Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supawan’s Colorful World
•
ติดตาม
25 ก.ย. 2024 เวลา 05:31 • ท่องเที่ยว
ถ้ำขัณฑคีรี และถ้ำอุทัยครี (Khandhagiri & Udaygiri Cave), Odisha, India.
ถ้ำขัณฑดีรี และถ้ำอุทัยคีรี ในโอริสสา … เป็นถ้าที่เจาะสกัดภูเขาเข้าไปเป็นกุฏิที่พำนักของนักบวชและศาสนสถานของศาสนาเชน ประดับด้วยลวดลายและแกะสลักต่างๆทางศาสนาเชน มีอายุนับพันปี
Udayagiri หมายถึง "เนินเขาแห่งพระอาทิตย์ขึ้น" และมีถ้ำ 18 แห่ง ในขณะที่ Khandagiri มีถ้ำ 15 แห่ง
ถ้ำ Udayagiri และ Khandagiri ซึ่งเดิมเรียกว่าถ้ำ Kattaka Gumpha หรือ Cuttack .. เป็นถ้ำธรรมชาติและถ้ำเทียมที่มีความสำคัญทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศาสนา อยู่ห่างออกไปทางใต้ของเมือง Bhubaneswar ในรัฐโอริสสา ประเทศอินเดีย 3 กม.
ถ้ำเหล่านี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสองลูกที่อยู่ติดกัน คือ Udayagiri และ Khandagiri .. ถ้ำนี้ถูกกล่าวถึงในจารึก Hathigumpha ว่าเป็น Kumari Parvata
หลายถ้ำมีการแกะสลักอย่างประณีตสวยงามที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตศักราช .. เชื่อกันว่าถ้ำเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกแกะสลักเป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุเชนในรัชสมัยของกษัตริย์ Kharavela
ถ้ำ Udayagiri และ Khandagiri เรียกว่า lena ในจารึก .. ถ้ำเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในรัชสมัยของ Kharavela เพื่อใช้เป็นที่อยู่ของนักพรตเชน
ถ้ำที่สำคัญที่สุดของกลุ่มนี้คือ Ranigumpha ใน Udayagiri ซึ่งเป็นอารามสองชั้น ถ้ำที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ Hathi Gumpha, Ananta Gumpha, Ganesha Gumpha, Jaya Vijaya Gumpha, Mancapuri Gumpha, Bagha/Byaghra/Vyaghra Gumpha และ Sarpa Gumpha
ถ้ำ Udayagiri และ Khandagiri ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถาน Adarsh Smarak และอยู่ในรายชื่อ "มรดกของอินเดียที่ต้องไปชม" ซึ่งแนะนำโดย สำนักงานสำรวจโบราณคดีของอินเดีย (ASI)
เราเริ่มต้นการเดินและปีนขึ้นไปชมถ้ำต่างๆบนเนินเขา อุทัยคีรี ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือของทางเข้า และมีถ้ำที่สวยงามและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ..
บนเนินเขา อุทัยคีรีมีถ้ำทั้งหทด 9-8 ถ้ำ แต่เราจะเข้าไปชมเพียงบางถ้ำที่สำคัญและสวยงามเท่านั้น
การเดินขึ้นไปช่วงแรกไม่ได้ลำบากมาก ด้วยเป็นการเดินขึ้นไปตามบันไดที่สร้างเอาไว้เพื่ออำนวยคงามสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือน
.. ถ้ำส่วนใหญ่ที่เราเดินผ่านมีลักษณะเป็นการขุดเข้าไปให้เป็นโพรงหินแบบง่ายที่ไม่มีการตกแต่งใดๆ แต่บางถ้ำมีการแกะหินประดับบ้างเพียงเล็กน้อย
ถ้ำแรกที่เราไปเยือนอยู่ทางขวามือของทางเข้า .. Raninka Na'ara (ถ้ำราชินี ถ้ำที่ 1) ยังเป็นถ้ำที่มีการแกะสลักอย่างกว้างขวางและประดับประดาด้วยหินสลักอย่างประณีต
Rani Gumpha เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในถ้ำ Udayagiri และ Khandagiri คำว่า Rani หมายถึง "ราชินี" แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรม แต่ก็มีประติมากรรมโบราณที่สวยงามมากมาย
ถ้ำแห่งนี้มี 2 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีปีก 3 ปีก และปีกกลางมีขนาดใหญ่กว่าจากปีกทั้ง 3 ปีก
ชั้นล่างมีทางเข้า 7 ทางในปีกกลาง ในขณะที่ชั้นบนมีเสาเก้าต้น
ส่วนบนของปีกกลางมีรูปสลักนูนต่ำที่แสดงฉากต่างๆของ มหากาพย์ มหาภารตะยุทธ์
ห้องหลายห้องมีรูปแกะสลักของ dwara pala หรือทวารบาล บางรูปก็อยู่ในสถาพที่ชำรุดเสียหาย
บริเวณที่เชื่อมระหว่างปีกกลางกับปีกขวาและปีกซ้ายมีแผงไม้บางแผงที่ประดับประดาด้วยประติมากรรมรูปสัตว์ป่า ต้นไม้ที่มีผลดก รูปร่างมนุษย์
ผู้หญิงกำลังเล่นเครื่องดนตรี ลิง และช้างที่กำลังเล่นอยู่ เสาหลักประกอบด้วยซุ้มประตู (torana) ที่ประดับประดาด้วยประติมากรรมที่มีความสำคัญทางศาสนาเชนและฉากของราชวงศ์
ถ้ำชั้นที่สอง .. มีลักษณะคล้ายกับถ้ำชั้นที่ 1 คือแบ่งเป็น 2 ปี และปีกกลาง โดยมีทางเดินถึงกัน
ส่วนบนของปีกกลางมีรูปสลักนูนต่ำที่แสดงฉากต่างๆในเรื่องราวของวรรณกรรม รามายนะ ..
เช่น ฉากพระรามตามกวาง
ทศกัณฑ์ลักพานางสีดา
ฉากการสู้รบ
หนุมาน .. เราไม่ค่อยคุณเคยกับพญาลิงที่มีรูปร่างดังในภาพเท่าไหร่
มีประติมากรรมนูนสูงของทวารบาล หน้าตาแปลกๆด้วย
เราเดินสูงขึ้นไปตามเนินเขา ทางเดินล้วนเป็นแผ่นหินที่ไม่เรียบ สูงๆต่ำๆ เวลาเดินต้องใส่ใจและระมัดระวังในการก้าว
.. แต่ด้านบนมีรางวัลให้กับคนผ่านทางเป็นทัศนียภาพอันงดงามของเมือง Bhubaneswar รวมถึงทัศนียภาพของ วัดแห่งหนึ่งบนยอดเขา Khandagiri
Ganesha Gumpha (ถ้ำที่ 10)
พระพิฆเนศกุมภา มีชื่อเสียงเป็นพิเศษจากประติมากรรมและภาพนูนต่ำที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
.. เป็นหนึ่งในถ้ำที่สำคัญที่สุดในอุทัยคีรี ถ้ำแห่งนี้ตั้งชื่อตามรูปแกะสลักของพระพิฆเนศที่ด้านหลังช่องขวา เชื่อว่ารูปแกะสลักนี้น่าจะแกะสลักในยุคหลังและไม่น่าจะใช่ผลงานดั้งเดิม
.. นักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเดินในถ้ำ ต้องเดินชมหรือถ่ายภาพจากระยะราว 10-20 เมตร ซึ่งมีรั้วกั้น ทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพภายในคูหาของถ้ำได้มากนัก
ถ้ำแห่งนี้มีรูปปั้นช้างขนาดใหญ่สองตัวที่ถือพวงมาลัยที่ทางเข้า และเป็นตัวอย่างแรกของรูปปั้นสัตว์ที่ใช้เป็นยาม หรือทวารบาลเฝ้าทางเข้า
นอกจากนี้ ยังพบรูปแกะสลักของทวาราปาลาที่ทางเข้าอีกด้วย
รูปแกะสลักในถ้ำแห่งนี้เล่าถึงเรื่องราวการหนีตามกันของเจ้าหญิงบาสสวทัตตาแห่งอุชชัยนีกับพระเจ้าอุทัยนะแห่งเกาสัมพีในขบวนเสด็จของวสันตกะ ..
เมื่อเดินต่อไปจนถึงลานกว้างที่สามารถมองเห็นวิวด้านล่างได้ ซึ่งเป็นทัศนียภาพอันงดงามของเมือง Bhubaneswar จากยอดเขาของ อุทัยคีรี .. ณ ริมผาของภูเขาเป็นที่ตั้งของ ถ้ำ Hathi Gumpha (ถ้ำที่ 14)
ถ้ำ Hathigumpha ("ถ้ำช้าง") .. เป็นถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีจารึกของ ขราเวลา (Raja Kharavela) กษัตริย์แห่ง Kalinga ในอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตศักราช
.. ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักเกี่ยวกับเขา ถ้ำนี้รู้จักกันในชื่อหติ กัมภา เนื่องจากมีรูปแกะสลักช้างที่วิจิตรงดงาม คำว่า หติ แปลว่า "ช้าง"
จารึก Hathigumpha ซึ่งเขียนโดย Raja Kharavela ประกอบด้วยเส้น 17 เส้นที่แกะสลักด้วยอักษร Brahmi ลึกบนคิ้วที่ยื่นออกมาของถ้ำธรรมชาติ Hathigumpha ทางทิศใต้ของเนินเขา Udayagiri .. จารึกเริ่มต้นด้วยมนต์ Jain Namokar อันเป็นมงคลซึ่งบูชา Arihant และ Siddhas ในศาสนาเชน
จารึกนี้ยังกล่าวถึงความสำเร็จของ Kharaval ในการนำสถานะของ Agra-Jina (แปลว่า Rishabhanatha) กลับคืนมา ซึ่งถูกยึดครองโดยอาณาจักร Nanda ถ้ำนี้หันหน้าเข้าหาหินที่จารึกของพระเจ้าอโศกที่ Dhauli ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 6 ไมล์
Vyaghra Gumpha เป็นถ้ำที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งใน Udayagiri .. มองเห็นได้จากลานชมวิว
Photo : Internet
ถ้ำแห่งนี้ซึ่งอยู่ในสภาพพังทลาย มีทางเข้าที่แกะสลักเป็นรูปปากเสือ โดยมีเซลล์เดี่ยวที่ประกอบเป็นคอเสือ..
นับเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน Udayagiri คำว่า Vyaghra แปลว่า "เสือ" จารึกที่พบที่นี่ระบุว่าถ้ำแห่งนี้เป็นของ Sabhuti ผู้พิพากษาประจำเมือง
สารปา กัมภาเป็นถ้ำขนาดเล็กผิดปกติที่มีจารึกสองแห่ง คำว่า สารปา แปลว่า "งู"
เราเดินลงมาจากยอดเขา อุทียคีรี ทางบันได .. แล้วเดินจากเชิงเขาอีกครั้ง เพื่อขึ้นไปสู่ยอดเขา Khandagiri โดยตั้งใจจะไปชมถ้ำต่างๆบนภูเขาลูกนี้
ระหว่างทางที่เราเดิน มองเห็นลิงหางยาวค่อนข้างเยอะ อยู่กันเป็นครอบครัว แต่ดูไม่ก้าวร้างเท่าลิงที่เราเจอในเมืองไทย
.. อาจจะเพราะนักท่องเที่ยวหลายๆคนให้อาหารลิงเหล่านี้ และตามทางเดินจะมีอาหารสำหรับลิงด้วย เช่น พวกถั่วต่างๆ
เขา Khandagiri .. มีถ้ำ 15 แห่งบน Khandagiri ถ้ำเหล่านี้ได้รับการบูรณะในรัชสมัยของ Uddyotakeshari แห่งราชวงศ์ Somavamshi ..
ระหว่างทาง มีถ้ำหลายถ้ำในทางที่เราเดินผ่าน .. ลักษณะเป็นถ้ำตื้นๆที่ขุดเข้าไปในภูเขา เพื่อใช้เป็นที่พักง่ายๆ บางถ้ำมีการแกะสลักหินเพื่อประดับบ้าง แต่เล็กน้อยมาก
เราเดินขึ้นสู่ระดับที่เหนือขึ้นไป .. ในระหว่างทางเดิน มีความรื่นรมย์เล็กๆจากความเขียวขจีของต้นไม้ และมอสที่ขึ้นเกาะอยู่ตามก้อนหินในรายทาง
เราเดินตามทางขึ้นไปเกือบถึงยอดเขา แต่ไม่มีเวลาพอที่จะไปไหว้พระที่จุดบนยอดเขา
ทิวทัศน์ บนเนินเขา .. มองเห็น อุทัยคีรี ที่เราเพิ่งจะไปชมถ้ำต่างๆมา สวยงามแปลกตาทีเดียว
เมื่อเห็นว่าไม่มีถ้ำอยูด้านบน .. เราเดินลงมาเพื่อชมถ้ำบางถ้ำที่อยู่ในระดับที่ต่ำลงมา
Ananta Gumpha อนันตกุมภา
ภายในถ้ำมีรูปปั้นผู้หญิง ช้าง ห่าน
Barabhuji Gumpha
มีรูปของพระตีรธังกรทั้งหมด 25 รูปบนผนังของห้องขังทั้งสามด้าน มีรูปพระปารศวนาถซ้ำกันสองครั้ง ใต้รูปพระตีรธังกรมีรูปพระสสานาเทวีตามลำดับ
พระจักเรศวรีมีรูปพระกร 12 กรซึ่งตั้งชื่อถ้ำว่า Barabhuji ปัจจุบันรูปพระกรนี้ได้รับการบูชาในฐานะเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ ประติมากรรมเหล่านี้ถูกเพิ่มเข้าไปในถ้ำในศตวรรษที่ 11 โดยราชวงศ์ Somavamshi
นวมุนีกุมภา (Navamuni Gumpha)
นวมุนีกุมภาเป็นถ้ำที่ถูกตัดอย่างหยาบๆ ประดับประดาด้วยรูปปั้นของพระตีรธังกรแห่งเชน 9 องค์และเทวีสาสนะ รูปปั้นเหล่านี้ถูกเพิ่มเข้าไปในถ้ำในศตวรรษที่ 11 โดยราชวงศ์โสมาวุนี
ถ้ำอื่นๆของศาสนา เชน
ถ้ำในศาสนาเชน (ไม่แน่ใจว่าชื่อถ้ำอะไร) .. ปรากฏมีรูปเคารพของนักบวชอยู่ในถ้ำ ซึ่งเข้าใจว่ายังคงมีผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
https://en.wikipedia.org/wiki/Udayagiri_and_Khandagiri_caves
1 บันทึก
2
1
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย