30 ก.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
จีน

จีนยิงขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก...มันหมายความว่าอย่างไร?

ในรอบกว่า 40 ปีที่จีนยิงขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)เข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
สหรัฐอเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย รวมถึงสี่ประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังประชุมกันเพื่อหารือว่าจะทำอย่างไร? แต่อย่ากังวลครับ มันเป็นแค่การบำรุงรักษาตามปกติ ฮาาาาา.
1
เจ้าหน้าที่จีนยืนยันว่าได้ทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในน่านน้ำสากลในสัปดาห์นี้ ทำให้เกิดการประท้วงจากประเทศเพื่อนบ้านหลายแห่ง
การยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อวันพุธ (25 กันยายน 2567) ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี แต่ปักกิ่งกล่าวว่าปฏิบัติการนี้เป็น "การจัดการตามปกติ" และไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศหรือเป้าหมายใดๆ
สื่อของรัฐจีนยังรายงานด้วยว่ารัฐบาลยังได้ออกประกาศไปยัง "ประเทศที่เกี่ยวข้อง"ให้ทราบแล้ว
1
อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นกล่าวว่าไม่ได้รับคำเตือนใดๆ รวมถึง ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในการแสดงความกังวล
เพราะในวันเดียวกัน ญี่ปุ่นส่งเรือรบเข้าสู่ช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรกเช่นกันกระทรวงการต่างประเทศของจีนก็ได้แต่เคร่งขรึม ต่อมากระทรวงการต่างประเทศของจีนได้แสดงตนอย่างเคร่งขรึมต่อญี่ปุ่น
เกี่ยวกับการที่เรือรบญี่ปุ่นแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน โดยเรียกร้องให้ญี่ปุ่นไม่บ่อนทำลาย เสถียรภาพข้ามช่องแคบ
https://youtu.be/5cPQllQdIg4?si=HRW9MmDi3McqjXPm
โดยเรือฟริเกต Ren ของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่นแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันจากเหนือจรดใต้เมื่อวันพุธ (25 กันยายน) พร้อมด้วยเรือจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
1
นี่เป็นครั้งแรกที่เรือรบของญี่ปุ่นแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันนับตั้งแต่ก่อตั้งกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น และนี่เป็นครั้งแรกที่เรือรบของกองทัพเรือนิวซีแลนด์แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันนับตั้งแต่ปี 2560
กระทรวงกลาโหมของออสเตรเลียไม่มีความเห็นในทันที แม้รัฐมนตรีกลาโหมนิวซีแลนด์ คอลลินส์ (Collins)กล่าวว่าเรือรบนิวซีแลนด์ 2 ลำแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันพุธ แต่คำกล่าวของ Collins กล่าวถึงแค่เรือรบ Anzac เท่านั้น
นี่อาจเป็นเหตุจูงใจให้จีน กระทำบางอย่าง แต่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า การปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวรังแต่เพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
เนื่องจากมันเป็นการเน้นย้ำถึงศักยภาพด้านนิวเคลียร์พิสัยไกลที่เพิ่มขึ้นของจีน
1
https://www.washingtonpost.com/world/2024/06/16/china-nuclear-arsenal-weapons/
เมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ เตือนว่าจีนได้ขยายคลังแสงนิวเคลียร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอัพเกรดด้านกลาโหม
จากระยะการยิงของขีปนาวุธข้ามทวีปที่สามารถหวังผลเกิน 5,500 กิโลเมตร ทำให้จีนสามารถโจมตีได้ครอบคลุมพื้นที่ภาคพื้นทวีปของสหรัฐอเมริกาและรัฐฮาวาย
ถึงกระนั้น คลังแสงนิวเคลียร์ของจีนก็คาดว่าจะมีขนาดเล็กกว่าหนึ่งในห้าของขนาดสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย และจีนยืนกรานมานานแล้วว่า จะคงคลังแสงนิวเคลียร์ไว้เพียงเพื่อป้องปรามเท่านั้น
1
ปักกิ่งประกาศเมื่อวันพุธว่าได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อเวลา 08:44 น. ตามเวลาท้องถิ่น (04:44 GMT) ขีปนาวุธดังกล่าวบรรทุกหัวรบจำลองและร่อนลงในพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งเชื่อกันว่าปรากฏอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้
กระทรวงกลาโหมจีนกล่าวเสริมว่า การทดสอบยิงดังกล่าวถือเป็น "การเตรียมการตามปกติ"
https://www.bbc.com/news/articles/c4gl843l90zo
และเป็นส่วนหนึ่งของ "การฝึกประจำปี"
1
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ให้ BBC ทราบว่า ครั้งสุดท้ายที่จีนทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปนอกอาณาเขตของตนคือช่วงปี 2523
โดยทั่วไปแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา จีนจะทำการทดสอบภายใน โดยก่อนหน้านี้ได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเข้าสู่ทะเลทรายทาคลิมากันในซินเจียง
“การทดสอบประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับประเทศอื่นๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกา แต่ถือเป็นการทดสอบที่พิเศษ(มาก)สำหรับจีน” อันกิต แพนด้า(Ankit Panda) นักวิเคราะห์ขีปนาวุธนิวเคลียร์ กล่าวกับ BBC
Panda วิเคราะห์ว่า “การปรับปรุงนิวเคลียร์ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง” ของจีนได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
https://www.bbc.com/news/articles/c4gl843l90zo
และการเปิดตัวครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของตนด้วย ดังนั้นการทดสอบขีปนาวุธนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาโต้ตอบทันทีจากหลายประเทศ
ตัวอย่าง เช่น ทางกรุงโตเกียวกล่าวว่าไม่ได้รับการแจ้งเตือน และแสดง "ความกังวลอย่างยิ่ง" เกี่ยวกับการขยายกำลังทหารของปักกิ่ง
1
ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียก็กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว “กำลังบั่นทอนเสถียรภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อการคำนวณผิดพลาดในภูมิภาค” และได้ขอ “คำอธิบาย” จากปักกิ่ง
ส่วน นิวซีแลนด์กล่าวว่า มันเป็น "การพัฒนาที่ไม่พึงประสงค์และน่ากังวล"
แพนด้าเชื่อว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของจีนโดยหลักในการส่งข้อความทางการเมืองแบบนี้
https://www.bbc.com/news/articles/c4gl843l90zo
"แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นคำเตือนที่ชัดเจนสำหรับภูมิภาคและสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพลวัตทางนิวเคลียร์ในเอเชียกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว"
นักวิเคราะห์คนอื่นๆ ชี้ให้เห็นอีกว่า อย่าไว้ใจ...นี่เป็นสัญญาณเตือนภัยอีกครั้งสำหรับสหรัฐฯ และพันธมิตรในภูมิภาคนี้
1
ลีฟ-เอริก อีสลีย์ (Leif-Eric Easley)ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในเกาหลีใต้ กล่าวต่อ BBC ว่า
“สำหรับวอชิงตัน ข้อความก็คือการมีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวันอาจจะทำให้แผ่นดินใหญ่ถูกโจมตีจากสหรัฐฯ”
1
เขากล่าวเสริมว่าไม่ใช่แต่สหรัฐฯ แต่สำหรับพันธมิตรสหรัฐฯ ในเอเชีย
"การทดสอบที่เร้าใจนี้... แสดงให้เห็นถึงความสามารถของจีนในการต่อสู้หลายด้านพร้อมๆกัน"
ดรูว์ ทอมป์สัน (Drew Thompson) นักวิจัยอาวุโสของโรงเรียนนานาชาติศึกษาก็ได้ เขียนบนแพลตฟอร์มโซเชียล "X"ว่า "เวลาเป็นกุญแจสำคัญ"
เขาอธิบายว่า "คำแถลง (ของจีน) ระบุว่าการเปิดตัวไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประเทศใด ๆ แต่เป็นความตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ตลอดจนความตึงเครียดที่ยังคงมีอยู่ กับไต้หวันอย่างเห็นได้ชัด"
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและวอชิงตันจะดีขึ้นบ้างในปีที่ผ่านมา แต่จุดยืนที่ยืนหยัดมากขึ้นของจีนในภูมิภาคยังคงเป็นอุปสรรค
แต่ ความตึงเครียดยังเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเรือของจีนและฟิลิปปินส์ปะทะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาท
อีกทั้ง เมื่อเดือนที่แล้ว โตเกียวได้ยึดเครื่องบินขับไล่ไอพ่นหลังจากกล่าวหาว่า
เครื่องบินสอดแนมของจีนละเมิดน่านฟ้าของตน โดยเรียกการเคลื่อนไหวดังกล่าวว่า “ยอมรับไม่ได้เป็นอย่างมาก”
1
แต่ เน้นๆ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและไต้หวันที่แยกจากกันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของความตึงเครียด
ตัวอย่างเช่น กระทรวงกลาโหมของไต้หวันกล่าวเมื่อวันพุธว่าจีนเพิ่งดำเนินการยิงขีปนาวุธแบบ "เข้มข้น" และการฝึกซ้อมอื่นๆ
จากคำแถลงระบุว่าไต้หวันตรวจพบเครื่องบินทหารจีน 23 ลำที่กำลังปฏิบัติ "ภารกิจระยะไกล" รอบไต้หวัน
https://www.cnn.com/2024/08/27/asia/japan-china-military-plane-airspace-violation-intl-hnk-ml/index.html
กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ยังส่งเรือและเครื่องบินไปยังน่านน้ำและน่านฟ้าของไต้หวันเป็นประจำ
1
ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่า "สงครามเขตสีเทา" ที่มุ่งเป้าไปที่การทำให้การบุกรุกเหล่านี้เป็นปกติ
อีกทั้งในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ จีนระงับการเจรจาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์กับวอชิงตัน เนื่องจากสหรัฐฯ ยังคงขายอาวุธให้ไต้หวัน(ต่อไป)
และสหรัฐฯ แอบเตือนในปี 2566 เกี่ยวกับการปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์ของจีนให้ทันสมัย ​​แม้ว่าจำนวน(ของจีน)ยังต่ำกว่าคลังแสงนิวเคลียร์ของวอชิงตันมากก็ตาม
เพนตากอนประเมินว่าจีนมีหัวรบนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้มากกว่า 500 ลูก ซึ่งประมาณ 350 ลูกเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป
1
ตามรายงานคาดการณ์ว่าภายในปี 2573 จีนจะมีหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า 1,000 ลูก ในขณะที่สหรัฐอเมริกาและรัสเซียต่างก็บอกว่ามีหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า 5,000 ลูก
นอกจากนี้ Rocket Force (กองทัพน้อยปืนใหญ่ที่ 2 ) ของกองทัพจีน ซึ่งเป็นหน่วยหัวกะทิที่จัดการคลังแสงนิวเคลียร์ของตน
ยังมีส่วนร่วมในความขัดแย้งบางกรณีเมื่อเร็วๆ นี้ เช่น การรณรงค์ต่อต้านการทุจริตอย่างดุเดือดนำไปสู่การขับไล่ผู้นำสองคนของหน่วยเมื่อปีที่แล้ว
แม้ว่าโตเกียวและแคนเบอร์ราจะไม่แสดงความรับรู้มาก่อนเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของจีน และแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของปักกิ่ง
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันในภายหลังว่าจีนได้แจ้งให้สหรัฐฯ ทราบก่อนการทดสอบจริง
1
ซาบรินา ซิงห์ (Sabrina Singh) รองโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธตามเวลาตะวันออกว่า
“นี่เป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง ในทิศทางของการลดความเสี่ยงของการเข้าใจผิดและการคำนวณผิด”
1
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่าคาดหวังว่าจีนจะกำหนดกลไกการแจ้งเตือนทวิภาคีที่เป็นมาตรฐานมากขึ้นสำหรับปฏิบัติการปล่อยขีปนาวุธ เช่น ขีปนาวุธและจรวดอวกาศ
“เรายังจะส่งเสริมการเจรจาทวิภาคีที่สำคัญกับจีนในประเด็นการขยายอาวุธนิวเคลียร์ และเริ่มใช้มาตรการเพื่อจัดการกับความเสี่ยงของการขยายอาวุธนิวเคลียร์ของจีน” ซิงห์กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลินอิง (Lin Yingyou) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของจีนและผู้ช่วยศาสตราจารย์สถาบันกิจการระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Tamkang ในไต้หวัน บอกกับ BBC ว่า
การยิงขีปนาวุธโดยกองทัพปลดปล่อยประชาชนนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สหรัฐฯ ได้รับรู้อะไรบางอย่าง....
1
Lin Yingyou ชี้ให้เห็นว่า "พรรคคอมมิวนิสต์จีนหวังที่จะใช้การเคลื่อนไหวนี้เพื่อตอบโต้ข้อสงสัยและข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับ Rocket Force จากโลกภายนอกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ Rocket Force"
เอ. เอส. นีล (Alexander Neill ) กล่าวกับรอยเตอร์ที่การประชุม Pacific Forum ในฮาวายว่า
เมื่อพิจารณาว่ากองกำลังจรวดของจีนมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตเมื่อเร็วๆ นี้
สี จิ้นผิงอาจต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อแสดงจุดยืนของเขาว่า "วิธีการป้องปรามเชิงกลยุทธ์ของจีนยังคงมีบทบาทในคำตอบนี้ได้ ”
โฆษณา