22 ก.ย. เวลา 02:20 • ความคิดเห็น

หยุดแสวงหาเหตุผลที่จะไม่มีความสุข

เมื่อวานนี้ "ปรายฝน" ลูกสาววัย 9 ขวบ มาเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า เขาไม่ชอบเลยที่เพื่อนคนหนึ่งในห้องซื้อกล่องดินสอที่หน้าตาเหมือนของเขาเป๊ะๆ แถมยังทำท่าจะซื้อของชิ้นอื่นตามปรายฝนอีก
ผมพอเข้าใจลูกว่าคงไม่อยากให้ใครเลียนแบบ พอมีคนใช้ของเหมือนกันแล้วมันอาจดูไม่เท่ แต่ก็ชวนปรายฝนคุยว่าเพื่อนคนนี้ก็สนิทกับปรายฝนไม่ใช่เหรอ ใช้ของเหมือนกันก็ดีออก เหมือนที่บางทีปรายฝนก็ใส่เสื้อผ้าลายเดียวกันกับมัมมี่ไง
แต่ลูกสาวก็ยังยืนกรานว่าเขาไม่ชอบ และเริ่มพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า "But I don't like it. I don't like it." (บางทีลูกสาวจะคุยกับผมเป็นภาษาอังกฤษ)
ผมเลยถามกลับไปว่า "Why are you looking for reasons to be unhappy?"
ระหว่างที่ปรายฝนกำลังงงกับสิ่งที่ผมถาม ผมก็ชี้ไปที่ทีวีที่เปิด YouTube เอาไว้
"เพลงนี้เขาเอามาทำใหม่ แด๊ดดี้ฟังแล้วไม่ชอบเลย"
ผมชี้ไปที่โซฟาที่เรากำลังนั่งกันอยู่
"เบาะนี้มีรอยเปื้อน แด๊ดดี้ไม่ชอบเลย"
แล้วก็ชี้ไปที่ภรรยาที่นอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนโซฟา
"มัมมี่นอนท่าแบบนี้ แด๊ดดี้ไม่ชอบเลย"
พอผมแกล้งทำเป็นบ่นในเรื่องไม่สมเหตุสมผล ปรายฝนก็เริ่มเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อ
1
ว่าเรื่องหลายอย่างมันไม่ได้เป็นปัญหา แต่พอเราไปให้ค่าว่ามันเป็นปัญหา เราจึงเพิ่มความทุกข์ให้ตัวเองโดยไม่จำเป็น
ใช่ว่าผมจะไม่พยายามทำความเข้าใจความรู้สึกของลูกนะครับ เพราะผมก็เคยเป็นเด็กมาก่อน เคยมีความหงุดหงิดและทุกข์ใจกับ "เรื่องเล็กในสายตาผู้ใหญ่ แต่เป็นเรื่องใหญ่ในสายตาของเด็ก" เช่นกัน
เหมือนใน Love Actually (2003) หนังรักจากอังกฤษที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของหลายคู่ โดยหนึ่งในนั้นคือคู่ของแดเนียลกับแซม
แดเนียลเป็นพ่อบุญธรรมของแซมวัย 10 ขวบ แดเนียลเห็นว่าช่วงนี้แซมดูหน้าตาบึ้งตึงตลอดเวลา แดเนียลจึงพยายามเข้าหาแซม เพราะแม่ของแซมเองก็ไม่อยู่แล้ว
นี่คือบทสนทนาของทั้งคู่ระหว่างนั่งอยู่บนม้านั่งริมแม่น้ำเธมส์
แดเนียล: แล้วปัญหาคืออะไรล่ะ แซมมี่? เป็นเรื่องของแม่อย่างเดียว หรือมีเรื่องอื่นด้วย? หรืออาจจะเป็นเรื่องโรงเรียน? เธอโดนรังแกอยู่หรือเปล่า? หรือมันเป็นอะไรที่แย่กว่านั้นอีก? พอจะบอกใบ้ได้ไหม?
แซม: คุณอยากรู้จริงๆ เหรอ?
แดเนียล: ฉันอยากรู้จริงๆ
แซม: แม้ว่าคุณจะช่วยอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอ?
แดเนียล: ต่อให้เป็นอย่างนั้นก็เถอะ
แซม: โอเค ความจริงก็คือ...ผมกำลังมีความรัก
แดเนียล: ว่าไงนะ?
แซม: ผมรู้ว่าผมควรจะคิดถึงแม่ตลอดเวลา ซึ่งผมก็คิดนะ แต่ความจริงก็คือผมกำลังตกหลุมรัก และผมตกหลุมรักก่อนที่แม่จะเสียชีวิต และผมก็ทำอะไรกับมันไม่ได้เลย
แดเนียล: (หัวเราะไปพูดไป) เธอไม่เด็กเกินไปเหรอที่จะตกหลุมรัก?
แซม: (ทำหน้าซีเรียส) ก็ไม่หนิครับ
แดเนียล: โอเค เข้าใจละ ฉันค่อยโล่งใจหน่อย
แซม: ทำไมล่ะครับ?
แดเนียล: เพราะฉันนึกว่ามันจะแย่กว่านี้
แซม: มีอะไรที่แย่ไปกว่าการต้องทนทุกข์ทรมานเพราะความรักอีกเหรอ?
แดเนียล: อืม...ก็ไม่หรอก เธอพูดถูกแล้ว ความรักมันก็ทุกข์ทรมานจริงๆ นั่นแหละ
คนที่แซมหลงรักอยู่คือโจแอนนา เด็กสาวชาวอเมริกันที่กำลังจะกลับบ้านเกิด แดเนียลกับแซมจึงวางแผนจะทำให้โจแอนนาประทับใจด้วยการให้แซมฝึกตีกลองเพลง "All I want for Christmas is you." ที่โจแอนนาจะร้องในงานคอนเสิร์ตของโรงเรียน
-----
ตอนเราเด็กเราจะมีปัญหาแบบหนึ่ง
พอเป็นวัยรุ่นก็มีปัญหาอีกแบบหนึ่ง
พอโตเป็นผู้ใหญ่เราก็มีปัญหาอีกแบบหนึ่ง
และพอพ้นวัยกลางคนมา เราก็มีปัญหาอีกแบบหนึ่ง
เมื่อได้ผ่านวันเวลาของชีวิต แล้วได้มองย้อนกลับไป เรามักจะพบว่าเรื่องราวที่เราเคยจะเป็นจะตาย จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น
แต่เรามักจะลืมไปว่าปัญหาที่เรากำลังหนักอกในปัจจุบัน พอเวลาผ่านไปมันก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กเช่นกัน
แน่นอนว่าบางเรื่องมันก็เป็นปัญหาจริงๆ เพราะมันสร้างความลำบากให้กับเราในระยะยาว
แต่ปัญหาก็มีอยู่สองแบบ คือปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ กับปัญหาที่เราแก้ได้
1
ปัญหาที่แก้ไม่ได้ เราไม่ควรนับว่ามันเป็นปัญหา เพราะต่อให้เราเครียดหรือหงุดหงิดกับมันมากแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาหายไป - เช่นปัญหาการเมืองหรือนิสัยใจคอของบางคน
ส่วนปัญหาที่เราแก้ได้ ถ้าเราสบตากับมันด้วยใจที่เป็นกลาง ก็น่าจะแก้ปัญหานั้นได้ดีกว่าการหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปกับมัน
ดังนั้นเราควรโฟกัสแต่ปัญหาที่เราแก้ได้ และไม่ควรเสียพลังชีวิตไปกับปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ และยิ่งไม่ควรเสียอารมณ์ไปกับเรื่องที่เราไม่ควรยึดว่าเป็นปัญหาตั้งแต่แรก
"Why are you looking for reasons to be unhappy?"
หยุดแสวงหาเหตุผลที่จะไม่มีความสุข จะได้มีแรงและเวลาสำหรับเรื่องที่มีค่ากับเราอย่างแท้จริงครับ
โฆษณา