26 ก.ย. เวลา 03:09 • ข่าวรอบโลก

ปูตินประกาศเปลี่ยนแปลง “หลักนิยมใช้นิวเคลียร์ของรัสเซีย” ให้เข้ากับสถานการณ์

การโจมตีรัสเซียแบบ “ไม่ใช่นิวเคลียร์” ด้วยการสนับสนุนจาก “ประเทศที่มีนิวเคลียร์” จะถือเป็นการโจมตีเชิงใช้นิวเคลียร์ร่วมกันกับรัสเซีย
25 กันยายน 2024: ปูตินจัดให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย หัวข้อเกี่ยวกับ “หลักการยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย” เขาเสนอแนวทางแก้ไขหลักการใช้กองกำลังนิวเคลียร์และปรับปรุงรากฐานของนโยบายของรัฐในด้านการยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย - อ้างอิง: [1]
เครดิตภาพ: Alexey Nikolsky / RIA Novosti
ปูตินได้อธิบายข้อเสนอของเขาโดยการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางการทหารและการเมือง โดยเขากล่าวว่าทางการรัสเซียจะต้องคำนึงถึง “การผุดขึ้นของแหล่งภัยคุกคามใหม่และความเสี่ยงทางทหารสำหรับรัสเซียและพันธมิตรของเรา”
เขาตั้งข้อสังเกตว่ากระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และคณะมนตรีความมั่นคงได้ประเมินความจำเป็นในการปรับแนวทางของรัสเซียต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้นจึงมีการเสนอให้ “ชี้แจงหลายประการในแง่ของการกำหนดเงื่อนไขสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์”
“ปูติน” ได้ระบุถึงการแก้ไขปรับปรุงหลักนิยมใช้นิวเคลียร์ของรัสเซีย สรุปเป็นประเด็นใหญ่ได้ดังนี้
  • การขยายหมวดหมู่ประเภทของรัฐและพันธมิตรทางทหารที่เกี่ยวข้องกับหลักการยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย รวมถึงการคุกคามทางทหารเพื่อหวังละเมิด “มาตรการยับยั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย” ดังกล่าว
ขยายความคือต้องการขอบเขตดินแดนนอกเหนือรัสเซียหากถูกโจมตีโดยฝั่งตรงข้าม อย่างเช่น เบลารุส ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางทหารหลักของรัสเซียที่อยู่ติดกัน
  • การรุกรานรัสเซียโดยรัฐหรือประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่มีรัฐหรือประเทศที่มีนิวเคลียร์เข้าร่วมหรือให้การสนับสนุน มีการเสนอให้พิจารณามาตรการตอบโต้การรุกรานดังกล่าว “ให้ถือเป็น” การโจมตีรัสเซียร่วมกันของประเทศที่มีนิวเคลียร์
ขยายความตรงนี้ก็ไม่น่ามีอะไรซับซ้อนมาก ที่เห็นง่ายๆ คือ ยูเครนนั่นเองซึ่งเป็นรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจตะวันตกที่มีอาวุธนิวเคลียร์สะสมไว้อยู่
  • มาตรการตอบโต้โดยใช้อาวุธนิวเคลียร์ในกรณีที่มีการรุกรานรัสเซียและเบลารุสในฐานะสมาชิกของรัฐสหภาพ (Union State) รวมถึง “หากฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธธรรมดา (ที่ไม่ใช่นิวเคลียร์) ก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐสหภาพ (รัสเซีย + เบลารุส)”
ขยายความตรงนี้ก็หมายถึง การใช้อาวุธประเภทต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนิวเคลียร์เท่านั้นเล่นงานรัสเซียอย่างร้ายแรง ซึ่งครอบคลุมรวมถึงการส่งโดรนเข้ามาโจมตีในดินแดนของรัสเซียและเบลารุสอย่างที่เห็นอยู่ในสถานการณ์การรบปัจจุบัน
นอกจากนี้ปูตินยังกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะกำหนดเงื่อนไขสำหรับการเปลี่ยนผ่านของรัสเซียไปสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์
เงื่อนไขสำหรับการเปลี่ยนผ่านของรัสเซียไปสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์นั้นได้รับการกำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยจะพิจารณาความเป็นไปได้นี้เมื่อได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการยิงอาวุธโจมตีทางอากาศจำนวนมากและข้ามพรมแดนเข้ามาในรัสเซีย ปูตินยังหมายรวมถึง “เครื่องบินทั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธี” “ขีปนาวุธร่อน” “โดรน” “เครื่องบินความเร็วเหนือเสียง” และ “อากาศยานประเภทต่างๆ”
ปูตินกล่าวว่าการชี้แจงและประกาศเงื่อนไขที่เสนอมาทั้งหมดนั้น “ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดและสมดุลกับภัยคุกคามและความเสี่ยงทางทหารยุคใหม่ที่เกี่ยวข้องรัสเซีย”
เครดิตภาพ: kremlin.ru
  • สรุปคือรัสเซียต้องการตีความให้ชัดเจนไปเลยว่า “สงครามตัวแทนที่ฝ่ายตะวันตกกำลังใช้ยูเครนอยู่นั้น คือสงครามกับฝ่ายตะวันตกโดยตรง ยูเครนตอนนี้ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์จริงแต่คนสนับสนุนมี ปูตินไม่ต้องการกั๊กการใช้นิวเคลียร์หากรัสเซียโดนเล่นงานหนักเข้ามากๆ ถึงแม้จะเป็นอาวุธอย่างอื่นที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ อย่างเช่นโดรนที่เห็นใช้กันอย่างมากในสถานการณ์การรบปัจจุบัน”
ถึงแม้เงื่อนไขใหม่นี้จะยังอยู่บนหลักการยังไม่มีการอนุมัติ แต่เชื่อว่าแนวโน้มสูงมากที่จะถูกปรับใช้ในอีกไม่นาน เพราะขนาดปูตินเรียกประชุมฝ่ายบริหารและกองทัพขนาดนี้และมีการแถลงอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ของเครมลินอีกด้วย
นับตั้งแต่สงครามเต็มรูปแบบกับยูเครนเริ่มขึ้นเมื่อปี 2022 ทางการรัสเซียได้ข่มขู่ฝ่ายตะวันตกด้วยอาวุธนิวเคลียร์อย่างต่อเนื่อง โดยรัสเซียได้ติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุส และทั้งสองประเทศได้ประกาศซ้อมรบนิวเคลียร์ร่วมกัน นักการทูตรัสเซียยังขู่ว่าจะแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียท่ามกลางความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกที่ให้แก่ยูเครนอย่างต่อเนื่อง (ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มขั้นตอนแล้ว)
นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น โดรนของยูเครนได้โจมตีเป้าหมายต่างๆ ในรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำเล่า เคยถึงแม้กระทั่งบินมาถึงเครมลินก็มี ในฐานะส่วนหนึ่งของความช่วยเหลือทางทหาร ประเทศตะวันตกยังได้มอบเครื่องบินรบ F-16 ให้กับยูเครน ซึ่งสามารถบรรทุกขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลได้ อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่ไฟเขียวให้เคียฟใช้ขีปนาวุธดังกล่าวในดินแดนของรัสเซียในตอนนี้ – อ้างอิง: [2]
เรียบเรียงโดย Right Style
26th Sep 2024
  • แหล่งข่าวและข้อมูลอ้างอิง:
1
<เครดิตภาพปก: X @KBCChannel1>
โฆษณา