22 ก.ย. เวลา 11:30 • ไลฟ์สไตล์

"Agatha All Along" เข้าแล้ว! “แม่มดม่วง” วายร้ายจอมขโมยซีน โปรดักชันสมจริงไม่พึ่ง CGI

ร่ายมนต์สะกดทุกสายตา! กระแส “แม่มดม่วง” Agatha Harkness มาแรงไม่แผ่ว สตรีม Agatha All Along 2 ตอนแรกได้แล้วตอนนี้บน Disney+ Hotstar
ซีรีส์แนวดาร์กแฟนตาซี คอมเมดี้ ผลงานล่าสุดจาก Marvel Television Agatha All Along สตรีม 2 ตอนแรกได้แล้วตอนนี้บน Disney+ Hotstar ร่วมผจญภัยไปกับโลกแม่มดสุดดาร์ก พร้อมท่องไปบนเส้นทางสุดอันตรายกับแม่มดวายร้ายจอมขโมยซีนขวัญใจแฟน ๆ จาก “WandaVision” ซึ่งครั้งนี้เธอพร้อมแล้วที่จะกลับมาทวงคืนพลังที่สูญเสียไป พร้อมพาผู้ชมไปยังโลกเวทมนตร์สุดโกธิคและเมืองต้องสาปที่ซ่อนไว้ซึ่งสิ่งเร้นลับกว่าเดิม พร้อมกับเดอะแก๊งแม่มดไร้กลุ่ม (Covenless Witches) ที่อาจจะกลายมาเป็นขวัญใจแฟน ๆ หลายคนหลังจากนี้
Agatha All Along
เรียกกระแสตอบรับได้ดีเยี่ยม สำหรับ 2 ตอนแรกของ Agatha All Along กับ Agatha Harkness แม่มดวายร้ายจอมโขมยซีนที่กลายไปขวัญใจของแฟน ๆ อีกครั้งเพียงชั่วข้ามคืน ทาง Marvel Television ได้เผยโปรดักชันแบบจัดเต็ม ทั้งการแต่งหน้าทำผมและคอสตูม รวมถึงเคมีของตัวละครที่ลงตัว ทำให้บทตบมุก-รับมุกดูเป็นธรรมชาติ และบรรยากาศความน่ากลัวแบบขนลุกขนพองที่ช่วยขายความเป็นดาร์กแฟนตาซี คอมเมดี้ เรื่องแรกของมาร์เวลได้เป็นอย่างดี
Agatha All Along
Agatha Harkness จากแม่มดพลังม่วงตัวร้ายสู่ดาวเด่นในจักรวาลใหม่
นับเป็นครั้งแรกในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลที่ตัวละครที่ไม่เคยมีคอมมิคของตนเอง ได้มาเฉิดฉายในรูปแบบซีรีส์เดี่ยว จากกระแสตอบรับจากแฟน ๆ อย่างล้นหลามตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกของ Agatha Harkness ภายใต้หน้ากากของเพื่อนบ้านแสนดีที่แปรมาเป็นแม่มดตัวร้าย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าเธอเป็นถึงแม่มดในตำนานที่มีชีวิตมายาวนานหลายศตวรรษ และได้สั่งสมพลังเวทย์น่าสะพรึงกลัว จนกลายเป็นหนึ่งในแม่มดที่มีพลังมากที่สุดในจักรวาลเวทมนตร์
ในฉากเปิดจากตัวอย่างของ Agatha All Along ทำให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของแม่มดพลังม่วงตนนี้ โดยเรื่องราวได้เล่าต่อจากที่ Agatha Harkness ถูกดูดพลังไปจนหมด และลืมตัวตนแม่มดไปจนหมดสิ้น ซึ่งได้พลิกผันชะตากลายเป็นนักสืบที่กำลังตามสืบเหตุฆาตรกรรมปริศนา กลายมาเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ Agatha Harkness ฟื้นคืนตัวตนที่แท้จริงกลับมาอีกครั้งก่อนเดินหน้าสู่ภารกิจแก้แค้นที่เจ็บแสบ และทวงคืนพลังของตนเองกลับมาด้วยการช่วยเหลือของวัยรุ่นปริศนาที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญของอนาคตโลกเวทมนตร์
Agatha All Along
Jac Schaeffer หัวหน้าทีมเขียนบทและผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ Agatha All Along เล่าเพิ่มว่า Agatha Harkness เป็นตัวละครที่ซับซ้อน ที่ไม่ได้ถูกตีตราชัดว่าเป็นตัวร้ายหรือคนดีบนผ้าสีขาว แต่กลับเป็นตัวละครสีเทา ที่ยึดถือมั่นในความคิดของตนเอง และจะเดินไปในเส้นทางที่เธอเชื่อว่าถูกต้องตามสัญชาตญาณ
ทำให้ในบางเวลาเธอเปรียบเสมือน “ครู” แต่ในเวลาอื่น ๆ ก็กลายเป็น “วายร้าย” เต็มรูปแบบ โดยใน Agatha All Along แฟน ๆ จะได้เห็นอีกหลายมุมของตัวละคร Agatha Harkness ในฉากหลังต่าง ๆ ทั้งในเมือง Westview และระหว่างการผจญภัยบน Witches’ Road ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ
Agatha All Along
รวมก๊วนแม่มดที่นิสัยไม่เข้ากัน แต่กลับเคมีตรงกันในทุกจังหวะ
เมื่อ Agatha Harkness ผู้สูญเสียพลังเวทมนตร์ ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ คือการรวมทีมแม่มด Covenless Witches ที่ไม่เคยมีมาก่อน
เพื่อฝ่าบททดสอบสุดโหดบน Witches’ Road การรวมทีมครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจระหว่างกัน โดยเฉพาะเมื่อ Agatha ต้องร่วมมือกับอริเก่าอย่าง Rio Vadal แม่มดวายร้ายที่เคยขัดแย้งกันมาก่อน
หรือ Jennifer Kale แม่มดที่ใช้เวทมนตร์เพื่อแสวงหากำไร และ Alice Wu-Gulliver ลูกสาวของร็อคสตาร์ชื่อดังผู้ไม่เห็นด้วยกับทุกสิ่ง และคอยตั้งแง่กับ Agatha อยู่ตลอดเวลา รวมถึงตัวละครสำคัญอื่น ๆ เช่น Lilia Calderu แม่มดที่สูญเสียความสามารถในการมองเห็นอนาคต และ Mrs. Hart ชาวเมือง Westview ที่เคยมีบทบาทใน “WandaVision” นอกจากนี้ ยังมี Teen หนุ่มลึกลับที่ไม่มีใครรู้จักที่มาและเป้าหมายที่แท้จริง แต่กลับมีบทบาทสำคัญในการเดินทางครั้งนี้
ไฮไลท์ของ Agatha All Along คงหนีไม่พ้นเรื่องเคมีของตัวละครที่โคจรรอบ Kathryn Hahn ในบท Agatha Harkness โดยผู้ชมจะได้พบกับแม่มดในจักรวาลนี้อีกมากมาย ที่ล้วนแล้วต่างมีเป้าหมายของตนเอง ความฮาจึงบังเกิดเมื่อก๊วนแม่มดไร้กลุ่มที่นิสัยไม่เข้ากันนี้ต้องจำใจร่วมผจญภัยไปกับ Agatha ผู้ซึ่งคุ้นชินกับการอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด
Agatha All Along
ดีไซน์ฉากอลังการสมจริงแบบไม่พึ่ง CGI
ความ “สมจริง” ของฉากใน Agatha All Along ได้สร้างความประหลาดใจที่น่าจับตามอง เมื่อ Mary Livanos โปรดิวเซอร์ของซีรีส์เรื่องนี้ ผู้นำทีมคว้ารางวัล Outstanding Production Design for a Narrative Program (Half-Hour) ของเวที Emmy Awards 2021 จาก “WandaVision” มาแล้ว เผยว่า แต่ละฉากใน Agatha All Along แทบจะใช้เทคนิควิชวลเอฟเฟกต์เป็นศูนย์
“เรามองว่าการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างโลกแฟนตาซีกับโลกความจริงค่อนข้างสำคัญสำหรับนักแสดงและทีมงานมาก โดยจากซีรีส์ของ “WandaVision” ก่อนหน้านี้ที่เราตั้งใจพาผู้ชมกลับไปยังยุคทองของรายการโทรทัศน์ซิตคอม สำหรับ Agatha All Along เราจึงตั้งใจพาทั้งนักแสดงและผู้ชมกลับไปยังยุคทองของการสร้างหนังแฟนตาซีในยุค 1989 เช่นเดียวกัน”
หนึ่งในอีกเหตุผลที่ทีมงานตัดสินใจถ่ายทำโดยแทบจะไม่ใช้ CGI นั้น เกิดจากความตั้งใจให้องค์ประกอบสอดคล้องกับการที่ Agatha Harkness สูญเสียพลังของเธอไป โดยถือว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของโปรดักชันมาร์เวลในการสร้างฉากสมจริง 360 องศา โดยองค์ประกอบในฉากสำหรับเส้นทางสายแม่มด
ได้สร้างบรรยากาศน่าหวาดกลัวให้นักแสดงรู้สึกถึงลางร้ายจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอุโมงค์ที่หากตัวละครก้าวพลาด จะมีบางอย่างปรากฏขึ้นมา ซึ่งไม่เพียงแต่ตาเห็นเท่านั้น แต่ละฉากยังยกระดับความสมจริงโดยนักแสดงสามารถสัมผัส และได้กลิ่นทั้งน้ำ หมอก หรือหญ้าที่ปกคลุมบนพื้นอีกด้วย โดยเรียกได้ว่า การสร้างฉากแบบไร้ซึ่งเวทมนตร์จาก CGI กลับถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างโลกของ Agatha All Along ให้มีชีวิตขึ้นมาได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปฐมบทเท่านั้น โลกของแม่มดในจักรวาลมาร์เวลยังมีความลับที่น่าค้นหาอีกมากมาย โดยแฟน ๆ สามารถลุ้นชะตากรรมของ Agatha และก๊วนแม่มด ใน Agatha All Along ทั้ง 9 ตอน ทุกวันพฤหัส พร้อมพากย์ไทย เฉพาะบน Disney+ Hotstar เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Disney+ Hotstar
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/233039
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา