23 ก.ย. เวลา 10:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เริ่ม 25 ก.ย. นี้ โอนเงิน 10000 บาท ตามเลขท้ายบัตรประชาชน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ

ดิจิทัลวอลเล็ต โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 โอนเงิน 10,000 บาท ตามเลขท้ายบัตรประชาชน เข้าบัญชีพร้อมเพย์ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ เริ่ม 25 ก.ย. นี้
คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) โดยภาครัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน จำนวนประมาณ 14.55 ล้านราย แบ่งเป็น
1) ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 12.40 ล้านราย แ
2) คนพิการ จำนวนประมาณ 2.15 ล้านราย
1. กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 ส.ค. 2567
กระทรวงการคลัง
และคนพิการที่ได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาท อยู่แล้วตามฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐ ณ วันที่ 31 ส.ค. 2567 จะได้รับสิทธิในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ อีก
2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
2.1 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
2.1.1 บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
2.1.2 ยกเว้นกรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้จะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง
ทั้งนี้ คนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือมีบัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) โดยยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนมีบัตรแบบใหม่ แต่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ณ วันที่ 31 ส.ค. 2567 จะถูกรวมในกลุ่มนี้และได้รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน
2.2 คนพิการ จะได้รับเงินผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
2.2.1 ช่องทางที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่ในปัจจุบัน (ทั้งที่รับเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารหรือที่รับเงินสดจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)
2.2.2 กรณีคนพิการไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการตามข้อ 2.2.1 จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ
3. กรณีคนพิการที่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ หรือผู้ได้รับเงินเบี้ยความพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะได้รับโอนเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. 2567 มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
4. การผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน สามารถผูกบัญชีกับธนาคารใดก็ได้ที่มีบัญชีเงินฝากโดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นธนาคารของรัฐ ทั้งนี้ ต้องดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 ธ.ค. 2567 มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ
5. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการควรตรวจสอบบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือบัญชีเงินฝากธนาคารให้มีสถานะปกติ (Active) เพื่อพร้อมรับเงินตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2567 เป็นต้นไป
โดยกำหนดโอนเงิน 10,000 บาทเข้าบัญชีระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ดังนี้
  • วันที่ 25 ก.ย. 2567 สำหรับผู้พิการ 2.1 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
  • วันที่ 26 ก.ย. 2567 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3
  • วันที่ 27 ก.ย. 2567 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7
  • วันที่ 30 ก.ย. 2567 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9
6. ในกรณีที่จ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่ รอบจ่ายซ้ำ จ่ายเงินภายในวันที่ ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัว }คนพิการภายในวันที่ ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่
ครั้งที่ 1 วันที่ 22 ต.ค. 2567 วันที่ 10 ต.ค. 2567 และ วันที่ 18 ต.ค. 2567
ครั้งที่ 2 วันที่ 22 พ.ย. 2567 วันที่ 12 พ.ย. 2567 และ วันที่ 18 พ.ย. 2567
ครั้งที่ 3 วันที่ 22 ธ.ค. 2567 วันที่ 3 ธ.ค. 2567 และ วันที16 ธ.ค. 2567
ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ
สำหรัลคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่ว่าจะได้รับเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารหรือรับเงินสดผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านช่องทางที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการอยู่เดิม
ขณะที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน โดยมีช่องทางตรวจสอบการมีอยู่หรือผูกบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนได้หลายช่องทาง เช่น ผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร เป็นต้น
อย่างไรก็ดี หากเป็นผู้พิการบางกลุ่มที่มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตน (e-KYC) สำเร็จแล้ว ภายใน 31 ส.ค. 2567 ขอให้ตรวจสอบเพิ่มว่า บัตรประจำตัวคนพิการของตนหมดอายุหรือไม่ หรือเป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนพิการแบบเก่า (แบบเล่ม) ที่ยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนเพื่อมีบัตรแบบใหม่กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยหากเป็นกลุ่มดังกล่าวนี้ จะโอนเงิน 10,000 บาท ให้ตามสิทธิของกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนด้วย
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/233175
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา