28 ก.ย. เวลา 12:15 • สุขภาพ

สำรองจ่ายประกันสุขภาพ ไม่ได้แปลว่าเคลมไม่ได้

หลายคนเข้าใจผิดว่า ถ้าเคลมประกันสุขภาพแล้วต้องสำรองจ่าย แปลว่าเคลมไม่ได้ จริงๆ แล้วไม่ใช่นะคะ 🙅‍♀️
การสำรองจ่ายเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการเคลมในบางกรณี เพื่อให้บริษัทประกันได้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วนก่อนจ่ายสินไหมค่ะ
ในอดีต การเคลมประกันสุขภาพมักจะต้องสำรองจ่ายก่อนเสมอ แต่ปัจจุบันระบบได้พัฒนาไปมาก ทำให้หลายกรณีไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายแล้ว 😊
🏥 ระบบการเคลมประกันสุขภาพในปัจจุบัน
1. การเคลมแบบจ่ายตรง (Direct Billing) บริษัทประกันจ่ายค่ารักษาให้โรงพยาบาลโดยตรง คุณไม่ต้องสำรองจ่าย
2. ระบบ Fax Claim โรงพยาบาลส่งข้อมูลไปยังบริษัทประกันเพื่อขออนุมัติทันที ช่วยลดภาระการสำรองจ่าย
3. ระบบ E-Claim ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยกว่า Fax Claim ทำให้การอนุมัติรวดเร็วยิ่งขึ้น
🧐 แล้วเมื่อไหร่ที่ต้องสำรองจ่าย?
- รักษานอกเครือข่าย -> ถ้าโรงพยาบาลที่เราไปรักษาไม่ได้อยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกัน เราจำเป็นต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วค่อยนำใบเสร็จมาเบิกคืนทีหลังค่ะ
- กรณีฉุกเฉิน -> บางครั้งแม้จะรักษาในเครือข่าย แต่ถ้าเป็นกรณีฉุกเฉิน และอย่าลืมว่าระบบ E-Claim หรือ Fax Claim อาจมีข้อจำกัดในบางช่วงเวลา ทำให้ต้องสำรองจ่ายไปก่อนค่ะ
- โรคที่มีอยู่ก่อนทำประกัน -> กรณีที่เราแถลงประวัติการเจ็บป่วยไม่ครบถ้วน หรือมีโรคแทรกซ้อนที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคเดิม บริษัทประกันอาจขอตรวจสอบเพิ่มเติม ทำให้ต้องสำรองจ่ายไปก่อนค่ะ
- เอกสารไม่ครบ -> ถ้าเอกสารสำคัญ เช่น ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารอื่นๆ ไม่ครบถ้วน ก็อาจต้องสำรองจ่ายไปก่อนเช่นกันค่ะ
⏳ ระยะเวลาในการพิจารณาสินไหม
- กรณีปกติ ภายใน 15 วัน
- กรณีมีเหตุอันควรสงสัย ไม่เกิน 90 วัน
อย่าลืมนะคะ! ถึงจะสำรองจ่าย แต่ถ้าทุกอย่างถูกต้องตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ เราก็มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนค่ะ 😊
การทำประกันสุขภาพคือการวางแผนป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่ชาญฉลาด อย่าปล่อยให้ความเข้าใจผิดเรื่องการสำรองจ่ายมาเป็นอุปสรรคในการดูแลสุขภาพการเงินของคุณนะคะ 😉
โฆษณา