Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เต๋อพาเที่ยว TerOfficial
•
ติดตาม
27 ก.ย. เวลา 08:42 • นิยาย เรื่องสั้น
ตำนานปอบเฒ่า 😱 เปิดโปงความจริงสุดสยองที่คุณไม่เคยรู้
ปอบเฒ่าข้างบ้าน: วิญญาณกินคน
ตอนที่ 1: ความแปลกของยายทองย้อย
ท่ามกลางหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบภายใต้เงาเขา น้อย หนุ่มวัยรุ่นผู้รักสงบใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางท้องทุ่งและเพื่อนบ้านที่คุ้นเคย หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ทุกคนรู้จักกันดี แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับมีบางสิ่งที่ทำให้น้อยรู้สึกไม่สบายใจ เรื่องราวของสัตว์เลี้ยงในหมู่บ้านที่หายไปอย่างลึกลับ โดยเฉพาะหมูและไก่ ทำให้เกิดการพูดคุยใน
หมู่ชาวบ้านว่าอาจมีขโมยหรือบางอย่างที่ชวนให้ไม่สบายใจมากกว่านั้น
น้อยเองก็สังเกตเห็นว่าช่วงนี้ยายทองย้อย หญิงชราที่อาศัยอยู่ข้างบ้านมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนเดิม ยายทองย้อยเป็นคนที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก แต่ช่วงนี้เธอเริ่มดูแปลกไป เวลาเดินผ่านบ้านยายทองย้อยในช่วงเย็น น้อยมักเห็นเธอเตรียมอาหารในเวลาที่ไม่ปกติ และทุกครั้งที่เขาเดินผ่าน เธอจะหันมามองด้วยสายตาที่เฉียบคมและลึกลับกว่าที่เคย
คืนหนึ่ง ขณะที่น้อยกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเห็นแสงไฟสลัว ๆ ที่บ้านของยายทองย้อย แต่สิ่งที่ทำให้น้อยขนลุกขึ้นมาคือเงาร่างของยายทองย้อยที่เดินออกจากบ้านในเวลามืดมิด น้อยเห็นเธอเดินไปยังทุ่งนาในชุดเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยโคลน เขาจึงแอบตามไปอย่างเงียบ ๆ
ในความมืดของทุ่งนา น้อยสังเกตเห็นว่ายายทองย้อยไม่ได้หายไปไหนไกล เธอหยุดที่ริมทุ่งและเริ่มค้นหาอะไรบางอย่างที่น่าสงสัย เธอก้มลงไปในกองดินและดูเหมือนว่ากำลังจะทำอะไรบางอย่างกับมัน น้อยไม่ได้เห็นชัดเจนเพราะระยะห่าง แต่ความรู้สึกในท้องของเขาบอกว่า มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
รุ่งเช้า น้อยตัดสินใจเล่าเรื่องที่เห็นเมื่อคืนให้ยายบุญฟัง ยายบุญเป็นผู้เฒ่าของหมู่บ้านและมักจะเล่าเรื่องราวของผีปอบในอดีตให้เด็ก ๆ ฟังเพื่อขู่ไม่ให้พวกเขาออกไปเล่นกลางคืน "เธอว่าปอบเป็นแค่เรื่องเล่าเหรอ น้อย? ข้าบอกเลยว่าปอบมีจริง และพวกมันมักจะออกหากินในเวลามืด มันชอบกินเครื่องในสด ๆ ของสัตว์เล็ก ๆ โดยเฉพาะไก่ เป็ด หมู" ยายบุญพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
น้อยฟังแล้วรู้สึกหวิวในใจ เขาไม่อยากเชื่อว่ายายทองย้อยที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมพฤติกรรมของยายทองย้อยถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ น้อยตัดสินใจที่จะตามหาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับยายทองย้อย และเหตุผลที่สัตว์ในหมู่บ้านเริ่มหายไปอย่างลึกลับ
ค่ำคืนมืดมนกำลังจะมาถึง และความลึกลับของยายทองย้อยก็เริ่มจะคลี่คลาย...
ตอนที่ 2: การสังเวยในคืนมืด
ในคืนที่ท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆดำ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้กลับเงียบงันเหมือนทุกคนกำลังซ่อนตัวจากอะไรบางอย่าง น้อยนั่งเงียบอยู่หน้าบ้าน หลังจากเหตุการณ์ที่เขาเห็นยายทองย้อยเดินออกจากบ้านในคืนก่อน ความสงสัยของเขาก็ยิ่งทวีคูณ ทุกคืนตั้งแต่นั้นมา น้อยพยายามฟังเสียงหรือสังเกตอะไรผิดปกติจากบ้านของยายทองย้อย
คืนนั้นเอง น้อยได้ยินเสียงแปลก ๆ มาจากทิศทางบ้านยายทองย้อย เสียงเหมือนการขุดดินหรือการขยับของอะไรบางอย่างในความมืด มันฟังดูเงียบจนแทบไม่ได้ยินแต่ก็ชวนให้รู้สึกหนาวสะท้าน น้อยไม่รอช้า เขารีบหยิบไฟฉายอันเล็ก ๆ ของเขาออกมาและแอบตามเสียงนั้นไป
น้อยเดินอย่างเงียบ ๆ ผ่านเงาไม้และพุ่มไม้ที่ปกคลุมทางเดินไปยังทุ่งนา เมื่อเขาเข้าใกล้บ้านยายทองย้อย เขาเห็นเงาร่างหนึ่งที่คุ้นตา ยายทองย้อยยังคงอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่สกปรกเต็มไปด้วยโคลน เธอเดินก้มหน้าและถืออะไรบางอย่างในมือไปยังทุ่งนาที่มืดมิด ราวกับว่ามีเป้าหมายชัดเจน น้อยใจเต้นรัว เขาแอบตามไปในระยะที่พอปลอดภัย ไม่ให้ยายทองย้อยรู้ตัว
ในทุ่งนาที่มืดมิด มีเพียงแสงจันทร์สลัวที่ส่องลงมา ยายทองย้อยหยุดที่บริเวณหนึ่งของทุ่งซึ่งเต็มไปด้วยต้นหญ้าแห้ง เธอคุกเข่าลงและเริ่มทำอะไรบางอย่างที่น้อยไม่อาจมองเห็นได้ชัด แต่ทันใดนั้นเอง เสียงแปลก ๆ ดังขึ้นจากรอบทิศ เสียงที่คล้ายกับการกระพือปีกของนก แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว มันดังก้องและน่าขนลุก
น้อยใจหวิว เขารู้สึกว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง แต่ไม่สามารถหันหลังกลับได้อีกแล้ว เขาตัดสินใจเข้าใกล้มากขึ้น เงาของยายทองย้อยดูเหมือนกำลังทำพิธีอะไรบางอย่าง บนพื้นดินมีซากสัตว์เล็ก ๆ ถูกวางเรียงราย และน้อยสังเกตเห็นว่ามีรอยเลือดที่ค่อย ๆ ซึมออกมาจากซากสัตว์เหล่านั้น มันเหมือนกับว่าถูกดูดเลือดจนหมด สายตาของน้อยแข็งทื่อด้วยความตกใจ เขาพยายามกลั้นลมหายใจเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกพบ
เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน ว่าอีกครั้งหนึ่ง มีการพบซากสัตว์ที่ทุ่งนา รอยเลือดที่ดูดออกจนหมดทำให้ทุกคนเริ่มหวาดกลัว ชาวบ้านพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด ผู้ใหญ่แสง ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้าน เริ่มแสดงความไม่พอใจและหงุดหงิดกับการหายตัวของสัตว์เรื่อย ๆ ในหมู่บ้าน "เรื่องนี้มันต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ ข้าไม่ยอมให้ใครมาก่อกวนหมู่บ้านของเราอีกต่อไป" เขาประกาศเสียงดัง
แต่ในใจของน้อย เรื่องราวกลับไม่เหมือนที่ชาวบ้านคิด เขามั่นใจว่ายายทองย้อยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของสัตว์เหล่านี้ แต่เขายังไม่มีหลักฐานพอที่จะบอกใครได้ เรื่องราวนี้ยังคงต้องสืบต่อไป และน้อยรู้สึกว่าความจริงอาจจะน่ากลัวกว่าที่เขาคาดคิด
ค่ำคืนมืดมนยังคงรอการสังเวยอีกครั้ง...
ตอนที่ 3: การตายลึกลับของคนในหมู่บ้าน
หลังจากเหตุการณ์ซากสัตว์ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ความหวาดกลัวในหมู่บ้านเริ่มคืบคลานเข้ามา แต่ไม่ใช่เพียงสัตว์เท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ ในเช้าของวันหนึ่ง ข่าวร้ายแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านว่า ตาฉลาด ชายแก่ที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ถูกพบว่าเสียชีวิตในบ้านของตัวเอง
สภาพของตาฉลาดที่ถูกพบสร้างความหวาดผวาให้กับทุกคน ไม่มีบาดแผลภายนอก ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่ที่น่าสยดสยองกว่านั้นคือตาฉลาดดูเหมือนจะถูก "บางสิ่ง" ดูดเอาเครื่องในออกไปจนหมด ทิ้งไว้เพียงร่างที่ซีดขาวราวกับชีวิตถูกสูบออกไป
น้อย ซึ่งเริ่มสงสัยในตัวของ ยายทองย้อย ตั้งแต่เรื่องซากสัตว์ ก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่ายายทองย้อยต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง เขาพยายามบอกเล่าเรื่องราวที่เขาเห็นในคืนก่อน ๆ ให้ชาวบ้านฟัง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ "เจ้าเด็กน้อย ฝันกลางวันอยู่หรือไง?" ผู้ใหญ่แสงตอบกลับอย่างหัวเราะ
น้อยจึงตัดสินใจไปหาคำตอบจาก ยายบุญ หญิงชราผู้รู้เรื่องเล่าเก่าแก่ของหมู่บ้าน ยายบุญนั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มือกำลังถือไม้เท้าสั่นระริก เมื่อเห็นน้อยเดินเข้ามา ยายบุญมองด้วยสายตาลึกลับ น้อยเล่าทุกอย่างให้ยายบุญฟัง ตั้งแต่พฤติกรรมแปลก ๆ ของยายทองย้อย จนถึงการตายของตาฉลาด
"ข้าเคยบอกพวกเขาแล้วเรื่อง ผีปอบ แต่ไม่มีใครฟัง..." ยายบุญพูดด้วยเสียงแหบพร่า "สมัยก่อน หมู่บ้านนี้เคยมีปอบอาศัยอยู่ ปอบมันจะสิงใครก็ได้ที่มีจิตใจอ่อนแอ หรือคนที่เคยใช้คุณไสยไม่ถูกทาง มันจะกินตับไตไส้พุงของเหยื่อ โดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยเลย"
คำพูดของยายบุญทำให้น้อยสะดุ้ง ความคิดของเขายิ่งแน่ชัดขึ้น ยายทองย้อยที่มีพฤติกรรมแปลก ๆ และชอบเดินกลับมาที่บ้านตอนดึก ๆ ต้องเป็นปอบแน่ ๆ แต่ยังไม่มีใครในหมู่บ้านเชื่อเขา
เมื่อข่าวการตายของตาฉลาดแพร่กระจายไป ชาวบ้านหลายคนเริ่มหวาดกลัว พวกเขาเริ่มพูดถึงผีปอบที่ยายบุญเล่าไว้ ว่าอาจจะเป็นสาเหตุของการตายปริศนานี้ และคนในหมู่บ้านก็เริ่มสงสัยในตัวของยายทองย้อย แต่ยังไม่มีใครกล้าพูดหรือทำอะไร
กลางคืนในหมู่บ้านกลายเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัว ทุกคนพากันปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนา แต่สำหรับน้อย ความกลัวของเขาไม่ได้หยุดแค่การปิดประตู เขาต้องการหาคำตอบ และจะต้องพิสูจน์ให้ชาวบ้านเห็นว่ายายทองย้อยไม่ใช่เพียงหญิงชราธรรมดา...
ตอนที่ 4: หมอผีกับพิธีไล่ปอบ
ความกลัวในหมู่บ้านเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน หลังจากการตายของตาฉลาด ชาวบ้านเริ่มพากันปิดประตูปิดหน้าต่างตั้งแต่ฟ้ามืด ไม่กล้าออกไปไหนตอนกลางคืน ข้าวของสัตว์เลี้ยงถูกขังไว้อย่างแน่นหนา แต่ก็ยังคงมีสัตว์หายไปอย่างลึกลับ คนในหมู่บ้านต่างพากันพูดถึง ยายทองย้อย ผู้มีพฤติกรรมแปลกประหลาด แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร จนในที่สุด ชาวบ้านตัดสินใจทำในสิ่งที่พวกเขาเคยได้ยินจากคนรุ่นเก่า—เรียก หมอผี มาช่วย
หมอผีปาน ชายผู้มีชื่อเสียงในเรื่องการไล่ผีปอบจากหมู่บ้านอื่นถูกเรียกตัวเข้ามา หมอผีปานเป็นชายวัยกลางคน ร่างกายล่ำสัน ดวงตาคมกริบ มีเครื่องรางของขลังแขวนคอมากมาย เมื่อหมอผีปานมาถึง เขากวาดตามองไปรอบหมู่บ้านเหมือนกำลังสัมผัสบางอย่าง
"ผีปอบ...อยู่ใกล้กว่าที่คิด" หมอผีปานพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหันไปหา น้อย ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม "ข้ารู้ว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นที่นี่ เจ้าต้องช่วยข้า เพื่อพิสูจน์ว่าความเชื่อของเจ้าถูกต้อง"
ในคืนนั้น หมอผีปานเตรียมอุปกรณ์เพื่อทำพิธีไล่ปอบ เขาใช้ โมงข้อง เครื่องสานแบบโบราณที่ใช้สำหรับกักขังผีปอบ น้อยช่วยหมอผีปานเตรียมสถานที่ ขณะที่ชาวบ้านคนอื่น ๆ เริ่มมุงดูด้วยความหวัง แต่ก็เต็มไปด้วยความกลัว เมื่อถึงเวลา หมอผีปานเริ่มทำพิธี เขาวางโมงข้องกลางลานบ้านของยายทองย้อย และสวดคาถาด้วยเสียงที่แผ่วเบาและเยือกเย็น
ในขณะเดียวกัน ยายทองย้อย ก็ถูกพาตัวมาที่ลานบ้าน ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่มองอย่างระแวง ยายทองย้อยดูสงบเงียบเหมือนหญิงชราธรรมดา ไม่มีท่าทางใด ๆ ที่จะทำให้ใครกลัว แต่ทันทีที่หมอผีปานเริ่มร่ายคาถา พฤติกรรมของยายทองย้อยก็เริ่มเปลี่ยนไป ร่างกายของเธอเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านหลายคนตกใจและถอยหลังไปด้วยความหวาดกลัว
"อย่ามายุ่งกับข้า!" ยายทองย้อยตะโกนเสียงแหลม และพยายามหนีออกจากลานบ้าน แต่หมอผีปานใช้โมงข้องชี้ไปที่เธอ ร่างของยายทองย้อยกระตุกอย่างแรงก่อนจะทรุดลงกับพื้น ชาวบ้านต่างตกตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า
"ข้าไม่ใช่คนธรรมดา ข้าคือปอบ! ข้าอยู่มานานและข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้ากำจัดข้าได้ง่าย ๆ" ยายทองย้อยพูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจากเดิม ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงเรืองแสง น้อยและชาวบ้านต่างตะลึงกับสิ่งที่เห็น
หมอผีปานไม่หวั่นเกรง เขาร่ายคาถาต่อไป พร้อมกับใช้โมงข้องกักวิญญาณปอบที่สิงอยู่ในร่างยายทองย้อย ยายทองย้อยเริ่มกระวนกระวายมากขึ้น พฤติกรรมดุร้ายของเธอชัดเจนจนไม่มีใครกล้าสงสัยอีกต่อไปว่าเธอคือปอบจริง ๆ
พิธีดำเนินไปท่ามกลางความตื่นเต้นและความหวาดกลัวของชาวบ้าน หมอผีปานรู้ว่าการขับไล่ปอบครั้งนี้ไม่ง่าย เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องหมู่บ้านจากภัยอันตรายที่ซ่อนอยู่ในร่างของยายทองย้อย...
ตอนที่ 5: จุดจบของยายปอบ
เสียงลมพัดแรงพร้อมกับเสียงสวดคาถาของ หมอผีปาน ก้องกังวานไปทั่วลานบ้านของ ยายทองย้อย ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด ชาวบ้านล้อมวงดูเหตุการณ์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้อยยืนตัวแข็ง ความรู้สึกผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นและความกลัวโถมทับใจเขาเมื่อเห็นภาพยายทองย้อยดิ้นทุรนทุรายอยู่ต่อหน้า
ยายทองย้อยที่ตอนนี้ไม่ใช่หญิงชราที่อ่อนโยนอีกต่อไป ร่างของเธอบิดเบี้ยว มือไม้เกร็ง กรีดร้องเสียงแหลมก้องฟ้า ผิวหนังที่เคยเหี่ยวแห้งกลับกลายเป็นซีดขาว ตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำราวกับเปลวไฟที่เผาไหม้จิตวิญญาณ เมื่อพลังของปอบเริ่มครอบงำมากขึ้น เธอพยายามหนีจากวงพิธีด้วยความดุร้าย
"ข้าจะไม่ยอมถูกทำลายง่าย ๆ!" ยายทองย้อยตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ไม่เหมือนมนุษย์ มือผอมแห้งของเธอพยายามจะฉีกวงเชือกที่หมอผีปานใช้กั้นวงพิธี
หมอผีปาน รู้ดีว่าช่วงเวลานี้สำคัญที่สุด เขาเพิ่มแรงสวดคาถา ใช้เครื่องรางของขลังประจำตระกูลที่สืบทอดกันมานานในการปิดผนึกพลังชั่วร้ายของปอบลงในโมงข้อง แสงจากเทียนและควันธูปที่ปกคลุมบรรยากาศทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดดูยิ่งลึกลับและน่ากลัว
ในที่สุด ร่างของยายทองย้อยก็เริ่มอ่อนแรงลง ความดุร้ายค่อย ๆ หายไป ดวงตาที่เคยเรืองแสงแดงก็เปลี่ยนกลับมาเป็นตาหญิงชราที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
"ข้า...ขอโทษ...ข้าไม่อยากเป็นแบบนี้..." ยายทองย้อยเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเมื่อครู่กลับคืนสู่ความเศร้าโศก น้ำตาของเธอไหลลงแก้ม แต่ก็สายเกินไปแล้ว
หมอผีปานสวดคาถาสุดท้าย ก่อนจะกดโมงข้องลงบนร่างของยายทองย้อย แสงวาบขึ้นจากโมงข้อง ขณะที่จิตวิญญาณของปอบถูกดูดเข้าไปในโมงข้อง เสียงของยายทองย้อยเงียบหายไปในความมืด ร่างของเธอนิ่งสนิท
ชาวบ้านที่เฝ้าดูอยู่พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าพวกเขาจะปลอดภัยจากปอบแล้ว แต่รอยร้าวแห่งความหวาดกลัวก็ยังคงอยู่ในจิตใจทุกคน ไม่มีใครพูดอะไร แต่ทุกคนรู้ดีว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานไปอีกนานในหมู่บ้าน
น้อย ยืนมองร่างไร้ชีวิตของยายทองย้อย เขารู้สึกเศร้าภายในใจ แม้ว่าเธอจะเป็นปอบ แต่เธอก็เคยเป็นเพียงหญิงชราที่อยู่ข้างบ้านของเขา ผู้ที่เคยทักทายด้วยรอยยิ้มในวันธรรมดา
"เราทำดีที่สุดแล้ว" หมอผีปานเดินเข้ามาพูดกับน้อย พร้อมกับวางมือบนไหล่ของเขา "ปอบตัวนี้ได้จากไปแล้ว แต่ความหวาดกลัวนี้จะยังอยู่กับหมู่บ้านไปอีกนาน"
หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เคยเงียบสงบกลับถูกปกคลุมด้วยความลึกลับอีกครั้ง แม้ว่าชาวบ้านจะรู้สึกโล่งใจ แต่ทุกคนก็ยังคงระแวงว่าอาจมีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในความมืดที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็น
นี่คือจุดจบของ ยายทองย้อย หญิงชราผู้กลายเป็นปอบ แต่ความหวาดกลัวที่เธอทิ้งไว้ในหมู่บ้าน จะยังคงอยู่ตลอดไป...
#เรื่องเล่าผี #ตำนานปอบ #นิทานผี
เยี่ยมชม
youtube.com
ตำนานปอบเฒ่า 😱 เปิดโปงความจริงสุดสยองที่คุณไม่เคยรู้
ตำนานปอบเฒ่า 😱 เปิดโปงความจริงสุดสยองที่คุณไม่เคยรู้ | เต๋อพาเที่ยว terofficial#เรื่องเล่าผี #ตำนานปอบ #นิทานผีกดปุ่ม Super Thanks เพื่อให้กำลังใจ การทำซับไ…
เรื่องเล่า
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย