ อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องรายได้หรือการได้ดาวเสมอไป แต่เหตุผลเรื่องการปรับกฎการให้ดาวนั้นก็เป็นปัจจัยหนึ่งเหมือนกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ผมกลับรู้สึกว่า หากโอกาสการได้ดาวมันยังเป็นเหมือนเดิมที่ง่ายกว่าตอนนี้ เพจหลายเพจอาจจะยังกลับมาอัปเดตคอนเทนต์อยู่บ้าง และเมื่อเพจโนเนมมากมายกลับมาอัพเดตคอนเทนต์
มันก็อาจจะทำให้สมาชิก Blockdit หลายคนที่เป็นผู้ติดตามของเพจเหล่านั้นใช้เวลาอยู่ใน Blockdit มากขึ้นก็เป็นได้ (เพราะเพจโนมเนมส่วนใหญ่ทำเพจแค่ใน Blockdit ไม่ได้ทำในแพล็ตฟอร์มอื่น)
ดังนั้นหากมีจำนวนสมาชิก Blockdit ใช้เวลาอยู่ในแพลตฟอร์มนี้มากขึ้น มันก็ย่อมเป็นผลดีต่อทั้งเพจ Kaopoon Talk และเพจอื่น ๆ อีกมากมาย เพราะมันคือการเพิ่มโอกาสให้คนเข้าถึงบทความหรือคอนเทนต์ของเพจมากขึ้นนั่นเอง
มาถึงคำถามในช่วงสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งทีม Blockdit อยากให้คุณข้าวปุ้นได้ถอดหมวกของการเป็น Content Creator ออกแล้วสวมหมวกของผู้ใช้งานที่เข้ามาเล่นมาใช้งาน Blockdit แทน เพื่อบอกต่อเพจดีๆที่คุณข้าวปุ้นให้ความสนใจชอบติดตามอ่านอยู่
ไปกันต่อที่คำถามสุดท้ายนี้กันเลย
  • 🎙️ใน 1 เดือนที่ผ่านมา คุณชอบติดตามคอนเทนต์จากเพจไหนบ้าง? บอกมา 1-3 เพจ พร้อมเหตุผล❓
💬คุณข้าวปุ้นใช้เวลานึกคิดอยู่ครู่ใหญ่ๆ แล้วเริ่มเล่าให้ฟัง
ทุกวันนี้ผมตามอ่านอยู่หลายเพจเหมือนกันนะ .. แต่ถ้าให้จิ้มเลือกมาแค่ 3 เพจเดี๋ยวอีกหลายเพจที่เหลือคงน้อยใจแย่เลย แต่เอาล่ะ ในเมื่อให้เลือกมา 3 เพจ งั้นผมขอเลือก
  • ปั่นเรื่องเป็นภาพ :
เพจปั่นเรื่องเป็นภาพ เป็นเพจที่นำเรื่องราวรอบตัวมาเขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติ อ่านเพลิน ๆ จุดเด่นคือการเปรียบเทียบอะไรบางอย่างกับอะไรอีกอย่างเพื่อความเข้าใจง่าย นอกจากจะนำเรื่องราวรอบตัวมาเขียนแล้ว เพจปั่นเรื่องเป็นภาพยังสอดแทรกคอนเทนต์รีวิว-แนะนำร้านอาหารมาเป็นระยะ ๆ อีกด้วย
1
  • เรื่องเล่าเมาเมาแมน :
1
เพจเรื่องเล่าเมาเมาแมน เป็นเพจที่เขียนเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยความดิบและความรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน หลายประโยคที่เพจเขียนชวนให้ยิ้มมุมปากเสมอ ทั้งที่ไม่ใช่มุขตลกอะไร แต่อาจเพราะมันเป็นความดิบ ความเรียลที่ออกมาจากผู้เขียน มันจึงมักจะรู้สึกไปอย่างนั้น
  • The Last Karuda :
เพจ The Last Karuda เป็นเพจที่มีคอนเทนต์หลักเกี่ยวกับการเมืองต่างประเทศ และเรื่องราวต่าง ๆ ที่เป็นที่พูดถึง ณ ตอนนั้น สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ในเพจนี้คือ ความสม่ำเสมอในการโพสต์บทความ คุณเจ้าของเพจมักจะมาตรงเวลาเสมอ มีน้อยครั้งมากที่จะเลทหรือหายไป
แต่อย่างไรก็ตามมันยังมีอีกมากมายหลายเพจที่ผมอ่านและอยากแนะนำให้ทุกคนเข้าไปอ่านบ้าง เพราะผมสัมผัสได้ว่าเพจเหล่านี้ทำคอนเทนต์ด้วยใจรักจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นเพจ Right Style by Bom+ , windasharing , Timeless History
และนี่ก็คือบทสัมภาษณ์ที่ทางทีม Blockdit ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพจ kaopoon Talk เพจสายข่าวสุดอินเทรนด์ ซึ่งเชื่อว่ามีเมล็ดพันธุ์ไอเดียดีๆที่แทรกอยู่ในบทความนี้ เพื่อให้เพื่อนๆเหล่า Blockditor ได้หยิบนำไปปลูกต่อให้กับเพจของตัวเองได้เติบโตและประสบความสำเร็จเช่นกัน
ติดตามเพจ kaopoon Talk ได้ที่👉 https://www.blockdit.com/kaopoon.dc
ก่อนจากกัน Blockdit ขอยืมประโยคเด็ดของคุณข้าวปุ้น
มาใช้ในช่วงท้ายหน่อยนะครับ
“ใครคิดเห็นอย่างไรก็อย่าลืมมาแชร์กันในคอมเมนต์”
อยากให้เราไปสัมภาษณ์ใครอีกคอมเมนต์บอกกันไว้หน่อยนะ
Blockdit
แล้วเจอกันอีกใน Blockditor Corner
อัปเดตแอปฯ Blockdit ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ
เพื่อให้ใช้แอปพลิเคชั่นได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งระบบ iOS และ Android
ติดตาม Blockdit ได้อีกช่องทางบน TikTok รีบกดติดตามกันได้เลย
⭐️อยากพูดคุยเรื่อง หุ้นไทย หุ้นสหรัฐฯ กองทุนรวม มาคุยกันที่ Blockdit Invest
⭐️โอกาสสำหรับภาคธุรกิจในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักใน Blockdit ด้วย 4 โซลูชั่น
⭐️พึ่งมาใหม่ใช่มั้ย? แนะนำซีรีส์ ‘มือใหม่หัดใช้ Blockdit’
โฆษณา