23 ก.ย. 2024 เวลา 15:39 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ผูกพันกับ MEB และ Readawrite เพราะตอนสมัยที่เป็นนักศึกษาฝึกงานช่วง COVID ด้วยความที่การฝึกงานไม่มีอะไรให้ผมทำมากนัก ผมจึงใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเขียนนิยายลงใน Readawrite ดู ทำให้แพลตฟอร์มแห่งนี้ เป็นเหมือนที่ลับคม สกิลในการเขียนของผมก็ว่าได้
Readawrite เป็นเบอร์ 1 ของแพลตฟอร์มนิยายออนไลน์ ด้วยการเอาชนะ Dek-D.com (ใครทันไม่เด็กแล้ว) อย่างไม่ยากเย็น ด้วยระบบหลังบ้านที่ Friendly กับนักเขียนมาก แถมการให้ส่วนแบ่งกับนักเขียนเวลาที่นักอ่านจ่ายเงินซื้อนิยายแต่ละตอนที่น่าจะสูงที่สุดแล้วในตอนนั้น
เมื่อแพลตฟอร์มให้เงินเยอะ ก็ดึงดูดนักเขียนฝีมือดีให้เข้ามา และพอมีนักเขียนที่ดี ก็จะตามมาด้วยแฟนคลับที่ตามมาอ่านงานดี ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อมีแฟนคลับที่เฝ้ารอผลงานมากพอ นักอ่านก็จะปล่อยรวมเล่มในลักษณะ E-Book ออกมาในที่สุด
เรียกได้ว่า Readawrite เป็นบันไดให้นักเขียนทั้งหลาย ได้ลองชิมลางพร้อมมีเงินส่วนแบ่งระหว่างทางเล็ก ๆ น้อย เพื่อเอา E-Book ไปขายบน MEB ที่จะเป็นรายได้หลัก
แต่ประเด็นก็อยู่ที่ว่า เมื่อ MEB เป็นอันดับ 1 ของประเทศแล้ว จะเอายังไงต่อ นี่คือสิ่งสำคัญที่ผมรู้สึกว่า MEB ยังตอบทั้งตัวเอง และตัวผมไม่ได้ จากการเข้าไปอ่านรายงานประจำปี ที่ทางบริษัทก็ใช้คำว่าไปโตต่างประเทศค่อนข้างมากครั้ง ในขณะที่สิ่งที่น้อย แต่สำคัญกว่าคือความชัดเจนในการจะทำให้มันเกิดขึ้น ยังไม่มี
ทางบริษัทลองเปิดแพลตฟอร์มนิยายออนไลน์ต่างประเทศดูแล้ว ชื่อว่า Lunarwrite เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แต่เมื่อผมกดเข้าไปดู ก็รู้สึกได้เลยว่าแพลตฟอร์มนี้ ไม่มีอะไรต่างจาก Readawrite นอกจากตัวนิยายที่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งก็แปลมาจากงานของนักเขียนไทยที่น่าจะหน้าเดิม ๆ จาก Readawrite หรือ MEB
แต่การจะไปโตต่างประเทศ ต้องการมากกว่าการแปลนิยายไทยให้คนต่างชาติอ่าน ตัวแพลตฟอร์มอาจจะมีนักอ่านจากต่างชาติ แต่สิ่งที่สำคัญอย่างนักเขียนชาวต่างชาติ กลับยังหาไม่พบ ทำให้การจะ Localised แพลตฟอร์ม คงเป็นเรื่องที่ยังต้องขบคิดและแก้ปัญหากันอีกนาน
เพราะไอ้เรื่องจะให้นักเขียนไทย ไปเขียนนิยายเป็นภาษา และวัฒนธรรมบ้านเขา เราก็ไม่มีทางรู้ดีเท่าคนพื้นที่แน่ ยังไม่พูดถึงเรื่องที่มีคนไทยน้อยคนนัก ที่จะใช้ภาษาเพื่อนบ้านเราได้อย่างเชี่ยวชาญ จนสามารถเขียนนิยายให้คนประเทศนั้น "อิน" ได้
1
เพราะฉะนั้น สถานการณ์ของ MEB ตอนนี้ ก็ยังคงเป็นปลาใหญ่ในบ่อเล็ก ที่เป็นผู้ชนะแล้ว แต่จะเอายังไงต่อก็ยังไม่ทราบ ส่วนตัวผมมองว่า ตลาดในประเทศคงยังโตได้อีก แต่ถ้าเราจะถือหุ้นนี้ไปยาว ๆ ต้องมีย่างก้าวแห่งการเติบโตที่ชัดเจนกว่านี้
เช่น กลายเป็นแพลตฟอร์มไวรัลไปทั่วเอเชียอาคเนย์ หรือเปิดแหล่งรายได้ใหม่ เช่น การมี Original Content ของตัวเอง แล้วขาย IP (Intellectual Property) ให้กับบริษัททำหนังทำละคร
แต่สำหรับตอนนี้ การที่จะเป็นอย่างนั้นได้ ก็คงต้องลุ้นกันเหนื่อยมาก ๆ เลย จากใจนักเขียนไส้แห้งคนหนึ่ง ที่เคยอาศัย Readawrite เป็นที่ฝึกวิชา
โฆษณา