24 ก.ย. เวลา 10:21 • ความคิดเห็น

เรื่องเล่าวันที่ต้องป่วย.... อีกแล้ว

นับเป็นวาสนาอันดีของตัวเอง ที่ทำให้ต้องเจริญสติปัฏฐาน​สี่แบบ.... ไม่ได้อยากทำ ก็ต้องทำ
บางครั้งพอใช้ชีวิต เราก็เพลิดเพลินกับการงาน มีสติบ้าง หลุดบ้าง รู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึดตัวบ้าง แต่มักจะไม่รู้สึกตัวเสียมากกว่า....
เคยได้ยินคำของแม่พิกุลท่านกล่าวว่า เวลาป่วย มันเจริญสติดีนัก มันจะเห็นทุกข์ได้ชัด ... จะว่าไป ตัวเองก็ป่วยหลายครั้ง แต่ละครั้งก็ต้องอยู่กับความทุกข์จริงๆ
ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งของคนทั่วไปคือ ถ้าเห็นทุกข์ เราจะทุกข์ ถ้ารู้ทุกข์ เราจะจมอยู่ในทุกข์ บางคนก็เข้าใจว่าศาสนาพุทธสอนแต่เรื่องความทุกข์
แต่แท้ที่จริงแล้ว ศาสนาพุทธสอนให้เราสร้างเรือเพื่อให้ล่องฝ่ามหาสมุทรแห่งความทุกข์ทั้งปวงเพื่อให้เข้าถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย ยิ่งสติสัมปชัญญะ​มาก เรือยิ่งแข็งแรง ยิ่งทานทนต่อคลื่นลมและโอกาสรอดพ้นจากฝูงฉลามเข้าฝั่งก็มากขึ้น
เป็นอีกครั้งในรอบปีนี้ที่ป่วยหนักจนต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล รอบแรกเดือนเมษยน ไข้สี่สิบ เป็นไข้หวัดใหญ่ หอบหลานขับรถกว่าร้อยกิโลเพื่อเอากลับมาไว้ที่บ้าน แล้วขับรถพาร่างไปนอนโรงพยาบาล
รอบที่สองเดือนมิถุนา.... รู้ตัวอีกทีตื่นในไอซียู พอตื่นขึ้นมาบอกพี่หมอให้มาจิ้มจมูกเลย หนูว่าหนูเป็น
โควิด ตอนแรกไม่มีใครเชื่อ ตรวจเสร็จ บวกตามระเบียบ นอนเล่นในนั้นวันสองวัน นอนโรงพยาบาลต่อร่วมอาทิตย์ พ่อแม่หัวใจจะวาย
รอบนี้ ไม่กี่วันนี้เอง....
ที่จริงเริ่มป่วยมาเกือบสัปดาห์ก่อนมารพ.
มีอาการเจ็บจมูกนิดหน่อย รู้เลย ติดเชื้อแล้ว จากคนไข้เด็กของตัวเองแน่นอน... ตามเคย อาการเป็นไวรัส ทำอะไรไม่ได้ รอหายเองอย่างเดียว ซึ่งก็หวั่นๆว่าน่าจะยาวเพราะสภาพร่างกายตัวเอง วันถัดมากลางคืนอยู่เวร มันลงมาที่กล่องเสียง เสียงแหบมาก พูดเสียงไม่ออกเลย วันที่สามลงมาที่หลอดลมคอ เริ่มไอ เสมหะขาว ยังไงก็เป็นไวรัส ยาฆ่าเชื้อไม่ช่วยอะไร
จิ้มจมูกตรวจหาไปแปดเชื้อ ไม่เจอสักเชื้อ กลัวเป็น RSV แล้วเอาไปติดเด็ก บอกพี่หมอเมดเสมหะเริ่มเขียวแล้วนะ แต่หนูว่ามันยังไวรัสแหละ ไม่ไข้เลย
พี่หมอเมดให้ยาปฏิชีวนะอย่างแรงมากันเหนียว
ตอนแรกยังไม่ยอมกิน สุดท้ายเสมหะเขียวมากไอเยอะ อาการแย่ลงเลยจัดไปตาแพทย์สั่ง
กลางคืนนอนไม่ได้เลย ไอมาก กลางวันทำงาน... ลาไม่ได้ จังหวะชีวิต รพ.เหลือหมอเด็กคนเดียว ชีวิตอยู่กับการทำงานให้พ้นไปในแต่ละวันๆ ส่วนกลางคืนนอนไม่ได้ก็อยู่กับลมหายใจไปทีละขณะจนมันหลับตอนไหนไม่รู้ ตื่นอีกทีก็ตื่นมาไอ ปวดตัว ปวดหัวทรมานทั้งคืน อัดยาฆ่าเชื้อไปสามวัน ทำงานต่อกันหกวันเท่าๆกับเวลาที่ป่วยพอดี.... หมอคนอื่นกลับมา
ตีรถกลับบ้าน นอนรพ.ใกล้บ้านดีกว่าพ่อแม่มาดูแลง่าย
ไปถึงรพ. ขับรถ แบกเป้ไปเองคนเดียว บอกน้องพี่ไม่สบายมาหกวัน นอนไม่ได้เลย สุดท้ายก็แอดมิท....
ใช้เวลาสองชั่วโมงในการเจาะเลือดจากทีมเจาะเลือดที่ดีที่สุดของโรงพยาบาล เพราะตัวเย็นเฉียบ เส้นเลือดหดจากการขาดน้ำ เลือดเป็นกรด โดนหลายเข็มกว่าจะได้เลือด ได้เส้นให้น้ำเกลือ....เส้นหมอเหมือนเส้นเด็กเลย เส้นเล็กมาก พยาบาลบอก...
ใช่ เส้นเลือดหมอเล็กเหมือนเส้นเด็ก หายาก ถ้าหัวใจหยุดเต้นไม่ต้องเสียเวลานะ ถ้าไม่แทงเข้าเส้นใหญ่ก็ต้องแทงเข้ากระดูก.... คุยกันขำๆกับพยาบาล
มองเห็นแต่ความทรมนของร่างกาย หนาวสั่น ไอ ปวด โดนเข็มทิ่มแทงครั้งแล้วครั้งเล่า... พยาบาลขอโทษครั้งแแล้วครั้งเล่าที่แทงเข็ม...
อาจารย์ขอโทษนะคะ ไม่รู้จะได้ไหม
แทงเลยค่ะ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ไม่เป็นไร หาใหม่
ทุกครั้งที่โดนของแหลมทิ่งแทง ไม่อาจหนีความเจ็บปวดได้ ทำได้แค่เอาใจไว้กับความรู้สึกตัว กับมือที่เคลื่อนไหวเบาๆ หรือบางครั้งก็กับลมหายใจที่เข้าออก
ก่อนขึ้นตึก ถูกส่งไปเอ็กซเรย์​ปอด แอบดูแว้บๆ.....
ที่ปอดข้างขวามีปุยขาวๆ..... ปอดบวมแล้วเรา นึกว่าจะแค่หลอดลมอักเสบ... หนักกว่าที่คิดนะ
แพทย์เวร อัธยาศัยดี ตกใจหน่อยที่บอกว่าป่วยมาหกวันแล้วไม่ว่างมาหาหอเพราะทำงานอยู่ ช่วงนั้นรพ.เหลือหมอเด็กคนเดียวทิ้งคนไข้มาไม่ได้ แต่สุดท้ายคนไข้บอกว่า.... หมอไปหาหมอเถอะ .. น้องหัวเราะแล้วบอกว่า ก็คงมีอาชีพพวกเราอีกหนึ่งละมั้งคับพี่ ที่ป่วยแล้วมาหาหมอไม่ได้
.... สุดท้าย เรียกว่า วางแผนการรักษาร่วมกัน ก่อนที่น้องหมอเจ้าของไข้จะส่งปรึกษาอาจารย์ในวันถัดมา
หลังได้พักรักษาตัวอาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังไอ เสมหะยังออกเป็นระยะ ไม่ไข้ หรือมีแค่ไข้ต่ำๆแต่หนาวสะบั้น
ไอบ่อย ไอแรง ไอจนจู่ๆเจ็บแปล๊บที่หน้าอก เจ็บเหมือนโดนมีดแทง หายใจเข้าได้นิดเดียวก็เจ็บ ไอไม่ได้เลยเพราะเจ็บมากลองทนอยู่หลายชั่วโมงตลอดช่วงบ่ายก่อนจะบอกพยาบาลในตอนเย็นว่า เจ็บหน้าอกมาก เจ็บเหมือนโดนมีดแทง pain score 8-9/10 ลองทนมาหลายชั่วโมงแล้วไม่ดีขึ้น แต่ถ้าทนต่อคือจะไอไม่ได้ เสมหะจะค้างระบายไม่ได้ ปอดบวมจะยิ่งหายช้า
สุดท้ายได้ยาแก้ปวดอย่างแรง กลุ่มอนุพันธ์​มอร์ฟีน คืนนั้นเลย นอกจากปวด สะบัดร้อนสะบัดหนาว เจ็บหน้าอก อยากไอ แล้วก็คลื่นไส้ รวมอยู่ในร่างกายเดียวกัน เวลาเดียวกัน นอนไม่ได้เลย ความไม่สบายของร่างกาายถาโถม เป็นคืนที่ถามตัวเองว่า นี่ยังไม่ได้หนักหนาอะไรมากมายยังจะทนไม่ได้ ยังกระสับกระส่าย ไม่เอาไหน ถ้าวันที่จะตายจริงๆ เจ็บกว่านี้ ปวดกว่านี้ ทรมานกว่านี้จะรักษาใจไว้ได้ยังไง....
แล้วคำของครูบาอาจารย์ก็เข้ามาให้สติ เวลาเจ็บไข้จะเห็นทุกข์ชัด ทุกข์มีไว้ให้กำหนดรู้ ให้รู้สึกตัวเยอะๆ ไม่ต้องเอาอะไร เอาแค่รู้สึกตัว อยู่กับความรู้สึกตัวไว้
เป็นคืนที่ทุกข์ทรมานของร่างกายซัดเข้าหลายจุด แม้จะรู้ว่าไม่ตายหรอก แต่มันก็ทรมาน ครั้นจะบอกหมอก็รู้ว่าต้องได้ยาเพิ่ม ไม่อยากได้ยาอีกแล้ว ขอทนเอา แต่ก็ผ่านมาได้แบบรู้บ้างไม่รู้บ้าง ตื่นเข้าสดชื่นดี แม้จะยังเจ็บหน้าอกอยู่พอสมควร มีแค่ฟิล์มเอ็กเรย์ปอดที่ทำซ้ำแล้วมันดูแย่ลง
พี่อยู่ต่อก่อนนะ น้องหมอบอก ฟิล์มดูแย่ลง เดี๋ยวรออาจารย์มาดูค่ะ น้องอยากปรับยา แต่รออาจารย์ อาจารย์จะปรับยาตัวไหน...
ยังไม่ได้กลับ... แปลว่าต้องถูกเข็มแทงอีกหลายเข็ม เพราะเส้นเปราะมาก ให้ยาแค่สอง สามครั้งเส้นก็จะพัง ต้องหาเส้นใหม่กันทุกวัน โดนเข็มแทงทุกวัน แขนบวมแดงไปหมด จนล้อเล่นกับพยาบาลว่า แทงขาเลยมั้ย แบบคนไข้เด็ก แขนไปหมดแล้ว
อยู่โรวพยายาลนานหน่อย ยังต้องเฝ้าติดตามหน่อย เพราะเงื่อนไขหลายๆอย่างของร่างกาย
ช่วงเวลาที่ดีของตัวเองช่วงหนึ่งคือช่วงที่ป่วย
1.ได้พักงาน ได้หยุดงานตริงๆ ไม่รับ consult ไม่รับโทรศัพท์วอร์ดไหนทั้งนั้น ทั้งกลางวันกลางคืน
2.ได้อยู่กับตัวเองจริงๆ... พ่อแม่มาเยี่ยม จะเห็นเราเดินไป เดินมา เดินตามธรรมชาติ ช้าๆ สบายๆ
พ่อ แม่จะกังวล ห่วงหน่อยตามประสาคนเป็นพ่อเป็นแม่ เราก็ถามท่านว่า.... แม่เห็นเราทุกข์ตรงไหน เรากินได้ เราได้นอนพักผ่อน เราได้อยู่กับตัวเอง ได้รู้สึกตัว ถึงเวลามีคนส่งข้าว ส่งน้ำ แล้วก็เดินจงกรม ยังกะอยู่วัด ไม่ดีตรงไหน
3.เมื่อเรามีสติคิดได้ พ่อแม่ก็คลายจากความกังวลเดิม ส่วนท่านจะคิดแบบไหน เราบังคับไม่ได้
4.ถ้าป่วยยังทำใจไม่ได้ ทำใจไม่เป็น อดทนไม่ได้ ตายไม่ต้องพูดถึง ป่วยนี่แค่ซ้อมย่อย...
5.ให้ขอบคุณทุกคนที่ดูแลเรา ตั้งแต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภับ เวรเปล พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล หมอ ทุกคนช่วยให้ชีวิตเราปลอดภัยเวลาเราป่วย ให้นอบน้อม ให้เป็นผู้ว่าง่ายในการรักษา ให้ขอบคุณ
6.คนเราเลือกไม่ได้ที่จะป่วย หรือไม่ป่วย ตอนไหน ป่วยด้วยโรคอะไร แบบไหน ป่วยหนัก ป่วยเบา แต่เราทำให้ใจไม่ทุกข์ได้ แม้จะตายก็ตาม... เรามั่นใจแบบนั้น
7.จัดการเรื่องภาระ ทรัพย์สินของตัวเองให้เรียบร้อยเป็นระยะๆ จะไม่ต้องกังวล
โฆษณา