25 ก.ย. เวลา 09:46 • ข่าว

จากปฏิบัติการ Ops Global สู่คดีล่วงละเมิดทางเพศในศูนย์ดูแลเด็กที่หดหู่ที่สุดในมาเลเซีย

คดีอื้อฉาว ที่กลายเป็นข่าวดังที่สุดๆ ในมาเลเซียตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นข่าวไหนไปไม่ได้เลยนอกจากปฏิบัติการทะลายศูนย์ดูแลเด็กกว่า 20 แห่ง ที่กระจายอยู่ในรัฐสลังงอร์ และ เนอเกอรีเซิมบีลัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2024 ภายใต้รหัสปฏิบัติการลับที่เรียกว่า Ops Globalเพื่อช่วยเหลือเด็ก และเยาวชนในศูนย์ทั้งชายและหญิงมากกว่า 400 คน ซึ่งหลายคนเป็นเหยื่อของการถูกทอดทิ้ง ทารุณกรรม ล่วงละเมิดทางเพศ ค้ามนุษย์ มาตลอดหลายปี นับเป็นคดีที่สร้างความหดหู่ สะเทือนใจไปทั้งประเทศ
ที่มาของชื่อปฏิบัติการ Ops Global หรือ Operation Global มาจาก Global Ikhwan Services and Business Holdings (GISB) องค์กรผู้ก่อตั้งศูนย์เด็กยากไร้ โดยกลุ่มชาวมุสลิมผู้ศรัทธาในนิกาย Al-Arqam ที่ถูกแบนโดยรัฐบาลมาเลเซียไปแล้วตั้งแต่ปี 1994 เพราะมีคำสอนที่บิดเบือนจากหลักคำสอนแบบฉบับดั้งเดิมของอิสลาม สุ่มเสี่ยงที่จะสร้างความแตกแยกในสังคมชาวมุสลิมของมาเลเซีย
แต่การแบนนิกาย Al-Arqam ไม่สามารถยุติกิจกรรมของกลุ่มชาวลัทธิ ที่ต่อมาก็มีศิษย์เอกรวบรวมผู้ศรัทธาที่ยังคงอยู่มาตั้งเป็นองค์กรศาสนา GISB ทำธุรกิจ และ เผยแพร่หลักคำสอนของ Al-Arqam
ปัจจุบันมีผู้เลื่อมใสนิกายนี้อยู่ในมาเลเซีย อินโดนิเซีย บรูไน และ ไทย นับหมื่นคน และหารายได้เข้าองค์กรผ่านการทำธุรกิจหลายอย่าง ตั้งแต่ก่อตั้งสถาบันการศึกษา ผลิตสื่อ ธุรกิจร้านอาหาร ไปจนถึงการทำธุรกิจอาหารเสริมจากสินค้าเกษตรส่งออกขายใน 20 ประเทศ มีทรัพย์สินในองค์กรไม่น้อยกว่า 325 ล้านริงกิต และมีแรงงานจากผู้ศรัทธาเยาวชน กว่า 3500 คน
ซึ่ง ศูนย์เลี้ยงเด็กยากไร้ และบ้านพักเยาวชน ก็เป็นส่วนหนึ่งของ GISB ที่อ้างว่ารับดูแลเด็กกำพร้า ผู้ยากไร้ หรือมีความพิการ โดยรับดูแลตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงวัยรุ่นเยาวชน ที่พักรวมกันในบ้านพักเด็กหลายสิบแห่งทั่วมาเลเซีย
ทว่าล่าสุด มีการจัดชุดปฏิบัติการ Op Global บุกทะลายศูนย์เลี้ยงเด็กของ GISB ในสลังงอร์ และ เนอเกอรีเซิมบีลัน 20 แห่ง เมื่อ 11 กันยายนที่ผ่านมา และช่วยเด็กในศูนย์ออกมาได้ 402 คน เป็นชาย 201 หญิง 201 คน อายุตั้งแต่ 1 - 17 ปี และเมื่อนำเด็กมาตรวจร่างกาย พบเด็ก 384 คนมีร่องรอยการถูกทารุณกรรม หลายคนถูกกระทำชำเราทางเวจมรรค บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ตำรวจมาเลเซียจึงจับกุมผู้ดูแลศูนย์เลี้ยงเด็ก ครูพี่เลี้ยง และผู้ที่เกี่ยวข้องถึง 177 คน มาสอบสวนดำเนินคดี และได้ขยายผลบุกจับศูนย์ดูแลเด็กในเมืองอื่นๆ และ สำนักงานของ GISB อีกถึง 4 รอบ ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผานมา และล่าสุดได้จับกุมตัว นาซิรัดดิน โมห์ อาลี CEO ของ GISB รวมถึงลูกชายของผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ขณะกำลังหลบหนีด้วยรถบ้านข้ามแดนมายังเมืองไทย รวมแล้วกว่า 384 ราย และช่วยเหลือเด็กออกมาจากศูนย์แล้วมากกว่า 500 คน
หลังจากที่มีข่าวการบุกทะลายศูนย์เลี้ยงเด็กขององค์กรศาสนาชื่อดัง ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวมาเลเซีย ที่ต่างตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลมาเลเซียที่ผ่านๆมาถึงปล่อยให้มีองค์กรศาสนา ที่รัฐบาลเคยตีตราแล้วว่า "นอกรีต" ออกมาทำธุรกิจ และ ใช้แรงงานเด็กทำงาน และขายสินค้าได้อย่างเปิดเผยภายใต้ชื่อ "องค์กรการกุศล" มานานกว่า 20 ปีได้อย่างไร
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เด็กในศูนย์เลี้ยงเด็กที่อ้างว่าเป็นเด็กกำพร้านั้น จริงๆแล้ว หลายคนมีพ่อ-แม่ มีครอบครัวตามปกติ แต่ถูกนำมามอบให้กับศูนย์เลี้ยงเด็กเพราะคิดว่าเป็นการถวายลูกให้เป็นผู้อุทิศตนรับใช้พระเจ้า ดังนั้นเด็กหลายคนจึงถูกเปลี่ยนนามสกุลที่บ่งชี้ว่าพวกเขาเป็นคนของพระเจ้า
และเมื่อมีการย้ายเด็กออกมาอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็กของรัฐบาล พ่อ-แม่หลายคนก็ไม่ยอมมาแสดงตนมารับลูกคืน แม้จะมีหลักฐานระบุว่าเป็นลูกที่พวกเขานำมาฝากให้ศูนย์ของ GISB เอง เพราะเชื่อว่าได้ถวายลูกให้เป็นบุตรของพระเจ้าไปแล้ว
ทางการมาเลเซียเชื่อว่า ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก GISB มีเจตนาใช้เด็กเป็นกุศโลบายในการหาเงินบริจาคเข้าองค์กร และยังสามารถปลูกฝังความเชื่อ ให้อุทิศตนทำงานให้องค์กร มิหนำซำ เด็กหลายคนยังกลายเป็นเหยื่อในการถูกทารุณกรรม ซึ่งเข้าข่ายความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก และ ค้ามนุษย์อีกด้วย
นี่จึงเป็นข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในมาเลเซียอยู่ในขณะนี้ และปฏิบัติการ Op Global ก็ยังไม่จบ เพราะยังมีเด็กในทะเบียนที่สูญหายอีกนับร้อยคน ซึ่งตอนนี้กำลังติดตามตัวว่าเด็กถูกพาตัวไปอยู่ที่ไหน
นิกาย Al-Arqam ก่อตั้ง ราวปี 1980 โดย อิหม่าม อชาอารี โมฮัมหมัด หมอสอนศาสนา ที่ได้อ้างตัวว่าเป็นผู้รับสาส์นจากพระเจ้า และเผยแพร่คำสอนที่บิดเบือนไปจากหลักธรรมของนิกายหลัก จนถูกร้องเรียนว่าอวดอุตริ และถูกจับกุมในปี 1994 ที่ประเทศไทยขณะหลบหนีหมายจับคดีความมั่นคงจากรัฐบาลมาเลเซีย ที่ได้สั่งแบนนิกาย Al-Arqam ว่านอกรีต
อิหม่าม อชาอารี ต้องโทษจำคุกนาน 10 ปีก่อนถูกปล่อยตัวในปี 2004 แต่ยังคงเผยแพร่ศาสนาอย่างต่อเนื่อง มีลูกศิษย์ติดตามจำนวนมาก ก่อนจะเสียชีวิตในปี 2010 ด้วยโรคปอด
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา