โชคดี หรือ โชคร้าย
ผมเป็นนักลงทุนธรรมดาทั่วๆไป ที่เริ่มเข้าลงทุนตั้งแต่เรียนจบเพราะเพื่อนชักชวน เริ่มซื้อขายหุ้นอยู่สัก 1-2 ปี
ก็เลิกเพราะต้องไปเรียนต่อไม่มีเวลาติดตามตลาดหุ้น เผอิญช่วงเวลาที่พอร์ทของผมว่างอยู่นั้น ตรงกับช่วงเวลาวิกฤตซับไพร์มพอดี แล้วผมก็เริ่มกลับเข้ามาลงทุนใหม่ โดยไม่เคยทราบถึงภาวะวิกฤตที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
บางคนอาจคิดว่าผมโชคดี แต่จริงๆแล้วผมคิดว่าผมโชคร้ายนะ เพราะเมื่อกลับเข้ามาลงทุนใหม่ในจังหวะที่มีความพร้อมมากกว่าเดิม มีเงินลงทุนมากกว่าเดิม แต่วิธีการลงทุนยังคงเป็นเหมือนสมัยเพิ่งเริ่มต้น ผ่านไปได้ไม่นาน ผมก็โดยวิกฤตโควิทเข้าไปเต็มๆ เพราะไม่เคยศึกษาให้ลึกถึงแก่นการลงทุน ไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับตลาดหุ้นในภาวะวิกฤตมาก่อน
แต่ในโชคร้ายก็ยังพอมีโชคดีอยู่บ้าง ที่แนวทางการลงทุนของผมตั้งแต่แรกเริ่มเป็นแนวทาง VI ที่แม้จะเป็นเพียงการหาบริษัทที่แข็งแกร่ง โดยไม่ได้เน้นการคำนวนราคาที่เหมาะสมมากนัก แต่นั่นก็เพียงพอให้หุ้นที่ผมถือขาดทุนอยู่ มีศักยภาพพอที่จะกลับมาได้เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป
ที่สำคัญวิกฤตครั้งนี้ทำให้ผมได้มีเวลากลับศึกษาหาความผิดผลาด ย้อนดูแนวทางการลงทุนที่เป็นอยู่ เพื่อปรับปรุงให้ถูกต้องมากขึ้น ทั้งกำหนดกฏเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นให้รัดกุมมากขึ้น ศึกษาการคำนวนมูลค่าพื้นฐาน การหา
Margin of safety การคำนวนราคาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าความเสี่ยง การกำหนดสัดส่วนการถือครองหุ้นให้กระจายในหลายๆอุตสหกรรม รวมถึงการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศอีกด้วย
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากผมยังคงไม่มีแรงผลักดันจากการที่เคยล้มสักครังหนึ่ง ดังนั้นสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้นแล้วมีสะดุดล้มบ้าง ขออย่าเพิ่งท้อ เพราะทุกๆการล้มจะเป็นแรงผลักสำคัญให้เราพัฒนาตัวเองให้กลับมาแข็งแกร่ง และพร้อมลุกขึ้นได้ใหม่เสมอ
![[smallKingdoM] 5 หลักการลงทุนแนว VI by กวี ชูกิจเกษม
แนวทางการลงทุนแบบ Value investor คือการค้นหาบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีในอนาคต โดยที่ราคาหุ้นยังพอสมเหตุสมผลไม่ได้แพงจนเกินไป ซึ่ง อ.กวี ชูก](https://t1.blockdit.com/photos/2024/09/66fa303d020a2cf7404d7879_800x0xcover_4ueiCQgA.jpg)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
