4 ต.ค. เวลา 12:07 • นิยาย เรื่องสั้น

[ฟิคสั้น Kimetsu no Yaiba] คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะคะ

ถึงแม้จะเป็นคำสั่งที่ส่งตรงมาจาก นายท่านคากายะ ผู้นำหน่วยพิฆาตอสูร แต่ถึงกระนั้นความกังขาก็ยังคงเกาะกุมใจเหล่านักล่าอสูรอยู่ดี เช่นเดียวกับ โคโจ ชิโนบุ ผู้ที่พึ่งเข้ารับตำแหน่งเสาหลักแมลงได้ไม่นาน เธอได้รับมอบหมายให้ทำงานคู่กับเด็กหนุ่มผู้มีนามว่า ชเวจินมัน หนึ่งในลูกศิษย์ของสหายผู้ลึกลับของนายท่านคากายะ ที่ใช้นามแฝงว่า "คลื่นสมุทรแหวกว่าย" เพื่อทำภารกิจล่าอสูรและศัตรูของชเวจินมัน
อย่างไรก็ตามช่วงแรก ๆ เสาหลักวายุ ชินาซึกาวะ ซาเนมิ คัดค้านแบบหัวชนฝา จนเกิดการประลองวัดฝีมือขึ้น ซึ่งสุดท้ายเสาหลักวายุ คือผู้ศิโรราบต่ออีกฝ่าย หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ฮิเมจิมะ เกียวเม เสาหลักหินผาและเป็นผู้นำเสาหลัก ทำการประชุมเฉพาะเสาหลักขึ้น แน่นอนว่าไม่มีใครไว้ใจสหายผู้นี้ของนายท่านคากายะเลย รวมทั้งตัวชิโนบุด้วยเช่นกัน
คงมีแค่ โคโจ คานาเอะ เสาหลักบุปผาพี่สาวของเธอ ที่เชื่อว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เลวร้าย แต่ในเมื่อไม่อาจขัดคำสั่งนายท่านคากายะได้ มันจึงมีแค่วิธีเดียวเท่านั้นคือการจับตาดูอย่างใกล้ชิด ซึ่งหน้าที่ของชิโนบุก็คือ คอยดูความเคลื่อนไหวของชเวจินมัน และหากอีกฝ่ายมีท่าทางที่ดูเป็นศัตรูเมื่อไหร่
เธอจะใช้พิษสังหารอีกฝ่ายในทันที
.
🔥🔥🔥🔥🦋🦋🦋🦋
.
ชิโนบุตกใจกับภาพที่เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง ชเวจินมันใช้สองมือเปล่ารับคมเขี้ยวของอสูร ที่คิดจะลอบกัดหญิงสาวจากด้านหลัง สีหน้าของชเวจินมันกลับไม่แสดงความเจ็บปวดใด ๆ ออกมา ตรงข้ามเขาเอามือที่ยังว่างอยู่ จับที่ศีรษะของอสูรตัวนั้น ฉับพลันมันก็สัมผัสถึงความร้อนจากเปลวไฟในมือเด็กหนุ่ม
อสูรส่งเสียงโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด มันพยายามจะสลัดให้หลุด แต่กลายเป็นว่ามันถูกชเวจินมันจับล็อกตัวไว้ อสูรได้เผลอสบตากับดวงตาสีแดงเข้มที่มีตราสัญลักษณ์คล้ายดวงอาทิตย์ นาทีนั้นเจ้าอสูรก็ตระหนักในห้วงสุดท้ายของลมหายได้ว่า มันเลือกเหยื่อผิดคน
หลังจัดการเผาอสูรทั้งเป็นเสร็จ ชเวจินมันรีบวิ่งมาดูชิโนบุ ที่กำลังทำแผลให้ชาวบ้านคนหนึ่ง โชคดีที่ทั้งสองมาช่วยไว้ทันท่วงที อย่างไรก็ตามหลังส่งชาวบ้านกลับหมู่บ้าน สิ่งที่เด็กหนุ่มจะต้องโดนในเวลาต่อมา คือคำบ่นต่าง ๆ นา ๆ ของชิโนบุ
แต่สิ่งที่ชเวจินมันอยากหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือ การตรวจร่างกายทั้งหลังและก่อนออกไปล่าอสูร มันเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่คานาเอะเสนอมา และฝ่ายชเวจินมันไม่สามารถปฏิเสธได้ด้วย
"รอบนี้คงไม่คิดจะแอบปีนหนีทางหน้าต่างหรอกนะคะ" ชิโนบุพูดขึ้น หลังจากเดินทางมาถึงคฤหาสน์ผีเสื้อ
ชเวจินมันชะงักนิ่งไปเพราะมันคือสิ่งที่เขาจะทำพอดี "รู้แล้วน่า แค่ตรวจเฉย ๆ ก็พอแล้วใช่ไหม" เขาพูดพลางเกาหัว เพื่อกลบเกลื่อนบางอย่าง
"คุณชเว ถ้าอยากให้ฉันกับคนอื่น ๆ เชื่อใจคุณ" ชิโนบุพูดเสียงจริงจัง "คุณต้องให้ความร่วมมือมากกว่านี้นะคะ"
"แน่ใจหรือที่พูดมาน่ะ" เขาสวนกลับ
"ฉันพูดตามความจริงต่างหาก..."
จู่ ๆ ชเวจินมันก็เดินมาเผชิญหน้ากับชิโนบุในระยะใกล้พอสมควร เขาสบตากับดวงตาสีม่วงของอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง สิ่งเดียวที่เด็กหนุ่มสัมผัสได้คือความไม่ไว้ใจและกำแพงที่สูงใหญ่เกินกว่าจะทลายมันลงได้ มันชวนให้เจ็บแปลบกลางอกเหลือทน
ขณะที่ชิโนบุมองนัยตาของชเวจินมัน แม้ไม่อยากยอมรับแต่มันไม่ใช่แววตา ของพวกอสูรที่เธอเคยปราบมานับครั้งไม่ถ้วน ดูยังไงมันก็ดวงตาของมนุษย์ที่มีความรู้สึก และที่ชิโนบุสัมผัสได้คือความเจ็บปวด..... ที่เธอไม่ไว้ใจเขา นาทีนั้นเองที่ชิโนบุก็รู้สึกปวดใจ แม้จะผ่านภารกิจมาหลายครั้ง แต่ทำไมเธอก็ไม่ยอมเชื่อใจอีกฝ่ายเสียที
หรือแท้จริงแล้วชิโนบุไม่คิดจะเชื่อใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
"เข้าด้านในเถอะคะ" ชิโนบุถอยหลังออกมา "เดี๋ยวพี่คานาเอะจะเป็นห่วง"
"อืม" ชเวจินมันขานรับ
ทั้งสองพากันเดินเข้ามาข้างในซึ่ง อาโออิ น้องสาวบุญธรรมของชิโนบุรอต้อนรับอยู่ พร้อมทั้งชี้แจ้งว่าคานาเอะยังไม่กลับ เนื่องจากติดภารกิจลาดตระเวนอยู่ ชิโนบุจึงอาสาจะตรวจร่างกายของชเวจินมันแทน แต่พอเธอหันหลับมาทางด้านหลัง ก็พบว่าเจ้าตัวแสบหายตัวไปเรียบร้อยแล้ว
.
🔥🔥🔥🔥🦋🦋🦋🦋
.
ชเวจินมันแอบออกมาจากคฤหาสน์ผีเสื้อ โดยขออาศัยในบ้านพักสำหรับนักล่าอสูร ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะนอนสักสองชั่วโมง แล้วค่อยไปรวมพลกับคนอื่น ๆ แต่กลายเป็นว่าเด็กหนุ่มไม่อาจข่มตาหลับลงได้ ภาพชิโนบุตอนเขาสบตากับเธอ มันยังเด่นชัดอยู่ในสมอง และทุกครั้งนึกถึงแววที่ชิโนบุไม่เชื่อใจเขา หัวใจก็เจ็บแปลบทุกรอบ
เขาไม่ใช่ไอ้โง่มีหรือจะไม่รู้ว่า นักล่าอสูรรวมทั้งเสาหลักต่างไม่เชื่อใจเขากับสหายมากแค่ไหน แต่ชเวจินมันเลือกจะปล่อยผ่าน ให้กาลเวลาพิสูจน์กันเองว่า เขาและพรรคพวกไม่ใช่อสูร ซึ่งเด็กหนุ่มพบว่ามันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะกับชิโนบุที่เห็นได้ชัดว่า เธอมีกำแพงในใจสูงกว่าคนอื่นมาก ช่างแตกต่างกับคานาเอะที่เป็นพี่สาวเหลือเกิน
สำหรับชเวจินมันแล้วใครจะมองเขา หรือไม่เชื่อใจเขาอย่างไรก็ช่างหัวปะไรไปเสีย เพราะคนที่ชเวจินมันอยากให้เชื่อใจทากที่สุด คือชิโนบุต่างหากแค่เธอคนเดียวก็พอ
"นอนไม่หลับเลยเว้ย"
ชเวจินมันขึ้นไปนั่งบนหลังคาดีกว่า เขานั่งรับลมเย็น ๆ เผื่อจะช่วยผ่อนคลาย ทำให้เด็กหนุ่มไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยิ่งมองเห็นพระจันทร์บนท้องฟ้าก็ยิ่งนึกถึงชิโนบุมากขึ้นไปอีก
หากเธออยู่ตรงนี้คงจะชอบพูดว่า "คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะคะ" ใช่ ชิโนบุมักชอบพูดประโยคเสมอยามพระจันทร์ส่องแสงลงมา ชเวจินมันก็มองฟ้าพลางคิดในใจ บางทีเธออาจพูดถูกมันก็สวยจริง ๆ แหละ
"แหม คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะคะ คุณชเว"
เด็กหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วย "อืม เห็นด้วย..." เขาชะงักไปครู่หนึ่งและรีบหันควับไปทางขวา ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับหญิงสาวเจ้าของดวงตามีม่วงอ่อน ผู้ผูกผมหางม้าสั้นติดกิ๊บผีเสื้อ เธอส่งยิ้มหวานมาให้ แต่ชเวจินมันกลับรู้สึกเสียวสันหลังอย่างไรชอบกล
ประโยคแรกที่ดังก้องในสมองของชเวจินมันก็คือ "บรรลัยแล้วไงกู"
ชิโนบุยังคงยิ้มให้เด็กหนุ่ม แต่รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาน่ากลัวยิ่งนัก
"คุณชเว ไม่ดีเลยนะคะ" ชิโนบุพูดเสียงนิ่มนวล "เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือคะ ไหนคุณรับปากว่าจะให้ความร่วมมือเองแท้ ๆ"
ชเวจินมันเงียบไม่โต้ตอบหญิงสาวแต่อย่างใด แต่ครู่ต่อมาเขาก็พูดว่า "ตรวจร่างกายไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะมันก็ไม่ทำให้เธอเชื่อใจฉัน"
ชิโนบุสะดุ้งแวบหนึ่งตามด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก รู้สึกเหมือนถูกเข็มเล็ก ๆ ทิ่มตำหัวใจ ประโยคที่ชเวจินมันพูดมิเกินความจริงอย่างใด ทว่ามันก็มีความจริงอีกข้อหนึ่งที่ชเวจินมันไม่อาจล่วงรู้ได้ ซึ่งก็คือมีบางอย่างในจิตใจของชิโนบุกำลังขัดแย้งกัน หลายภารกิจที่ทำร่วมกันไม่ใช่ว่าหญิงสาวจะไม่รับรู้ อันที่จริงเธอไม่ใช่คนโง่สมองกลวง
แท้จริงเธอแยกแยะออกระหว่างมนุษย์กับอสูรออก และเท่าที่ตรวจร่างกายของชเวจินมันมาสักระยะ เธอพบว่ายีนส์ของชายหนุ่มมีความผิดปกติไม่เหมือนของมนุษย์ แต่ขณะเดียวกันก็แตกต่างจากอสูรด้วยเช่นกัน
ชเวจินมันเห็นว่าชิโนบุดูเงียบผิดปกติ จึงคิดจะทำลายบรรยากาศนี้เสีย เขาเงยหน้ามองพระจันทร์เบื้องบน
"พระจันทร์คืนนี้สวยดีอย่างที่เธอบอกจริงแหละ" เขาบอก "ไม่แปลกที่เธอจะชอบมองมัน"
ชิโนบุมองหน้าคู่สนทนาด้วยความรู้สึกฉงนใจไม่น้อย
"เอ๋.... คุณชเวไม่รู้ความหมายของมันหรือคะเนี่ย" ชิโนบุว่าพลางเอียงคออย่างนึกแปลกใจ
ชเวจินมันหันขวับมาทางชิโนบุอีกครั้ง
"อ้าว มันมีความหมายด้วยหรือ" ชเวจินมันพูด "ฉันนึกว่าเธอชอบมองพระจันทร์ซะอีก"
ชิโนบุสั่นศีรษะ "ฉันแค่ชอบความหมายของมันมากกว่านะคะ"
"แล้วคำว่า "พระจันทร์สวย" เนี่ย มันมีความหมายว่ายังไงหรือ เธอบอกฉันได้ไหม"
สิ้นคำถามของชายหนุ่มและการแสดงสีหน้าของชิโนบุ ก็ทำให้ชเวจินมันรับรู้ในทันทีว่าเธอจะไม่มีวันบอกความหมายของมันแน่ และเขาก็คิดถูกเพราะชิโนบุลุกขึ้นยืน พลางเงยหน้ามองพระจันทร์บนท้องฟ้า พร้อมกับเผยรอยยิ้มน้อย ๆ ออกมา ชเวจินมันจ้องมองใบหน้าหญิงสาวไม่วางตา เขายอมรับว่าตอนที่เธอยิ้ม... ยิ้มที่ออกมาจากใจจริง มิใช่การยิ้มแบบเสแสร้งหรือการหยอกเย้าเหมือนที่ผ่านมา
ครู่ต่อมาชิโนบุก็หันกลับมาทางชเวจินมัน
"เอาอย่างนี้ไหมคะ เรามาทำข้อตกลงกัน" เธอพูดและกลับมานั่งข้างชเวจินมัน "หากคุณยอมให้ความร่วมมือในการตรวจร่างกาย ทุกครั้งที่กลับจากภารกิจฉันจะเปิดใจเชื่อใจคุณชเว แบบนี้ดีไหมคะ"
ชเวจินมันรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ ชิโนบุก็ยื่นข้อเสนอเช่นนี้ออกมา เขาครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะถามเธอว่า "แค่นี้เองเหรอ"
ชิโนบุมองหน้าอีกฝ่าย "งั้นคุณชเวอยากเอาอะไรมาเป็นของแลกเปลี่ยนล่ะ"
"เรียกชื่อฉันว่า "จินมัน" แบบที่ฉันเรียกเธอว่า "ชิโนบุ" ได้หรือไม่"
หญิงสาวนึกแปลกใจน้อย ๆ
"แต่ฉันก็เรียกคุณว่า "ชเว" นี่คะ" เธอว่า "ไม่ใช่ชื่อจริงของคุณเหรอคะ"
"ใครบอกล่ะ "ชเว" น่ะ มันนามสกุลฉันต่างหาก" ชายหนุ่มอธิบาย "ชื่อจริงของฉันคือจินมัน"
ชิโนบุพยักหน้าเข้าใจแต่ถึงกระนั้น ความสงสัยก็ยังไม่คลายทีเดียว
"แล้วทำไมถึงอยากให้ฉันเรียกชื่อจริงคุณล่ะคะ มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษไหม"
"ถามจริงเถอะชิโนบุ ฉันกับเธอก็ทำงานร่วมกันมาก็หลายเดือนแล้ว ใจคอจะห่างเหินจนวินาทีสุดท้ายเลยหรือ"
"ออ ที่แท้คุณก็อยากสนิทกับฉันเหรอคะเนี่ย แหม คุณชเวเนี่ยน่ารักน่าเอ็นดูกว่าคุณโทมิโอกะอีกนะ"
ชเวจินมันยอมรับว่ารู้สึกหงุดหงิด ยามที่ชิโนบุเอ่ยนามบุคคลที่สามอีกคน ซึ่งเขาก็หาคำตอบไม่ได้ว่าทำไม ด้านชิโนบุเธอก็มองว่ามันถึงเวลาที่จะต้องพาเจ้าคนดื้อไปตรวจร่างกาย เพราะพรุ่งนี้เธอต้องไปเข้าพบนายท่านคากายะอีก
"เอาล่ะคะเราเสียเวลาตรงนี้มานานแล้ว" ชิโนบุเอ่ยขึ้น และหันมาทางชเวจินมัน "ฉันขอความร่วมมือในการตรวจร่างกายด้วยนะคะ คุณจินมัน"
ชเวจินมันนิ่งค้างไปสองนาทีหรืออาจนานกว่านั้นเล็กน้อย เขามั่นใจว่าไม่ได้หูฝาดไปเธอเอ่ยนามจริงของเขาแล้ว และในเมื่อหญิงสาวรักษาสัจจะเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะกล้าสะบั้นคำสัจจะให้อายฟ้าอายดิน ชเวจินมันจึงยอมเดินตามชิโนบุกลับคฤหาสน์ผีเสื้อแต่โดยดี ซึ่งการตรวจร่างกายก็เป็นไปอย่างราบรื่น
แต่แล้วก่อนจะแยกย้ายไปพักผ่อน ชเวจินมันยังรู้สึกสงสัยบางอย่างอยู่
"ชิโนบุ แล้วตกลงคำว่า "คืนนี้พระจันทร์สวย" มันมีความหมายว่าอะไรเหรอ บอกกันได้ไหม"
เป็นอีกครั้งที่ชิโนบุแสดงสีหน้ามีเลศนัย ที่ชเวจินมันคิดว่าเธอไม่ยอมบอกเขาแน่ ๆ
หญิงสาวทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยและมองหน้าชเวจินมัน "ถ้าคุณจินมันทำตัวดี ๆ ให้ความร่วมมือแบบนี้ ฉันอาจจะยอมบอกนะคะ"
"ก็ฉันให้ความร่วมมือแล้วนี่น่า"
"แหม ๆ แค่วันเดียวเอง ใครจะรู้ว่าวันถัดไปคุณอาจดื้ออีกก็ได้ ที่สำคัญคุณได้ขอแลกเปลี่ยนไปแล้ว นั้นคือให้ฉันเรียกชื่อจริงของคุณ"
"ก็ใช่ แต่..."
"เพราะงั้นฉันขอดูความประพฤติของคุณจินมันไปก่อน ฉะนั้นอย่ามาได้คืบจะเอาศอกดีกว่าคะ"
น้ำเสียงตรงประโยคสุดท้ายมันดูเยือกเย็น เสียจนขนหลังคอของชเวจินมันลุกชัน เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไรต่อ ชิโนบุก็หมุนตัวกลับเพื่อจะกลับห้องพักผ่อน แต่ท้ายที่สุดเธอก็ยังหันมาทางชเวจินมันและกล่าวประโยคทิ้งท้ายว่า
"แต่คุณจินมันพูดถูกนะคะ คืนนี้พระจันทร์สวยมากคะ"
และแล้วเธอก็เดินจากไปปล่อยให้ชเวจินมันยืนงงฉงนใจอยู่คนเดียว เขาขยี้ผมบนศีรษะตัวเองและถอนหายใจออกมา ชายหนุ่มยืนมองบานประตูที่ชิโนบุพึ่งจะเดินออกไป
"ผู้หญิงอะไร เดาใจยากฉิบหาย"
.
🔥🔥🔥🔥🦋🦋🦋🦋
โฆษณา