ฆาตกรรมเด็กญี่ปุ่นในจีน เกิดขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ ...จริงดิ !
แทนที่จะมองหาการแก้แค้นคอมมิวนิสต์ที่รังแกคุณ อย่างมากที่สุด คุณก็ทำมันได้แค่ ...มองหาเด็กที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อแก้แค้น คุณมันเป็นแค่...ไอ้ขี้ขลาด
ดอกไม้นอกประตูโรงเรียนญี่ปุ่นในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน รำลึกถึงการลอบทำร้ายเด็กชายชาวญี่ปุ่นวัย 10 ขวบระหว่างเดินทางไปโรงเรียน (19 กันยายน 2567)
เมื่อวันที่ 19 กันยายน ประเด็นสำคัญในรายงานของสื่อโลกในจีนก็คือ การทำร้ายด้วยมีด ในที่สาธารณะ
การฆาตกรรมเด็กและการปิดข่าว
เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน ในเมืองเซินเจิ้น ทางตอนใต้ของจีน เด็กชายชาวญี่ปุ่นวัย 10 ขวบถูกชายชาวจีนแทงเสียชีวิตขณะไปโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ข่าวดังกล่าวกลายเป็นข่าวพาดหัว ในหนังสือพิมพ์รายใหญ่ของญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์อาซาฮี (Asahi Shimbun) หนังสือพิมพ์รายใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่นรายงานว่าทางการจีนได้นำมาตรการควบคุมความคิดเห็นของประชาชนมาใช้
เช่น การปิดข่าว การกรองคอมเม้น หรือแม้กระทั่งการโพสต์ข้อความ
รายงานดังกล่าวระบุว่า "เมื่อเช้าวันที่ 19 สื่อหลักของจีนก็ยังไม่ได้รายงานเหตุการทำร้ายและเสียชีวิตของเด็กชายวัย 10 ขวบที่โรงเรียนญี่ปุ่นในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน
Japanese child murders in China
แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นเช่นนั้นก็ตาม นี่อาจถือเป็นคำสั่งจากทางการรัฐบาล ทำให้ยังไม่ได้รายงานเหตุการณ์ร้ายแรงแต่อย่างใด การควบคุมข้อมูลแบบนี้อาจทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจกันอีกต่อไป
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีรายงานว่าหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในพื้นที่ประกาศว่า ' มีเด็กชายคนหนึ่งถูกทำร้ายและผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวไว้แล้ว'
แต่ไม่ได้กล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย และไม่มีรายงานว่าเด็กชายเสียชีวิตในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 19
และรายงานอีกฉบับจาก อาซาฮี ชิมบุน ระบุว่า "ผู้หญิงคนหนึ่ง (อายุ 34 ปี) ซึ่งอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ใกล้ ๆ เดินผ่านที่เกิดเหตุ 50 นาทีหลังเกิดเหตุ เธอกล่าวว่า '(เห็น) เจ้าหน้าที่ตำรวจมากมาย ฉันคิดว่าเกิดอุบัติเหตุจราจร แต่มันกลับเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ '"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในการโจมตีชาวญี่ปุ่นในประเทศจีนนะครับ มันเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว
รายงานของ Associated Press ที่ตีพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดียังระบุถึงการจำกัดข่าวและการปิดกั้นข่าวที่มีลักษณะเฉพาะของจีน
โดยรายงานกล่าวว่า"แม้ว่าสื่อจีนจะไม่ได้รายงานการเสียชีวิตของเด็กชายชาวญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดี แต่ผู้คน(จีน)ต่างโพสต์แสดงความเสียใจและประณามการโจมตีบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Weibo
ผู้ใช้รายหนึ่งเขียนไว้ว่า 'โปรดอย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าพวกเขาจะสัญชาติใดก็ตาม '
ก่อนหน้านี้สถานทูตญี่ปุ่นเคยส่งอีเมลถึงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในจีน โดยอ้างถึงการโจมตีด้วยมีดและอาวุธที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
พร้อมเตือนพวกเขาให้ระมัดระวังและเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันในเหตุการณ์ดังกล่าว
“เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ชายชาวจีนคนหนึ่งแทงไป 4 คน พวกเขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชาวอเมริกัน และพลเมืองดีชาวจีนที่พยายามหยุดเขาในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในจี๋หลิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
อาจารย์ผู้สอนทั้ง4 คน สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Beihua และอาการบาดเจ็บของพวกเขายังไม่ร้ายแรงถึงชีวิต
ต่อมา เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ชายชาวจีนทำร้ายเด็กชาวญี่ปุ่นที่ป้ายรถโรงเรียนที่โรงเรียนญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซู พลเมืองดีชาวซูโจว
และพนักงานรถโรงเรียนถูกแทงเสียชีวิต เมื่อพวกเขาพยายามหยุดเขา งานนี้คุณแม่ชาวญี่ปุ่นและลูกต่างก็ได้รับบาดเจ็บ
และมีข่าวพูดกันหนาหูว่า การลอบสังหารชาวต่างชาติ ล้วนเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจของจีน.... จริงอ่ะ? ผมไม่อยากเชื่อที่ได้ยินมา มันไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน
แต่ ตามรายงานที่เผยแพร่โดย “ซันเค ชิมบุน(Sankei Shimbun)” ของญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี กลับลบล้างความเขื่อของผม โดยพาดหัวข่าวว่า “เด็กชายชาวญี่ปุ่นถูกฆ่าในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน
และหัวข้อต่อมา คือ การทำร้ายชาวต่างชาติยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศจีนเนื่องจากเศรษฐกิจตกต่ำ ...จริงดิ!
แน่นอนว่า“คนญี่ปุ่นจะต้องตกใจมาก” โดยรายงานระบุว่า “วันที่ 19 นักเรียนประถมชาวญี่ปุ่นวัย 10 ขวบในเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ถูกชายคนหนึ่งแทงเสียชีวิตระหว่างเดินทางไปโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น
เรื่องนี้ทำให้คนญี่ปุ่นตกใจมาก ”
แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลจีนยังไม่ได้เปิดเผยแรงจูงใจในการทำร้าย และความวิตกกังวลกำลังแพร่กระจายไปในชุมชนชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศจีน
ในประเทศจีน ภาวะถดถอยด้านอสังหาริมทรัพย์ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว และการเสื่อมสภาพในการจ้างงานและสภาพแวดล้อมด้านรายได้ของผู้คน
ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคงทางสังคม ในสถานการณ์เช่นนี้มีแนวโน้มที่จะระบายความไม่พอใจให้กับชาวต่างชาติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 18 ถือเป็นวันครบรอบปีที่ 93 ของเหตุการณ์ 18 กันยายน (เหตุการณ์เวคเลค(the September 18 Incident on Wednesday)) ในปี พ.ศ. 2474
ช่วงนั้น สื่อทางการของจีนได้เน้นย้ำประวัติศาสตร์ของการ "ต่อต้านญี่ปุ่น" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บนเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน (SNS)
โดยระบุว่า 'Down with Japan! ' ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และโพสต์อื่นๆ ที่แสดงความรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่นซึ่งมันก็ดึงดูดความสนใจเช่นกัน
ขณะนี้ พวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ(ในจีน) และรัฐบาลจีนกระตือรือร้นที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
มีคนที่เกี่ยวข้องกับการทูตญี่ปุ่น-จีนชี้ให้เห็นว่า 'ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เป็นเรื่องปกติที่บริษัทญี่ปุ่นจะคิดว่าพวกเขาไม่มีความสามารถ
รัฐบาลจีนจึงต้องตระหนักว่านี่เป็นประเด็น(ที่แตะต้อง)พื้นฐานของญี่ปุ่น พวกเขาจึงตอบสนองต่อสถานการณ์นี้
จะเห็นได้ว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ได้พัดพาความรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่นและการทำร้ายชาวญี่ปุ่นผ่านมาไปในหัวแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เช่นเดียวกับสื่อญี่ปุ่นหลายแห่ง เช่น หนังสือพิมพ์หลักของญี่ปุ่น "โยะมิอุริชิมบุง(The Yomiuri Shimbun)" ก็ชี้ให้เห็นแบบเดียวกัน
เช่นในรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นในประเทศจีน และการโจมตีชาวญี่ปุ่นก็มีความเกี่ยวข้องกับภูมิหลังโดยทั่วไปของความรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่นในจีน
"ในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เด็กชาย (อายุ 10 ขวบ) ที่โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเซินเจิ้นถูกชายชาวจีน (อายุ 44 ปี) แทงเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 19 ทำให้เกิดความไม่สงบในสังคมในญี่ปุ่น
แม้ว่าชาวจีนจะแสดงความเสียใจต่อเด็กชายดังกล่าว แต่โพสต์ที่แสดงความรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่นก็ปรากฏให้เห็นเช่นกัน บนโซเชียลมีเดีย...
โดยทั่วไปแล้ว ผมยังไม่เห็นชัดเจนว่ามีความรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่น จะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือไม่ ?
แต่ในปีนี้ กลับมีเหตุการณ์ การตกเป็นเหยื่อของคนญี่ปุ่นในจีนเกิดขึ้นมากมาย
ในเดือนมิถุนายน พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นและลูกๆ ของพวกเขารวม 3 คน ถูกชายชาวจีนทำร้ายด้วยมีดขณะรอรถโรงเรียนในเมืองซูโจว มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน
ในเดือนเมษายน ชาวต่างชาติชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งถูกชายชาวจีนแทงและได้รับบาดเจ็บ
ในช่วงบ่ายของวันที่ 19 นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวว่า "อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง" เมื่อพูดถึงการเสียชีวิตของเด็กชายชาวญี่ปุ่นในโรงเรียนญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
โดยเน้นย้ำว่า "เราเรียกร้องให้จีนอธิบายข้อเท็จจริง และรัฐบาลญี่ปุ่นก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเช่นกัน “
รายงานของรอยเตอร์จากเซินเจิ้นกล่าวเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีว่า
ในบ่ายวันพฤหัสบดี ผู้คนวางพวงมาลาที่ประตูโรงเรียนในเขตเสอโข่วที่มั่งคั่งของเซินเจิ้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของนักเรียนส่วนใหญ่ (ที่นี่เป็นชุมชนต่างประเทศของเมืองและเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติ)
ชายคนหนึ่งที่บอกว่าเขาเป็นคนเมืองเซินเจิ้นธรรมดา และกล่าวว่า ในฐานะชาวจีน เราต่อต้านพฤติกรรมประเภทนี้ เราต่อต้านการศึกษาและการเสี้ยมสอนเรื่องความเกลียดชัง”
“พวกเราหลายคนถูกสอนเรื่องความเกลียดชังประเภทนี้มาเป็นเวลานาน” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “และมันทำให้เกิดผลร้ายดังกล่าว“
เกี่ยวกับการโจมตีญี่ปุ่นในจีนครั้งล่าสุด หลิน เจี้ยน ( Lin Jian) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเพื่อตอบคำถามของนักข่าวเมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน ว่า
"จีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุการณ์ที่โชคร้ายเช่นนี้ เราขอแสดงความเสียใจและเสียใจ”
Lin Jian กล่าวต่อด้วยว่า “แต่เหตุการณ์ที่คล้ายกันสามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศใดก็ได้”
และ “จีนได้ดำเนินการมาโดยตลอด และ จะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยของชาวต่างชาติทุกคนในจีน”
มีการเผยแพร่บนเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน แต่กลับไม่พบคำพูดข้างต้นของ Lin Jian ในบันทึกการแถลงข่าวของโฆษกเมื่อวันพุธ
บันทึกที่ผู้คนพบเห็นคือ Lin Jian กล่าวว่า "เป็นที่เข้าใจกันว่าเช้าวันที่ 18 กันยายน นักเรียนโรงเรียนญี่ปุ่นในเซินเจิ้น วัย 10 ขวบ ถูกชายคนหนึ่งแทงซึ่งอยู่ห่างจากประตูโรงเรียนประมาณ 200 เมตร
ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลและกำลังดำเนินการช่วยเหลือ ฆาตกรถูกจับได้ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ หน่วยงานของจีนที่เกี่ยวข้องจะจัดการต่อไปตามกฎหมาย”
ผมเองยังรู้สึกเลยว่า ในการทำร้ายและสังหารชาวญี่ปุ่น ในความคิดเห็นอย่างเป็นทางการ(และส่วนตัว)ของจีนดูจะแตกต่างกันมาก
ผู้สังเกตการณ์จำนวนมาก ชี้ว่าเหตุการณ์ชาวต่างชาติที่ถูกโจมตีและได้รับบาดเจ็บในจีนได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อต่างประเทศ
โดยรายงานเน้นไปที่ชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บจะไปปรากฏในสื่อต่างประเทศเป็นหลัก
ขณะเดียวกัน เนื่องจากช่องทางข้อมูลที่ถูกบล็อกและด้วยเหตุผลอื่นๆ
เหตุการณ์การบาดเจ็บล้มตายของชาวต่างชาติในการโจมตี ทำร้าย และการสังหารในประเทศจีน
ส่วนใหญ่ผมกลับได้รับการรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศ และการได้รับข่าวสารจากประเทศจีนนั้น...เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่ากันมาก
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
