23 ก.ย. เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดสัปดาห์ที่ 16 – 20 ก.ย. 2567

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หลัง Fed ปรับลดดอกเบี้ย
ภาพรวม
  • Fed ลดดอกเบี้ย 0.5% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ส่งผลดัชนี S&P 500 ทะลุ 5,700 จุด
  • Fed ปรับลดคาดการณ์ GDP สหรัฐปีนี้เหลือ 2% พร้อมปรับเพิ่มประมาณการว่างงาน
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงดอกเบี้ยตามคาด แต่ Fed ลดดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินปอนด์แข็งค่าสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ปรับลดคาดการณ์ GDP และเงินเฟ้อ
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยืนยันไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.
  • เวียดนามเตรียมยกเลิกกฎ Pre-funding สำหรับนักลงทุนต่างชาติ หวังอัพเกรดสู่ตลาดเกิดใหม่
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% เป็น ครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี ส่งผลให้ตลาดตอบรับในเชิงบวก โดยมองว่าการลดดอกเบี้ย 0.5% ยังคงทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นไปในลักษณะถดถอย (Soft landing) ได้
  • สหรัฐ:
๐ ดัชนี S&P 500 ปิดเหนือระดับ 5,700 จุดเป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 1.4% ในรอบสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Dow Jones ปิดเหนือระดับ 42,000 จุด เพิ่มขึ้น 1.6% ในรอบสัปดาห์ ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ทรงตัวที่ระดับ 3.7%
๐ การปรับลดดอกเบี้ย 0.5% ของ Fed นี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 4.75% - 5%
๐ แถลงการณ์ของ Fed บ่งชี้ว่า Fed ให้ความสำคัญกับตลาดแรงงาน โดยมีจุดที่เปลี่ยนไปคือ จากเดิมที่ระบุว่า “การจ้างงานแข็งแกร่ง” เปลี่ยนเป็น “การจ้างงานชะลอตัว” และเน้นย้ำว่ามีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานสูงสุด ในส่วนความกังวลเรื่องเงินเฟ้อลดลง และมีความมั่นใจมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายที่ 2%
๐ ในการประชุม Fed ครั้งนี้ มีการปรับประมาณการ GDP ลง จากเดิมในปี 2567 ที่ 2.1% เป็น 2% และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการว่างงาน ปี 2567 จาก 4% เป็น 4.4%, ปี 2568 จาก 4.2% เป็น 4.4% และปี 2569 จาก 4.1% เป็น 4.3%
๐ Fed Dot Plot บ่งชี้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุมที่เหลือ 2 ครั้งในปีนี้ แล้วจะปรับลดอีกรวม 1% ในปี 2568 และปรับลดอีก 0.5% ในปี 2569 นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยสุดท้าย (Terminal rate) ยังคงอยู่ที่ 3% ช่วยหนุนมุมมอง Soft landing ได้
๐ ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.1% MoM สูงกว่าคาดที่ -0.2% ได้แรงหนุนจากยอดขายสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น 1.4% ส่วนยอดค้าปลีกของสินค้าควบคุม (ไม่รวมอาหาร ยานยนต์ น้ำมัน และวัสดุก่อสร้าง) เพิ่มขึ้น 0.3% MoM ตามที่ตลาดคาด และเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่ 5.7% YoY ในช่วง 3 เดือนล่าสุด ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงอุปสงค์ของภาคครัวเรือนที่ยังคงแข็งแกร่งในช่วงไตรมาส 3 แม้ว่าการจ้างงานและการเติบโตของค่าจ้างจะชะลอตัวลงก็ตาม
  • ยุโรป:
๐ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ตามที่ตลาดคาด โดย BOE ส่งสัญญาณว่าจะไม่รีบเร่งที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน เนื่องจากรอสัญญาณเพิ่มเติมว่าแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อลดลงแล้ว
๐ BOE ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ใน Q3/2024 จาก 0.4% เป็น 0.3% QoQ และมีการปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2567 จาก 2.8% เป็น 2.5% ในส่วนของการลดขนาดงบดุล (QT) มีมติคงแผน QT ไว้ที่ 100,000 ล้านปอนด์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค. นี้ แม้ว่า BOE จะคงดอกเบี้ยตามคาด แต่เป็นช่วงเดียวกับ Fed ลดดอกเบี้ย 0.5% จึงส่งผลให้เงินปอนด์แข็งค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565
  • ญี่ปุ่น:
๐ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น เงินเยนกลับมาอ่อนค่าอยู่ที่ราว 143.6 เยนต่อดอลลาร์จากระดับ 141.8 เยนต่อดอลลาร์ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ตามที่ตลาดคาด
๐ ผู้ว่าการ BOJ ส่งสัญญาณว่าไม่จำเป็นต้องรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ต.ค. ยังพอมีเวลาติดตามตลาดการเงิน และผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างระมัดระวัง
๐ BOJ ปรับเพิ่มการประเมินด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และระบุคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะกลางและระยะยาว ว่าจะปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปตามที่ BOJ คาด ซึ่งจุดนี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค.
  • เวียดนาม:
๐ เวียดนามเตรียมยกเลิกมาตรการระดมทุนล่วงหน้า (Pre-funding) สำหรับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งปกตินักลงทุนต่างชาติต้องมีเงินสด 100% ไว้ในพอร์ต ก่อนซื้อหุ้น 1 วัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พ.ย. นี้ ซึ่งถ้ายกเลิกมาตรการนี้แล้ว ก็มีการคาดการณ์ว่า FTSE มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสถานะหุ้นเวียดนามจากตลาดชายขอบ (Frontier Market) เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และจะได้เข้าคำนวณในดัชนี FTSE Emerging Market ภายใน 12 เดือนข้างหน้า และอาจส่งผลให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าเวียดนามเพิ่มขึ้น
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา