23 ก.ย. เวลา 02:35 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

รีวิว "หลานม่า" แบบละเอียดทุกมิติ

หลังจากได้ชม "หลานม่า"
จบไปเมื่อวันก่อน ซึ่งขณะนี้
หนังได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Netflix
และออกฉายไปแล้วหลายประเทศ
พร้อมได้รับคำชมมากมาย
จึงขอเขียนบทวิจารณ์
ในจุดเด่นจุดดีของหนังดังนี้
.
.
.
1.การเดินเรื่อง การถ่ายภาพ ลำดับภาพ ได้อารมณ์และแสงเงาดีมาก
2.ฉากการถ่ายทำ
- ดูหนังถ่ายทำในอาคารเก่าๆ แถวตลาดพลูได้บรรยากาศของหนังและเข้ากับบทเป็นอย่างดี
3.บทภาพยนตร์
- เขียนบทร้อยเรียงรายละเอียดได้ดีมากจนผู้ชมอินไปกับตัวหนังอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมสอดแทรกอารมณ์ขันในความเป็นดราม่าได้อย่างลงตัว ทั้งมุมมองและทัศนคติของคนสองวัย ที่เคมีเข้ากันได้ในตอนท้ายเรื่อง
โดยบทได้แสดงให้เห็นถึงสังคมครอบครัวคนจีนที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว ในฐานะผู้สืบสกุล รวมทั้งบทที่เสียดสีการวางรองเท้าเข้าคิวในโรงพยาบาลของประเทศเรา ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีที่ไหนในโลกบ้าง
4.นักแสดง ตัวละครหลักอย่างอาม่า คือ "ป้าแต๋ว อุษา" ที่แสดงหนังเป็นครั้งแรก แสดงได้เป็นธรรมชาติมากๆ จนดูเหมือนไม่ใช่การแสดง ด้วยภาษากายของเธอช่างยอดเยี่ยม
ส่วนหลานม่า "บิวกิ้น" ก็สวมบทบาทได้ดีเคมีเข้ากั๊นเข้ากันกับป๋าแต๋ว ที่เหลือนั้นก็แสดงได้ไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเป็น "เคี้ยง (ดู๋ สัญญา)" และ "โส่ย (เผือก พงศธร)" หรือ "แม่ของหลานเอ็ม (เจีย สฤญรัตน์)" แสดงได้ดีเยี่ยมทุกคน
5.ข้อคิดในภาพยนตร์
- แม้ว่าแม่อย่างอาม่าอาจจะรักเคี้ยงมากที่สุดทั้งที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ ยอมใส่รองเท้าที่ลูกชายให้ทั้งที่ใส่ไม่สบาย ยอมงดกินเนื้อวัว เพราะเคยอธิษฐานขอเจ้าแม่กวนอิม ขอให้ลูกชายหายป่วย ส่วนลูกสาวเอาใจใส่ก็มองก็เป็นเรื่องปกติของความเป็นลูกสาวแต่ก็สบายใจที่จะอยู่กับลูกสาว
ด้านลูกชายอย่างโส่ยที่ไม่เอาไหน แม่ก็ให้โอกาสลูกเสมอแม้เขาจะทำไม่ดีครั้งแล้วครั้งเล่า ในวาระสุดท้ายยังยกบ้านให้เพราะสงสารและให้โอกาสแก่ลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข การกระทบกระเทียบสังคมที่แม่คนเดียวเลี้ยงลูกหลายคนได้ แต่ลูกหลายคนหาคนที่ดูแลเอาใจใส่แม่คนเดียวให้ดีได้ยาก
6.ทีมงานผู้สร้าง
- ผู้กำกับหนุ่มน้อยคือ "พัฒน์ ภูริพัฒน์" แห่งค่าย gdh559 ต้องยอมรับว่ากำกับหนังได้ธรรมชาติและกลมกลืนมากเหมือนไม่ใช่การแสดง ถือเป็นความกล้าหาญของค่าย gdh ที่ทำให้หนังที่ดูว่าธรรมดาแต่ผลงานที่ออกมาไม่ธรรมดาเลย ดูยังไงก็ไม่ใช่หนังตลาดที่ทำเงินแน่ แต่กลับมีดีในความเรียบง่ายอบอุ่นในความสามัญ ไม่ใช่หนังเศร้าแบบฟูมฟายแต่เป็นความเศร้าที่อิ่มใจในความเป็นจริงของชีวิต
โดยเฉพาะฉากตอนท้ายเรื่องที่เรียกน้ำตาได้เหลือเกิน แม้หลานเอ็มจะน้อยใจว่าอาม่าไม่ได้ยกบ้านให้ แต่เขาก็ภูมิใจในการเป็นผู้ให้แก่อาม่า เงินที่ได้จากอาม่าส่วนหนึ่งก็นำมาซื้อฮวงซุ้ยให้..ประโยคเด็ดคือ "แม้อาม่าไม่ได้ให้เอ็มเป็นที่หนึ่ง แต่อาม่าก็เป็นที่หนึ่งสำหรับเอ็ม" น่าเสียดายที่อาม่าเธอตอบเอ็มไม่ได้แล้วแต่เอ็มคงจะรู้สึกได้ว่าอาม่าจะตอบเช่นไร...
ดูจบแล้วคิดถึงแม่ตัวเองเลยครับ ผมไม่ได้ร้องไห้กับความเศร้า อาจเป็นเพราะตั้งการ์ดต่อมน้ำตาไว้ก่อนแล้วกลายเป็นเศร้าที่ไม่ได้เคล้าน้ำตา two thumbs up ให้ 9/10 ครับ 👍🏽👍🏽
โฆษณา