21 ก.ย. เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ไทยพร้อมหรือไม่? ส่งออก 7 กลุ่มสินค้า “ไม่ทำลายป่า”

พาณิชย์ สำรวจความพร้อมของไทยเตรียมส่งออก 7 กลุ่มสินค้าที่ “ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า” ไปอียู หลังมูลค่าส่งออกขยายตัวดีนับถอยหลังสู่ EUDR เต็มรูปแบบ
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าภายใต้มาตรการ EUDR จากไทยไปสหภาพยุโรป (อียู) อย่างต่อเนื่อง พบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มูลค่าการส่งออกมีการขยายตัวดี และยังสามารถขยายตัวได้สูงกว่าการส่งออกไปโลก
กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Deforestation Regulation) ครอบคลุม 7 กลุ่มสินค้า คือ โกโก้ กาแฟ ถั่วเหลือง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน โค และไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปของสินค้าเหล่านี้
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผอ.สนค.
กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Deforestation Regulation) ครอบคลุม 7 กลุ่มสินค้า คือ โกโก้ กาแฟ ถั่วเหลือง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน โค และไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปของสินค้าเหล่านี้
โดยในช่วงครึ่งแรก (ม.ค. - มิ.ย.) ของปี 2567 ไทยส่งออกสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการ EUDR ไปอียู รวมมูลค่า 379.47 ล้านเหรียญสหรัฐ (มูลค่าของสินค้าโดยใช้พิกัดศุลกากรตามที่ระบุใน Regulation (EU) 2023/1115) ขยายตัวร้อยละ 49.94 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เรียงลำดับตามมูลค่าการส่งออกสูงสุด ดังนี้
  • 1.
    ยางพารา 314.82 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 51.67
  • 2.
    ไม้ 49.06 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 24.71
  • 3.
    ปาล์มน้ำมัน 11.85 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 488.80
  • 4.
    โกโก้ 3.56 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 10.15
  • 5.
    กาแฟ 0.18 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 6.54
  • 6.
    ถั่วเหลือง 0.001 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 44.37
ส่วนโคเป็นสินค้าที่ไทยไม่มีการส่งออกไปอียู
ไทยพร้อมหรือไม่? ส่งออก 7 กลุ่มสินค้า “ไม่ทำลายป่า” ไปอียู
สินค้าส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก รวมกันคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 99.01 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าภายใต้มาตรการ EUDR จากไทยไปอียู (ยางพารา ไม้ และปาล์มน้ำมัน มีสัดส่วนร้อยละ 82.96 12.92 และ 3.12 ตามลำดับ) ซึ่งมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้ง 3 กลุ่มไปอียู มีการขยายตัวดีกว่ามูลค่าการส่งออกไปโลก ดังนี้
  • 1.
    ารส่งออกยางพาราไปอียู ขยายตัวถึงร้อยละ 51.67 ขณะที่การส่งออกยางพาราไปโลก ขยายตัวร้อยละ 30.86
  • 2.
    การส่งออกไม้ไปอียู ขยายตัวร้อยละ 24.71 ขณะที่การส่งออกไม้ไปโลก ขยายตัวร้อยละ 5.48
  • 3.
    การส่งออกปาล์มน้ำมันไปอียู ขยายตัวร้อยละ 488.80 ขณะที่การส่งออกปาล์มน้ำมันไปโลก หดตัวร้อยละ 20.15
แม้ปัจจุบันการส่งออกกลุ่มสินค้าที่อยู่ภายใต้กฎหมาย EUDR จากไทยไปอียูยังมีสัดส่วนไม่มาก เมื่อเทียบกับการส่งออกจากไทยไปโลก แต่การขยายตัวที่ดีแสดงให้เห็นถึงโอกาสและศักยภาพของไทยที่จะปรับตัวและส่งออกสินค้าภายใต้ EUDR ไปยังอียูได้มากขึ้น
มาตรการ EUDR จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ซึ่งผู้ประกอบการไทยอาจต้องเผชิญกับต้นทุนในการตรวจสอบย้อนกลับห่วงโซ่การผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต จึงจำเป็นต้องวางแผนปรับตัวและเตรียมการให้พร้อม เพื่อให้ดำเนินธุรกิจได้ราบรื่นการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นความท้าทาย แต่เป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับไทยที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าและสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจด้วย.....นายพูนพงษ์ กล่าว
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/233026
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา