3 ต.ค. เวลา 23:19 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

ประธานาธิบดีมิไลแห่งอาร์เจนตินาขุดหลุมฝังตัวเองที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ

ประธานาธิบดีมิไลแห่งอาร์เจนตินาคุณเจ๋งมาก
สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีฆาเบียร์ มิไล ประธานาธิบดีอาร์เจนตินาในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติถือเป็นคำกล่าวที่กล้าหาญที่สหประชาชาติไม่เคยได้ยินมาก่อน
ใน คำพูด 80 ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีมิไลประณามสหประชาชาติที่ส่งเสริมวาระสังคมนิยม โดยกล่าวหาว่า
สหประชาชาติกลายเป็นเลวีอาธานที่กำหนดวิถีชีวิต เขาประณามสหประชาชาติและ ประณามวาระในปี 2573 โดยเรียกมันว่า
“ไม่มีอะไรมากไปกว่าโครงการเหนือชาติอื่นในรูปแบบของสังคมนิยม” ประธานาธิบดีมิไลยังกล่าวอย่างน่าประหลาดใจและระบุเน้นๆตรงๆว่า
การล็อกดาวน์โควิดในปี 2563 เป็นเพียง "อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ" เท่านั้น
ประธานาธิบดีมิไล แสดงช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในวันนั้น เมื่อเขายืนหยัดเพียงลำพังเพื่อยืนหยัดต่อสู้กับชนชั้นสูงที่มีอุดมการณ์ของสหประชาชาติ
รวมถึงระบบราชการที่เป็นประชาธิปไตยทางสังคม
โดยโจมตีสหประชาชาติไปแบบโต้งๆ โดยกล่าวว่าบ้านที่อ้างว่าปกป้องสิทธิมนุษยชนได้เปิดทางให้เข้าสู่เผด็จการนองเลือด เช่นคิวบาและเวเนซุเอลา
ประธานาธิบดีมิไล ชี้ให้เห็นว่าวาระในปี 2573 ขององค์การสหประชาชาติเป็นแผนของรัฐบาลสังคมนิยมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความทันสมัย
ผ่านวิธีแก้ปัญหาที่คุกคามอธิปไตยของรัฐชาติและละเมิดสิทธิของประชาชนต่อชีวิต เสรีภาพ และทรัพย์สิน
555 ผมชอบๆ มุมมองของคุณ(ประธานาธิบดีมิไล) มุมมองของคุณถูกต้องอย่างแน่นอน โลกต้องการคนที่เห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่น เพราะการเห็นแก่ประโยชน์ผู้อื่นขัดต่อธรรมชาติของมนุษย์
ดังนั้นจึงควรได้รับการส่งเสริมและให้รางวัล แต่ผู้ที่ปรารถนาสิ่งนี้จะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
ประธานาธิบดีลินคอล์นต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และไม่ได้ปลดปล่อยทาสผิวดำในขั้นตอนเดียว
แต่ค่อยๆเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา นั่นคือ การรักษาความสามัคคีของสหรัฐอเมริกา และแนะนำว่าการปลดปล่อยทาสผิวดำเป็นเพียงผลพลอยได้
และแบบที่เราๆ ทราบกัน สิ่งเหล่านี้ทำไม่ได้กันมาง่ายๆนะครับ เช่นกว่าที่จะมีการเลิกทาสสำเร็จในหลวงรัชกาลที่ 5
ท่านก็ทรงริเริ่มและลงมือปฏิบัติอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมาหลายปีเช่นกัน สิ่งที่พระองค์พบเจอจากนโยบายพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแบบนี้ ก็คือ อุปสรรคแรงเสียดทานคัดค้านจากหลายฝ่าย
พูดง่ายๆ ก็คือ การเลิกทาสที่ว่านี้ มีคนเสียประโยชน์และไม่พอใจอย่างแน่นอน
แต่ก็ทรงพบทางออก กล่าวคือ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 ทรงออก “พระราชบัญญัติพิกัดเกษียณลูกทาสลูกไทย”
โดยมีการแก้พิกัดค่าตัวทาสใหม่ โดยให้ลดค่าตัวทาสลงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ จนกระทั่งหมดค่าตัวเมื่ออายุได้ 20 ปี
เมื่ออายุได้ 21 ปี ผู้นั้นก็จะเป็นอิสระ (เป็นไทแก่ตัว)
โดยจะมีผลกับทาสที่เกิดตั้งแต่ปี 2411 และห้ามมิให้มีการซื้อขายบุคคลที่มีอายุมากกว่า 20 ปีไปเป็นทาสอีกต่อไป
และสิ่งนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่ ประธานาธิบดีมิไลทำ เพราะไอ้หมอนี้มันรวบรัดจนเกินไป
ในมุมนึงก็ต้องชื่นชมประธานาธิบดีมิไลนะครับ แต่น่าเสียดายที่ประเทศอาร์เจนติน่าเองก็มีพละกำลังที่ย่ำแย่ในเวทีโลกเกินไป
โฆษณา