24 ก.ย. เวลา 04:27 • ความคิดเห็น

ยอมเจ๊งเพื่อให้เจ๋ง

ผู้จัดงานชาวสิงคโปร์ถึงกับอุทานด้วยความตกใจว่ายูจัดได้ยังไง สิงคโปร์ที่จัดงานระดับโลกบ่อยๆ ไม่มีใครกล้าจัดอะไรแบบนี้เพราะขาดทุนร้อยเปอร์เซนต์! นอกจากขาดทุนแล้ว เชิญคนระดับนี้มาได้ยังไงด้วย…
เป็นคำอุทานที่ได้เห็นรายละเอียดของงาน Dragonfly 2024 ที่กำลังจะจัดในเมืองไทยวันที่ 23 และ 24 ตุลาคมนี้ ซึ่งบัตรวันแรกหมดแล้ว แต่บัตรเข้างานทั้งสองวันยังมีอยู่ และต่อให้คนมาเต็มงานทั้งสองวันก็จะขาดทุนแน่ๆในระดับเป็นสิบล้าน
เป็นคำยืนยันว่าเจ๊งแน่ๆ โดยผู้จัดผู้บ้าระห่ำ อยากให้เมืองไทยมี event แบบนี้ครั้งแรกในเอเชียที่จะระดม speaker ระดับโลกค่าตัวแพงจนผมต้องถามว่าที่บอกราคานั้นเป็นดอลล่าร์หรือบาท
1
อยากรวมผู้ฟังที่เป็นผู้นำที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองทั่วภูมิภาค อยากจัดงานที่อลังการให้เมืองไทยแจ้งเกิดเป็นหมุดหมายแห่งการ HEAL ของเอเชีย
เป็นคนเดียวกับที่ดื้อจัดงาน S2O สงกรานต์ที่บ้าเอาดีเจระดับโลกมาตั้งแต่ปีแรก เจ๊งยับเป็นสิบล้านอยู่หลายปี จนตอนนี้กลายเป็นงานระดับโลกที่จัดไปทั่วเอเชีย พาสงกรานต์ไปยุโรป และล่าสุดไปจัดที่บรูคลิน นิวยอร์ค และกำลังจะจัดที่ไมอามี่เพิ่มในปีหน้า
วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ยืนยันด้วยรอยยิ้มอย่างตื่นเต้นว่า เจ๊งแน่พี่ แต่มันจะเจ๋งมากๆ…
วู้ดดี้เล่าถึงงาน dragonfly ว่าเขาได้เข้าไปร่วมกับคุณแพม พรประภาเพื่อจัดงาน summit ที่มุ่งเน้นไปเรื่องจิตใจ การสำรวจตัวเองภายในของผู้บริหาร และของผู้นำ เพราะวู้ดดี้คือผู้ที่เดินทางไปทั่วโลก ไปฟัง ไปพบ และไปเข้าอบรมมาจนได้ยิน ได้ฟัง และได้เห็นบุคคลระดับโลกที่เก่งและมีอิทธิพลต่อผู้คนมากมาย วู้ดดี้ก็เลยคิดไอเดียบ้าๆแนวเขาที่อยากสร้างงานในระดับเอเชียที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน แล้วหาทางชวนผู้นำทางความคิดที่ส่วนใหญ่ไม่เคยมีใครมาพูดที่เอเชีย เพราะค่าตัวแพงจนไม่มีใครกล้าเชิญ
วู้ดดี้ลิสต์ชื่อคนที่เจ๋งที่สุด แล้วไปชวนมาโดยแทบไม่ได้คำนึงถึงค่าตัว แค่อยากให้งานมันสมบูรณ์ บางคนไม่ใช่แค่ค่าตัว แต่ต้องไปตามตื๊อ ไปหาทางต่างๆ เพื่อเชิญให้มาให้ได้ วู้ดดี้เล่าถึง Sadhguru กูรูด้านจิตวิญญาณระดับโลกชาวอินเดียที่โด่งดังมากๆ บอกว่า ถ้าจะให้มาพูด วู้ดดี้ต้องเข้าใจที่เขาจะสอนอย่างลึกซึ้งเสียก่อน วู้ดดี้ต้องไปเรียนเรื่อง inner engineering ที่เทนเนสซี่อยู่สองอาทิตย์ แล้วบินไปอยู่กับ Sadhguru ที่อินเดีย เต้นรำยันเช้าในงานจิตวิญญานที่มีคนร่วมสามแสนคน จน Sadhguru ยอมมาเป็น speaker ให้
4
อีกคนที่ผมตกใจมาก เพราะเป็นนักเขียนในดวงใจอันดับหนึ่งของผม คุณ Yuval Harari ที่เขียนหนังสือ Sapiens ที่ผู้นำในโลกอ่านกันทุกคน และล่าสุดเพิ่งเขียนเรื่อง Nexus คุณ Yuval เป็นชาวอิสราเอลที่นับถือพุทธศาสนา เป็นนักประวัติศาสตร์แต่มีมิติเรื่องจิตวิญญาณและพินิจพิเคราะห์เรื่อง AI ต่างไปจากคนอื่น คุณ Yuval มอง AI กับความสัมพันธ์เรื่องจิตใจมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง ซึ่งได้ฟังคุณ Yuval ที่งานนี่ก็เป็นเซอร์ไพรส์ระดับนักร้องระดับโลกของผมเหมือนกัน
5
อีกคนที เฮ่ย มาได้ไง ไม่แพงตายเลยเหรอก็คือคุณ Steven Bartlett ที่จะว่าไปก็คือเคน นครินทร์ในระดับโลก เป็นคนที่สัมภาษณ์ผู้นำที่เจ๋งที่สุด คมคายและเรียบง่าย เขาเจอและได้ถามผู้นำในระดับนั้นมามากมาย เป็นคนที่มีเสน่ห์ และยิ่งถ้ามากลั่นกรองประสบการณ์และบทเรียนจากที่เขาได้คุยกับผู้นำแบบเข้มๆ และตัวเป็นๆคงน่าฟังสุดๆ วู้ดดี้ของว่า steven bartlett ยังไม่เคยมาพูดในเอเชียเลยด้วยซ้ำ
และยังมี Dr shefali ที่เป็นกูรูด้านการฮีลใจ ความสัมพันธ์กับครอบครัวที่ Oprah ยกย่องมากๆ มีคุณ roxie Nafousi ที่เขียนหนังสือเรื่อง Maifest ถ้าได้ฟัง roxie มาสอน manifest หรือการตั้งมั่นอะไรเพื่อให้ได้ตามปรารถนาเป็นขั้นตอนแล้วนึกตามบนเวทีคงน่าขนลุก
1
มี Kancho the techno monk ที่กำลังดังสุดๆ เป็นพระที่เทศน์ผ่านบทเพลงเทคโน ถ้าได้ฟังสดๆ คงไม่ต่างกับการไปดูคอนเสิรท์แห่งจิตวิญญาณ และมี Will Bowen ที่เป็นผู้นำด้านความคิดเรื่องถ้าโลกนี้ไม่มีเสียงบ่น (a complaint free world) ที่ถ้าได้เข้าใจหลักการนี้ จะเปลี่ยนชีวิตใครหลายคนมาแล้ว…
รายชื่อเหล่านี้ กับราคาบัตรวันเดียวแปดพัน สองวันหมื่นกว่า เด็กประถมก็คิดออกว่าขาดทุนยับแน่นอน..
แต่ที่น่าจะเป็นไฮไลท์ของงานนั้น อาจจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อ speaker แต่ก็คือผู้คนในระดับผู้นำจากทั่วเอเชียและไทยหลายพันคน เป็นผู้คนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากสำรวจจิตใจ อยากหา peace of mind และอยากปรับปรุงความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวให้ดีขึ้น อยากเป็นผู้นำที่ดีขึ้น เป็น mover และ shaker ของสังคมมาอยู่รวมกันในห้องใหญ่ หันไปไหนก็คงได้รับพลังงานดีๆ ฟัง techno monk ด้วยกันคงได้ vibe ที่หาที่ไหนไม่ได้ บรรยากาศคงจะสนุกและได้ประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแน่นอน..
ผมนึกถึงเรื่องนึงที่คุณตัน อิชิตันเคยเล่าไว้ตอนเปิดร้านบุฟเฟ่ท์อาหารญี่ปุ่นใหม่ๆที่ทองหล่อ คุณตันใส่ของเยอะมาก ซาลมอนกินไม่อั้น และวัตถุดิบเต็มที่ที่สมัยนั้นมีแต่ขายแพงๆ คนมาถล่มจนแน่นร้านตั้งแต่วันแรกเพราะมันคุ้มสุดๆ คุณตันไปแอบฟัง feedback ของลูกค้าในห้องน้ำแล้วได้ยินประโยคที่คุณตันรู้เลยว่าลูกค้าชอบมากแน่ๆ เพราะได้ยินลูกค้ารีบโทรไปตามเพื่อนให้รีบมากินเพราะคุ้มสุดๆ ให้รีบมาด่วนเพราะกลัวร้านเจ๊ง..
1
ผมก็เลยรีบเขียนมาบอกทุกคนเพราะมันคุ้มจนกลัวเขาเจ๊งจนไม่จัดอีกในปีหน้าครับ…
โฆษณา