ตราสารหนี้
สำหรับใครยังไม่คุ้นเคยกับตราสารหนี้ วันนี้เรามาทำความรู้จักกันดีกว่า ว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร และน่าสนใจแค่ไหน
💡 ความหมายสั้นๆ ของตราสารหนี้:
เปรียบเสมือนเราให้ผู้ออกตราสารยืมเงิน โดยเราเป็นเจ้าหนี้นั่นเอง
📑 ประเภทของตราสารหนี้ แบ่งออกเป็น
- แบ่งตามผู้ออกตราสาร 🏢
- ตราสารหนี้รัฐ 🏛️
- ตราสารหนี้เอกชน 🏢 ทั้งในและต่างประเทศ 🌎
- แบ่งตามระยะเวลา ⏳
- มีทั้งระยะสั้น ⏱️ กลาง ⌛ ยาว ⏳
🤔 แล้วผู้ออกตราสารเอาเงินไปทำอะไร?
- ผู้ออกตราสารเอกชน: ขยายธุรกิจ หรือใช้หนี้เก่า
- ตราสารหนี้รัฐ: พัฒนาประเทศ
💰 ผลตอบแทนของตราสารหนี้ได้จากไหน?
อัตราผลตอบแทนจากการที่นักลงทุนถือตราสารหนี้มาจาก 2 แหล่ง 👇
1. ดอกเบี้ย: อัตราผลตอบแทนตามที่ระบุในสัญญา
2. กำไรจากส่วนต่างของราคา: ขายต่อตราสารหนี้ที่เราถืออยู่ได้ส่วนต่างราคา
⚠️ ความเสี่ยงของตราสารหนี้:
- ผู้ออกตราสารอาจผิดนัดชำระหนี้ได้ หากมีสถานะทางการเงินไม่ดี
- แม้ฟ้องร้องได้ แต่อาจเสียเวลาและโอกาสในการลงทุนอื่น
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาด ซึ่งส่งผลต่อราคาตราสารหนี้ โดยเฉพาะหากต้องการขายก่อนครบกำหนด
ยกตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นจริง เช่น เคสของ JKN บอกว่าจะจ่ายดอกเบี้ย 5% แต่เอาเข้าจริงจ่ายไม่ได้ ถึงแม้จะสามารถฟ้องร้องได้ ได้คืนทั้งต้น ทั้งดอก แต่ถ้ากินระยะเวลานานเกินไปก็ทำให้เราให้เราเสียโอกาสในการเอาเงินไปสร้างผลตอบแทนทางอื่นได้
🛡️ วิธีลดความเสี่ยงจากตราสารหนี้
1. ซื้อหลายๆ ฉบับ กระจายหลายผู้ออกตราสาร (ใช้เงินต้นเยอะ)
2. ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้
- เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท
- กระจายความเสี่ยงได้หลากหลาย
- มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพดูแล
- ประหยัดเวลาศึกษาข้อมูล
- สภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวันทำการ
⚠️ แม้การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้จะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ และผลตอบแทนในอดีตก็ไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้
💼 สนใจจัดพอร์ตลงทุนผ่านกองทุนรวม ที่เน้นเป้าหมายของลูกค้าเป็นหลัก ทักมาได้เลยค่ะ!
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
