26 ก.ย. เวลา 03:39 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

อนงค์ หรือ Audrey Hepburn แห่งพระนคร? มาดูหนึ่งในร้อยกับคอสตูมมากกว่า 100 ชุดของเธอ

ไม่เห็นละครไทยที่สนุกสนานสุดเหวี่ยงกับคอสตูมมานาน หลังจากเพิ่งลงจอไปตอนแรกกับ ‘หนึ่งในร้อย’ หรือ ‘My Cherie Amour’ จาก Ch3Thailand ที่ได้ ญาญ่า อุรัสยา มารับบท ‘อนงค์’ ตัวเอกของเรื่อง คอสตูมมันจึ้งมากจนต้องชวนมามุงสักหน่อย
หนึ่งในร้อย ได้ทีมคอสตูมฝีมือดีจาก Verasalon มารับผิดชอบจัดเตรียมชุดไม่ซ้ำแบบให้กับอนงค์ ข้อมูลจากอินสตาแกรมของทีมจะเห็นว่าชุดของอนงค์มีการผสมผสานเอาเสื้อผ้าปัจจุบันของแบรนด์ต่างๆ มามิกซ์แอนด์แมตช์ เลือกหยิบใช้ซิลลูเอทที่เคยนิยมในอดีตมาเพื่อสร้างลุคสุดชิคให้กับนางเอก ภาพรวมเป็นพีเรียด แต่จะเห็นดีเทลของชุดยุคปัจจุบันผสมอยู่
👗ผิดนิด แต่ชิคอยู่
เท่าที่ดูต้นฉบับของนิยาย ประกอบกับชื่อตำแหน่ง ‘คุณพระ’ ของพระเอกทำให้เราคาดเดาได้ว่าเรื่องราวน่าจะดำเนินอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 6 ซึ่งน่าจะตรงกับช่วงปี 20s-30s
ในยุคนั้นสตรีชั้นสูงนิยมใส่เสื้อผ้าแพรโปร่งหรือลูกไม้แขนยาวถึงศอก คาดทับด้วยแพรสไบและติดเข็มกลัด จับคู่กับโจงกระเบนหรือผ้าซิ่น หรือเดรสแบบ Flapper เดรสยาวเครือเข่า ปล่อยชายไม่เข้ารูป ตกแต่งด้วยลูกไม้และลูกปัด ตัดผมสั้นดัดลอน
การแต่งตัวของสตรีในสมัยรัชกาลที่ 6
จะเห็นว่าแตกต่างกับอนงค์ในละครเวอร์ชั่นนี้มาก จุดนี้คิดว่าทางทีมตัดสินใจไม่ทำตามประวัติศาสตร์จริงแต่เลือกหยิบเอาแฟชั่นยุค 1950s แทน โดยเลือกหยิบเอาชุดที่มีซิลลูเอทใกล้เคียง มาผสมกับเนื้อผ้า และดีเทลจากยุคอื่นๆ แทน เกิดออกมาเป็นลุคของสาวอนงค์ในเรื่อง ที่ดูย้อนยุคแต่ไม่ตรงตามยุคในประวัติศาสตร์
ลุคนี้ดูจะใกล้เคียงกับแฟชั่นยุค 1920s ที่สุด แต่จะเห็นว่าเนื้อผ้าและลูกไม้ไม่ได้ตรงตามยุคสมัยเป๊ะๆ
👗1950s ลาก่อนสงครามขอกลับมาหวานเหมือนเดิม
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุคที่เสื้อผ้าต้องเน้นความประหยัด เมื่อพ้นช่วงสงครามเสื้อผ้าของผู้หญิงในยุคนี้เริ่มกลับมามีความเฟมินีนสูง เดรสหวานๆ แบบ Dior กลับมาได้รับความนิยม สีสันมีตั้งแต่พาสเทลไปจนถึงสีสดลายดอกไม้ต่างๆ เพื่อสลัดความหม่นหมองของสงครามทิ้งไป
แต่ก็ไม่ละทิ้งชุดสูทสตรีในช่วงก่อนหน้าไป Balenciaga และ Givenchy มีบทบาทในการออกแบบเสื้อสูทและกระโปรงที่เน้นบ่าเป็นทรง คอเสื้อมีดีเทล เข้าเอว และเน้นสะโพก ก่อนที่ Chanel จะนำเสนอทรงกล่อง (ทรงตรง ไม่เข้าเอว) ที่มีความคล่องตัวแต่ก็มีความเป็นผู้หญิงสอดคล้องกับยุคสมัยที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ กลายเป็นไอคอนิคพีซจนปัจจุบัน
ตัวอย่างแฟชั่นในยุค 1950s
จะเห็นว่าอนงค์แต่งตัวสีพาสเทลหวานพร้อมกระโปรงบานหรือผ้าชีฟองฟูฟ่องอยู่หลายชุด อันนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่องที่เป็นโรแมนติก ฟีลกู๊ด แต่ก็ยังมีกระโปรงดินสอเข้าเอวแบบสับๆ บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์การเป็นสาวหัวก้าวหน้าที่กล้าคิดกล้าพูดของเธอเช่นกัน
👗เห็นหน้าม้านั่นไหม ดูแล้วคิดถึงใคร?
หน้าม้าพองๆ ดัดแน่นๆ แบบนี้เห็นแล้วจะนึกถึงใครไปไม่ได้ น่าจะเอาแรงบันดาลใจมาจากดาราฮอลลีวูด Audrey Hepburn เจ้าของดวงตาคมโตกับหน้าตาจิ้มลิ้มแบบตุ๊กตาฝรั่ง
ทั้งลุคทรงผมและเสื้อผ้ามีกลิ่นอายของออดรีย์อยู่หลายลุคเลยล่ะ ไม่ว่าจะลุคจากภาพยนตร์ Breakfast at Tiffany', Sabrina, Roman Holiday ดูแล้วมันใช่!
ดูแล้วคิดว่ายังไงกันบ้าง? สาวอนงค์ พอจะเป็นเจ้าแม่สายแฟชั่น Audrey Hepburn แห่งพระนครได้รึเปล่า?
ภาพของ ญาญ่า ในบทบาทของ อนงค์ เปรียบเทียบกับ Audrey Hepburn
#ArtofFilm #หนึ่งในร้อย #MyCherieAmour #ญาญ่าอุรัสยา #urassayas
เติมความคิดสร้างสรรค์แบบย่อยง่ายจาก Art of ได้ที่
โฆษณา