ก่อนจะเอา Generative AI มาใช้ ควรเตรียมข้อมูลคุณให้พร้อมก่อน
ช่วงนี้เทคโนโลยี Generative AI มาแรงมากๆ ใครๆ ก็พูดถึงกันทั้งในแวดวงธุรกิจและทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพ เสียง หรือแม้แต่คอนเทนต์ใหม่ๆ จากข้อมูลที่มีอยู่ หลายๆ บริษัทก็ตื่นเต้นที่จะนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ แต่ว่าบริษัทของคุณพร้อมจริงหรือยัง?
จากการสำรวจของ MIT และ Amazon Web Services เขาถามเหล่าผู้นำด้านข้อมูล (หรือที่เรียกว่า Chief Data Officers - CDOs) มากกว่า 300 คน ซึ่งผลปรากฏว่าหลายบริษัทที่แม้จะตื่นเต้นกับ AI แต่ก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไป นั่นก็คือ ข้อมูล ของบริษัทเองยังไม่พร้อมมากพอที่จะทำให้ AI ทำงานได้เต็มที่
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าข้อมูลของคุณยังไม่ดี ไม่ถูกจัดการอย่างดี AI ที่สุดเจ๋งก็จะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ อย่างที่รู้กันว่า AI นั้นอาศัยข้อมูลเป็นหลักในการทำงาน ยิ่งข้อมูลดี AI ก็ยิ่งทำงานได้ดี แต่ถ้าข้อมูลไม่ครบ ไม่ทันสมัย หรือมีความผิดพลาด AI ก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Universal Music ที่เป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ เขาก็ไม่พลาดที่จะกระโดดเข้ามาเล่นกับ Generative AI ด้วย เขาใช้ AI ในการสร้างเสียงเพลงใหม่ๆ และวิดีโอเพลง โดยที่ยังคงปกป้องลิขสิทธิ์ของศิลปิน แต่การจะทำแบบนี้ได้ บริษัทเขาต้องจัดการข้อมูลเสียงและข้อมูลลิขสิทธิ์ให้เรียบร้อยและพร้อมใช้งาน ไม่งั้นอาจเกิดปัญหาตามมาได้
อีกตัวอย่างคือ Morgan Stanley ที่ใช้เวลาหลายปีในการปรับปรุงข้อมูลภายในบริษัทเพื่อให้ AI ทำงานได้จริง เขาจัดเก็บและปรับปรุงข้อมูลในเอกสารต่างๆ ทำให้ข้อมูลมีคุณภาพสูง จนถึงตอนนี้ก็พร้อมให้ AI ช่วยประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถึงแม้หลายๆ บริษัทจะตื่นเต้นที่จะใช้ AI แต่ปัญหาที่พบก็คือ ข้อมูลขององค์กรยังไม่พร้อมใช้งานในระดับที่ควรจะเป็น จากผลสำรวจ พบว่า 46% ของผู้นำด้านข้อมูลมองว่าปัญหาใหญ่ที่สุดคือ "คุณภาพของข้อมูล" ซึ่งถ้าข้อมูลมีคุณภาพต่ำ AI ก็จะไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ นี่คือเหตุผลที่หลายบริษัทเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลของตัวเองให้ดีก่อนที่จะนำ AI มาใช้งานจริง
แล้วจะเริ่มยังไงดี? บริษัทที่เริ่มเตรียมตัวแล้ว เขาเริ่มจากการทำความสะอาดข้อมูล จัดระเบียบข้อมูลเก่าๆ ที่มีอยู่ หรือไม่ก็ผสานข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าด้วยกันเพื่อให้ AI นำไปใช้ได้ ตัวอย่างเช่น Merck Group บริษัทในอุตสาหกรรมยา เขาลงทุนอย่างหนักในการปรับโครงสร้างข้อมูลใหม่ จัดหมวดหมู่ข้อมูล และสร้างระบบที่สามารถจัดการข้อมูลให้พร้อมใช้งานได้
ดังนั้นถ้าบริษัทของคุณยังไม่เริ่มต้นปรับปรุงข้อมูล ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องคิดแล้วล่ะ เพราะการจัดการข้อมูลให้พร้อมใช้งานสำหรับ AI ไม่ใช่เรื่องที่จะทำเสร็จในวันสองวัน อาจใช้เวลาหลายปีในการเตรียมความพร้อม แต่บอกได้เลยว่าบริษัทที่เริ่มก่อนจะได้เปรียบในยุคที่ AI กำลังมาแรงแบบนี้
สุดท้ายนี้ ใครที่สนใจนำ Generative AI มาใช้ในองค์กร อย่าลืมว่าข้อมูลของคุณต้องพร้อมก่อน และยิ่งเริ่มเร็ว ก็ยิ่งได้เปรียบนะครับ 😉
======
บทความนี้แปลและเรียบเรียงโดยน้อง ChatGPT อีกแล้ว ผมมีปรับนิดหน่อยเท่านั้น original มาจากบทความเรื่อง "Is Your Company's Data Ready for Generative AI?" ใน HBR เขียนโดยเจ้าพ่อ big data คุณ Thomas H. Davenport กับ Priyanka Tiwari