25 ก.ย. เวลา 12:15 • การ์ตูน

EP : 1,282 Gekiman! * Mazinger Z Chapter เกคิมัน ภาค มาชินก้า Z

หลังจากอ่านมังงะจบความรู้สึกที่ว่า “สนุก หรือไม่สนุก” “ชอบหรือว่าไม่ชอบ” มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่มีอยู่บ่อยครั้งที่ความรู้สึกสนุกหรือชอบมักจะสร้างคำถามขึ้นมาว่าไอ้เรื่องที่เราชอบมากๆเนี่ย อ.เขาเขียนออกมาได้อย่างไร ถึงออกมาโดนใจ และสนุกแบบนี้ ซึ่งความรู้สึกที่อยากรู้ไปถึงการสร้างผลงานนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นทุกครั้ง ทุกเรื่องที่เราอ่านใช่ไหมครับ
พูดมาขนาดนี้ ขอบอกตามตรงเลยว่า “มาชินก้า Z” ที่จะมารีวิวในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องที่สร้างคำถามให้ผมรู้สึกอยากรู้เบื้องหลังการสร้างสรรค์อะไรหรอกนะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้ผมได้อ่านและรีวิวงานซีรีย์เดียวกันนี้อย่าง “เกคิมัน ภาค เดวิลแมน” มาก่อน เพราะเรื่องนี้แท้ๆ ทำให้จากไม่เคยอยากอ่าน กลายเป็นต้องรออ่าน เพราะทาง สนพ ประกาศหลังออกเกคิมันภาคเดวิลแมนว่าจะออกภาค มาชินก้า Z ออกมาเช่นกัน นั่นก็เลยเป็นที่มาของงานรีวิวครั้งนี้ครับกับ “เกคิมัน ภาค มาชินก้า Z”
.... แม้จะมีผลงานติดลมบนทั้งมังงะและอนิเมชั่นอยู่ในตอนนี้ และทั้งๆที่เรื่องที่ต้องเขียนส่งมีพร้อมกันถึง 4 เรื่อง “นางาอิ เกคิ” คนนี้กลับมีไอเดียเกี่ยวกับมังงะหุ่นยนต์ขึ้นมาระหว่างเดินทางไปทำงาน ภาพของมังงะหุ่นยนต์ที่ผุดขึ้นมาอยู่ในหัว ไม่อาจจะเก็บเอาไว้ได้ เขาจึงรีบไปปรึกษาทีมงานเพื่อนำเสนอไอเดียนี้
แต่แม้เขาจะเป็นนักวาดมังงะชื่อดังที่เหล่า สนพ ทั้งหลายต่างให้เกียรติและเกรงใจอย่างมากก็ตาม ทีมงานของเขาก็ยังต้องทักท้วงกับไอเดียหุ่นยนต์จาก นางาอิ เกคิ คนนี้ทันที “นี่ไม่ใช่ยุคของมังงะหุ่นยนต์เกคิจัง มังงะหุ่นยนต์ในยุคนี้มันโบราณไปแล้ว สำหรับเกคิจังแล้วมังงะแนวทะลึ่งเท่านั้นที่เหล่า บก ต้องการนะ?” และนี่คือจุดเริ่มต้นของอีกตำนานหุ่นยนต์ที่นักอ่านมังงะพันธุ์แท้ไม่มีใครไม่รู้จัก กับเรื่องราวและเหตุการณ์สุดโหดและบีบหัวใจเหล่าแฟนๆที่เคยเกิดขึ้นใน “เกคิมัน ภาคมาชินก้า Z”
เพราะผมเคยอ่านเกคิมัน ภาค เดวิลแมน มาก่อน สิ่งที่แตกต่างชัดเจนจากก่อนหน้านี้ก็คือ ภาคนี้เป็นภาคที่ผมคาดหวังว่าจะเจอความสนุกที่มีเนื้อหาสาระไม่แตกต่างจากภาคเดวิลแมนครับ ไม่ใช่แค่เพราะเรื่องที่กำลังจะได้อ่านคืออีกส่วนหนึ่งของงานระดับตำนานอย่าง มาชินก้า Z แต่เป็นเพราะรู้ซึ้งถึงวิธีการและการนำเสนอที่ทำออกมาได้สนุกมากๆ จากภาคก่อน ทำให้ผมคาดหวังได้ว่าในเรื่องนี้จะเล่าได้อย่างสนุกไม่แพ้ภาคเดวิลแมนแน่ๆ
ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นครับ แม้ภาพรวมเรื่องราวในภาคนี้จะไม่หนีจากภาคเดวิลแมนมากนัก ทั้งการเล่าเรื่องและการนำเสนอ แต่พอมาประกบคู่กับมาชินก้า z ที่มีเรื่องราวเฉพาะที่สะท้อนช่วงเวลาที่แม้จะบอกว่ารุ่งโรจน์ที่สุดของ อ. ก็ตาม
แต่ไม่ยักกะรู้ว่าความลำบากที่ต้องดิ้นรนในการจะนำเสนอผลงานซักเรื่องนึงจะลำบากอย่างนี้ครับ
ด้วยการเล่าไทม์ไลน์ที่ต่อเนื่องจากภาคเดวิลแมน สถานการณ์ในโลกของสื่อบันเทิงอย่างมังงะและอนิเมชั่น ในเรื่องสะท้อนให้เราเห็นถึงความซับซ้อนในหลายๆเรื่อง หลายๆแง่ กับการพยายามทำในสิ่งที่ต้องการในฐานะผู้ผลิตผู้สร้างผู้วาดที่ต้องบาลานซ์กับเงื่อนไขและความต้องการที่ตอบสนองกับสิ่งที่เรียกว่า “ธุรกิจ” ให้ได้ครับ
ผมค่อนข้างสนุกกับการได้เห็นลูกล่อลูกชนของทีมงานของ อ. ในการพยายามทำในสิ่งที่ อ. โก ต้องการทำออกมา ไม่ใช่แค่อยากจะทำแล้วมันก็ทำได้ แน่นอนในฐานะนักวาด การมีไอเดียและนำเสนอออกมาได้อย่างที่ต้องการและทำให้มันได้รับความนิยมมันก็ถือว่ายากด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว แต่การได้เห็นเบื้องหลังกับบุคคลที่อยู่ข้างกายหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจมังงะและอนิเมชั่นที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการร่วมผลักดันสารตั้งต้นนี้ให้ออกมาเป็นเช่นที่เราได้เห็นได้อ่านได้ดูนี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญมากๆ ไม่แพ้ตัวผู้วาดเอง
ในภาคนี้ยังคงใช้วิธีการเล่าเรื่องเหมือนกับภาคเดวิลแมน ไม่ว่าจะเป็นไทม์ไลน์ที่ไล่ตามเวลาที่เกิดขึ้น ของเหตุการณ์ต่างๆ การเล่าสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้น พร้อมกับการวาด มาชินก้า z ไปด้วย และแน่นอนในเรื่องนี้ยังคงวาดและใส่เนื้อหาที่วาดขึ้นใหม่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในมังงะมาชินก้า z ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน
ทางหนึ่งมันทำให้เราได้เห็นการนำเสนอในมังงะหลายๆส่วนที่ได้รับผลมาจากการคุยและระดมความคิด จากตัว อ. เอง หรือแม้แต่ภาคส่วนอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งสำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่จดจำหลายๆตอนได้ ผมว่าน่าจะชอบวิธีเล่าแบบนี้นะครับ
เพราะมันได้ทำให้เราเห็น ,รับรู้และเข้าใจในบริบทของเนื้อหาจริงๆ ว่าการที่ตอนนั้นถูกนำเสนอออกมาแบบนั้นแท้จริงแล้วมันได้รับบางสิ่งมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวของผู้เขียนและความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง มันทำให้แต่ละตอนที่เราเคยอ่านเข้มข้นด้วยเนื้อหาที่มีที่มาที่ไปมากขึ้น น้ำหนักที่ถูกเพิ่มเข้ามานี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่หากไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องภาคนี้แล้วจะไม่มีทางได้รับรู้เลยครับ
ส่วนตัวผมนอกจากจะชอบวิธีการเล่าที่มีลูกล่อลูกชนของ อ. และการเล่าสภาพภายนอกล้อไปกับเรื่องราวที่วาดลงไปในแต่ละตอนที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักและเหมือนทำให้เราที่ได้อ่านดูเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่เข้าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นวงในมากขึ้นในอดีตแล้ว การที่เรื่องนี้เลือกที่จะวาดตัวละครใน มาชินก้า z ขึ้นมาด้วยดีไซน์ที่มีรายละเอียดเอียดแตกต่างจากต้นฉบับ
มันทำให้ผมสนุกและช่วยสร้างจุดสนใจให้กับคนที่เคยอ่านเนื้อหามาก่อนแล้วได้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นตัวละครที่เหมือนกันทั้งโครงสร้างและบทบาท แต่สิ่งที่ใส่เข้ามาในดีไซน์และการนำเสนอที่ดุดันเข้ากับยุคสมัยในช่วงหลังๆที่เขียนภาคเกคิมันนี้ออกมา มันเกือบจะสร้างความสมจริงและการรับรู้ให้เกิดขึ้นใหม่ เรียกว่ามันส์มากๆ แม้เราจะรู้เนื้อหาอยู่แล้วก็ตามครับ
ซึ่งจุดนี้นอกจากจะทำให้เรารับรู้เนื้อหาภายนอกล้อไปกับเนื้อหาจริงๆที่วาดแล้ว มันก็ทำให้เราทบทวนถึงเนื้อหาของเรื่องมาชินก้าด้วยเช่นกัน เพราะนานแล้วที่ผมไม่ได้หยิบเรื่องนี้มาอ่าน การเข้าใจความหมายของการใส่รายละเอียดหรือการนำเสนอที่ดูผิวเผินอาจคิดว่าไม่สำคัญ แต่ที่จริงมันถูกนำเสนอด้วยความคิดที่กลั่นกรองมาแล้วต่างหาก ทำให้มังงะเรื่องนี้ ที่ผมมองว่าโครงสร้างไม่ได้ซับซ้อนอะไรนัก ดูแตกต่างไปจากเดิมด้วยสิ่งที่เราได้รับรู้จากเนื้อหาในเล่มครับ
ภาพรวมผมชอบภาคนี้ไม่แพ้ภาคเดวิลแมนนะครับ เพราะทั้งการนำเสนอและเนื้อหาที่มันเล่าด้วยวิธีการเหมือนกัน มันยังส่งผลให้อ่านได้อย่างสนุกในภาคนี้เช่นเดิม แต่หากจะมีสิ่งที่ผมรู้สึกเสียดายจากเรื่องนี้แล้วละก็ ก็คงเป็นตอนท้ายของเรื่องที่ อ.โก เจอจุดเปลี่ยนในการปรับ มาชินก้า z ไปสู่เกรท มาชินก้า ที่มันต้องตัดจบแค่ตรงจุดนี้ ทั้งๆที่ความเป็นจริง มันเพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่จักรวาล มาชินก้า ไปได้ไม่เยอะแท้ๆ แม้เราจะรู้จักมาชินก้า z มากกว่าด้วยเป็นจุดเริ่มต้น
แต่สำหรับผมแล้ว เรื่องราวของมาชินก้าตัวอื่นในจักรวาลนี้ผมได้อ่านน้อยมาก เรียกว่าไม่ปะติปะต่อเลยก็ว่าได้ การที่ไม่ได้รับรู้ในส่วนที่ตัวเองยังไม่รู้ ถือว่าน่าเสียดายมากครับ เพราะหากเล่าไปเรื่อยๆ ด้วยวิธีการแบบเดิมนี้ ผมเชื่อเลยว่าผมจะรักภาคมาชินก้านี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นอย่างแน่นอนครับ
“เกคิมัน ภาคมาชินก้า Z” ภาคนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งผลงานต่อเนื่องจาก สนพ ไพเรทเจ้าเดิมที่ทำภาค เดวิลแมน ออกมาอย่าง Cat Comis ครับ โดยในเซ็ทนี้ ทำออกมาด้วยจำนวน 6 เล่มจบ ด้วยตัวเล่มขนาด BB แบบปกสองชั้น ปกนอก พิมพ์ภาพสี ภาพคมชัดสีสันส่วนงามส่วนปกด้านในใช้รูปเดียวกับปกนอก แม้จะพิมพ์ 2 สี แต่เลือกใช้สีโทนดำกับแดงบนปกสีขาว ก็ช่วยสร้างความแตกต่างมากกว่าปกขาวดำทั่วไป งานพิมพ์ปกคมชัดดีไม่เจอปัญหาอะไรครับ
ตัวเล่มเปิดอ่านแบบญี่ปุ่น ด้านในแต่ละเล่มจะมีรายละเอียดไม่เหมือนกันซะทีเดียว คือเล่ม 1 กับ เล่ม 6 จะมีหน้าสีอยู่ราวๆ 2-3 แผ่นแล้วแต่เล่ม งานพิมพ์สีออกมาดี แม้บางหน้าความคมชัดจะดร๊อปลงไปบ้าง แต่คิดว่ามาจากต้นฉบับที่มาแบบนี้ แม้จะเป็นอย่างนั้น ภาพรวมผมก็ถือว่าภาพสีทำออกมาได้ดีครับ
นอกนั้นจะเป็นภาพขาวดำ งานพิมพ์คมชัดดี พิมพ์บนกระดาษกรีนรีด เนื้อสัมผัสดี งานแปลก็ทำออกมาได้ดี ภาพรวมงานเซ็ทนี้ยังคงทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานที่ดีของค่ายนี้เช่นเดิมครับ
ทั้งเนื้อหาและการนำเสนอ กับรายละเอียดที่แน่นเอี๊ยดกับสถานการณ์ที่เราไม่เคยรับรู้มาก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมันส่งผลอะไรต่องานระดับตำนานอย่าง มาชินก้า Z นี่คือรายละเอียดที่ถ้าไม่ได้อ่านจะไม่รู้เลย และการที่รับรู้มันทำให้เรามีมุมมองทั้งต่อการนำเสนอและเนื้อหาในมาชินก้า z ที่แตกต่างไปจากเดิมไม่มากก็น้อย และสำหรับตัวผมเอง นอกจากความสนุกที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังสนุกที่ได้รับรู้เรื่องราวของ อ. เคน ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของ อ.โก ในยุคนั้นเพิ่มเติมด้วย
ซึ่งส่วนตัวผมชอบงานของ อ. เคน การที่ในเรื่องพูดถึง อ. และผลงานบางเรื่องที่ อ. ได้เริ่มต้นจากส่งต่อของ อ. โก ทำให้ทั้งเล่ม เต็มไปด้วยนรายละเอียดระดับแฟนพันธุ์แท้ที่ควรจะได้อ่านทั้งสิ้น สนุกมากครับ สนุกมากจริงๆ อยากให้อ่านกัน ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากว่า เสียดายและเสียใจ หากปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่ได้อ่านครับ แนะนำสุดๆครับ
ภาพ 9/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 9.5/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #6เล่มจบ #CatComics #การ์ตูนแนวคลาสสิค #การ์ตูนแนวฮีโร่ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #9คะแนน #เกคิมันภาคมาชินก้าZ #หนังสือการ์ตูน #Rate18 #การ์ตูนแนวเบื้องหลัง #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง #การ์ตูนแนวหุ่นยนต์
โฆษณา