23 ก.ย. เวลา 00:00 • สุขภาพ

การตรวจก่อนสมรส และตรวจก่อนมีบุตร

การตรวจก่อนสมรส และตรวจก่อนมีบุตร เป็นการตรวจคัดกรองโรคต่างๆ ที่สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไปสู่ คู่สมรส และตรวจคัดกรองโรคที่อาจส่งผลไปยังบุตร รวมทั้งการเตรียมความพร้อม ฉีดวัคซีนที่จำเป็นก่อนการ แต่งงานหรือตั้งครรภ์
การตรวจเลือดประกอบด้วยอะไรบ้าง
💗 การตรวจนับเม็ดเลือด (complete blood count) เพื่อดูความเข้มข้นเลือด ขนาดของเม็ดเลือดแดง เกล็ด เลือด
💗 หมู่เลือด (ABO and Rh blood group) เพื่อให้ทราบทั้งหมู่เลือด ABO และ Rh ในหญิงที่มีหมู่เลือด Rh เป็นลบ (Rh negative) ซึ่งเป็นหมู่เลือดพิเศษ เมื่อตั้งครรภ์จะได้รับการดูแลที่แตกต่างจากหญิงตั้งครรภ์ปกติ
💗 กลุ่มโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ เอช.ไอ.วี ซิฟิลิส ตับอักเสบบีและซี (anti HIV, VDRL, HBs Ag, anti HCV) เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทั้งของผู้ตรวจเลือดเอง และของคู่สมรส ในรายที่มีผลผิดปกติ จะได้รับคำแนะนำในการรักษาตนเองต่อไป อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการวางแผนมีบุตร เนื่องจาก โรคเหล่านี้
สามารถติดต่อจากมารดาสู่ทารกได้ ทั้งขณะตั้งครรภ์ และขณะคลอด การวางแผนการ รักษาตั้งแต่ก่อนสมรส และก่อนมีบุตร จะช่วยลดโอกาสการติดต่อไปยังคู่สมรส และบุตรได้ ในหญิงตั้งครรภ์ ที่เป็นซิฟิลิส อาจทำให้ทารกในครรภ์มีความผิดปกติได้ นอกจากนี้ยังมีการตรวจภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอัก เสบบีด้วย(HBs Ab)
💗 ตรวจพาหะโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย (Hb typing) โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม ผู้ที่เป็นโรคนี้ จะมีความผิดปกติในการสร้างฮีโมลโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง ทำให้คนที่ เป็นโรคนี้ มีเม็ดเลือดแดงผิดปกติ เม็ดเลือดแดงแตกง่าย ความรุนแรงของโรคมีหลายระดับ ในคนไทย จำนวนมาก
พบว่าเป็นพาหะของโรคนี้ ซึ่งคนที่เป็นพาหะ จะไม่มีอาการใดๆ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เมื่อมีลูก จะสามารถถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนี้ไปยังลูกได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เคยตรวจมาก่อน การตรวจตั้งแต่ ก่อนมีบุตรจะทำให้ทราบความเสี่ยงที่บุตรจะเป็นโรคนี้ได้
💗 ในฝ่ายหญิงจะมีการตรวจภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน (Rubella IgG) เนื่องจาก ถ้าหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อหัดเยอรมัน จะทำให้เกิดความพิการรุนแรงของทารกในครรภ์ได้
การตรวจเลือดก่อนสมรสและก่อนมีบุตร
สามารถตรวจได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืองดอาหารก่อนการ ตรวจ และหลังตรวจ ผลเลือดส่วนใหญ่ จะสามารถบอกผลได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง ยกเว้น ผลตรวจพาหะโรค เลือดจางธาลัสซีเมีย (Hb typing) และ ผลการตรวจภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน (Rubella IgG) ที่ต้องใช้เวลารอ ประมาณ 3-5 วัน ในคนที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน และ ภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี แนะนำให้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ตั้งแต่ก่อนจะมีบุตร และควรคุมกำเนิดหลังจากเริ่มฉีดวัคซีนไปอย่างน้อย 3-6 เดือน
โฆษณา