บทสรุปการเยือนทำเนียบขาวล่าสุดของ “เซเลนสกี”
จบลงแล้วด้วย “ความล้มเหลว” ไม่เป็นดั่งใจ
ตอนนี้เซเลนสกียังอยู่ที่สหรัฐฯ ยังไม่เดินทางกลับ (รอพบทรัมป์อยู่ในตอนที่เขียนข่าวนี้) แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าผลลัพธ์โดยรวมเรียกได้ว่าเป็นความล้มเหลว “แผนแห่งชัยชนะ” ที่นำมาเสนอไบเดนก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะอย่างไรต่อ และตามรายงานของสื่ออเมริกัน เรียกแผนของเซเลนสกีดังกล่าวว่าเป็นเพียงการ “เอาของเดิมมาปัดฝุ่น” ตามที่เขาเคยพูดประกาศตามหน้าสื่อหลายครั้งหลายครา
โดยภาพรวมแล้วแผนชัยชนะที่มั่นหมายไว้นี้ยังไม่ได้ถูกบรรจุเพื่อนำไปเสนอต่อเลย การเข้าพบกับไบเดนของเซเลนสกี สื่ออเมริกันเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญมากแล้วนัก มีภาพข่าวไม่เยอะมากเหมือนตอนเขามาแรกๆ หลังเกิดสงครามในยูเครน และตอนนั้นได้รับการต้อนรับอย่างดีเหมือนแขกคนสำคัญระดับชาติ อย่างไรก็ตามมารอบนี้ไบเดนยังมีน้ำใจอยู่บ้างอนุมัติให้เงินช่วยเหลือยูเครนส่วนที่สามารถให้ได้ เซเลนสกีจึงได้เงินติดตัวกลับไปจำนวนหนึ่ง
การเจอกันครั้งล่าสุดของ “ไบเดน” กับ “เซเลนสกี” ที่ทำเนียบขาว เครดิตภาพ: EPA-EFE/REX/Shutterstock
หลังจากนั้นเซเลนสกีก็มีเข้าพบคุยกับ “แฮร์ริส” ตัวแทนของฝั่งเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะถึงนี้ และอาการของเธอก็ดูเหมือน “ขอไปที” (วุ่นอยู่กับการเลือกตั้งอยู่) ตอบเซเลนสกีไปอย่างรวดเร็วว่าไม่สนับสนุนแผนยุติสงครามของทรัมป์ (ยอมยกดินแดนให้รัสเซียบางส่วนไปเลย) จากนั้นเธอก็เดินลงจากโพเดียมรีบแจ้นไปเลยจากการแถลงข่าวโดยไม่ตอบคำถามของนักข่าวใดๆ – อ้างอิง: [1]
ลองดูคลิปวิดีโอของทั้งสองคนตอนยืนแถลงข่าวตามลิงก์ด้านล่างนี้
ปัญหาถกเถียงเรื่องที่จะขอไฟเขียวให้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงเข้าไปในรัสเซียก็ถูกละเลยเช่นกัน ในทางกลับกันเพนตากอนตกลงที่จะส่งอาวุธหายากตัวหนึ่งไปช่วยยังยูเครน นั่นคือจรวดปล่อยทางอากาศ JSOW (Joint Standoff Weapon) ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่าจรวดตัวนี้มีน้อย และในไม่ช้าเคียฟอาจไม่มีเครื่องบินรบ F-16 พร้อมสำหรับระเบิดตัวนี้ ทั้งในแง่ของจำนวนเครื่องและประสบการณ์นักบินที่มีอยู่ - อ้างอิง: [2][3]
อย่างไรก็ตาม “ไบเดน” ได้อนุมัติส่งเงินช่วยเหลือให้กับยูเครนส่วนที่เหลือที่เขายังให้ได้จำนวน 5.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีการจ่ายออกไปในปีหน้า แต่ทว่าไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับงบก้อนใหม่ (รอรัฐบาลหน้า) - อ้างอิง: [4]
เรื่องนี้ย่อมทำให้เซเลนสกีเริ่มวิตกกังวล คาดว่างบประมาณขาดดุลของยูเครนในปี 2025 จะอยู่ที่ 19% ของ GDP สหรัฐฯ จะไม่มีเวลาสำหรับสิ่งนี้ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านอำนาจ และภายในยุโรปเองก็กำลังเผชิญกับวิกฤตงบประมาณที่รุนแรง - อ้างอิง: [5]
ล็อบบี้ยิสต์ของยูเครนกำลังบ่นเกี่ยวกับการขาดแคลนอาวุธอย่างหนัก แต่ฝ่ายตะวันตกกำลังชี้ให้เห็นถึงปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือการขาดแคลนทหารและการระดมพล และในจำนวนผู้ที่ถูกจับและส่งไปที่แนวหน้า 50-70% เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสู้รบต่อไม่ได้ภายในไม่กี่วัน มีทหารที่มีประสบการณ์เหลืออยู่เพียงไม่กี่คน และระดับการฝึกฝนและขวัญกำลังใจของทหารที่ระดมพลนั้นต่ำมาก - อ้างอิง: [6]
เครดิตภาพ: Valentyn Ogirenko / Reuters
หลังจากความล้มเหลวในทำเนียบขาว เซเลนสกีก็เลยรีบต้องจัดการประชุมกับ “ทรัมป์” ทันที โดยหวังว่าจะสามารถตกลงบางอย่างกับเขาได้ จริงอยู่ที่การทะเลาะกับพรรครีพับลิกันก่อนหน้านี้ไม่ส่งผลดีต่อเขาเลย ตอนนี้เขาจะต้องรีบเอาใจทรัมป์แล้ว แม้ว่าเขาจะตั้งใจที่จะเจรจาโดยไม่คำนึงถึงความปรารถนาของเซเลนสกีก็ตาม - อ้างอิง: [7]
เรื่องราวก่อนหน้านี้คือ มีความตึงเครียดระหว่างทรัมป์และเซเลนสกีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ เซเลนสกีบอกกับ The New Yorker เมื่อวันที่ 22 กันยายนว่า วุฒิสมาชิก เจ.ดี. แวนซ์ (คู่ชิงรอง ปธน. ของทรัมป์) เป็น “พวกหัวรุนแรง” ค้านความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่อยูเครน และตัวทรัมป์เองก็ไม่รู้ว่าจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้อย่างไร ทรัมป์ตอบโต้ด้วยการกล่าวว่าเซเลนสกีกำลัง “เหน็บแนมตัวเขา” และไม่อยากจะคุยดีลอะไรด้วย (เพราะปากเสียใส่เขา) - อ้างอิง: [8]
โดยทรัมป์จะจัดการประชุมกับเซเลนสกีที่ทรัมป์ทาวเวอร์ในเวลา 9.45 น. ของวันที่ 27 กันยายน 2024 ตามเวลาท้องถิ่น
เรียบเรียงโดย Right Style
27th Sep 2024
- ■แหล่งข่าวและข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Economist>
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
