29 ก.ย. เวลา 12:15 • กีฬา

เชื่อใจแฟนจนหมดตัว เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ชีวิตตกต่ำจนไม่เหลือทรัพย์สิน

เรื่องความรักกับการเงิน ไม่เข้าใครออกใคร ถ้าหากไม่ระวังตัว ทรัพย์สินที่คุณสั่งสมมา อาจหายวับไปเลยก็ได้ เหมือนอย่างเคสของเอ็มมานูเอล เอบูเอ้
1
เอบูเอ้ เป็นแบ็กขวาชาวไอวอรีโคสต์ ที่เล่นอยู่กับอาร์เซน่อลมา 7 ฤดูกาล ผลงานเด่นที่สุดของเขา คือลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2006 แบบครบ 90 นาทีเต็ม และเป็นคนเรียกฟรีคิก ให้ทีมปืนใหญ่ในจังหวะขึ้นนำ 1-0 ด้วย
1
หลังแยกทางกับอาร์เซน่อลในปี 2011 เขาย้ายไปอยู่กาลาตาซารายอีก 4 ฤดูกาล ได้แชมป์ตุรกี 3 สมัย ถือเป็นนักเตะที่มีผลงานไม่เลวเลยทีเดียว
ด้วยผลงานที่สม่ำเสมอ มีการประเมินว่า ในช่วงที่เล่นในลีกอังกฤษ กับลีกตุรกี เอบูเอ้ ทำรายได้รวมทั้งสิ้นทะลุ 27 ล้านปอนด์ (1,200 ล้านบาท)
คือหาเงินได้มากขนาดนั้น ชีวิตของเขาก็น่าจะมีความสุขดี ควรจะสบายไปตลอดชีวิต หาเงินได้พันล้านแบบนั้น ไม่ต้องทำงานอะไรอีกเลย ก็น่าจะอยู่ได้
ขณะที่เรื่องชีวิตส่วนตัว เอบูเอ้ แต่งงานเร็วมาก ด้วยวัยแค่ 20 ปีเท่านั้น กับผู้หญิงชาวเบลเยี่ยมที่อายุมากกว่า ชื่อว่า ออเรลี่ เบอร์ทรานด์ โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน
เอบูเอ้ยอมรับว่า เขาเป็นคนไม่มีการศึกษา ชีวิตนี้รู้จักแต่ฟุตบอลอย่างเดียว ดังนั้นจึงเชื่อใจภรรยาให้จัดการเรื่องเงิน และเอกสารทุกอย่าง
เอบูเอ้เล่าว่า "ผมโอนเงินแทบทั้งหมดให้กับภรรยา เพื่อให้เธอเอาไว้จัดการครอบครัว และเลี้ยงดูลูกๆ อย่างตอนผมอยู่ตุรกี ทำเงินได้ 8 ล้านยูโร ผมส่งให้ครอบครัว 7 ล้านยูโร"
"คือภรรยาผมยื่นเอกสารไหนมาให้เซ็น ผมก็เซ็นหมด โดยไม่คิดอะไรเลย"
"ทำไมผมไม่คิดน่ะหรอ? ก็เพราะเธอคือภรรยาของผมไง"
เอบูเอ้ ทำตามที่ภรรยาสั่งทุกอย่าง โดยไม่ตั้งข้อสงสัย ครั้งหนึ่งตอนอยู่ยังเล่นอยู่กับอาร์เซน่อล ภรรยาพาเจ้าหน้าที่การเงินมาจากธนาคาร ไปหาเขาที่สนามซ้อมลอนดอนโคลนีย์ แล้วเรียกเอบูเอ้มาเซ็นเอกสาร 1 แผ่นแล้วก็กลับ ซึ่งบอกให้เซ็นก็เซ็น โดยไม่คิดระแวงสงสัยใดๆ เลย
2
แต่ก็มีหนึ่งเรื่องที่ทำให้เอบูเอ้ รู้สึกน้อยใจบ้าง คือตอนที่เขาเล่นอยู่ในตุรกี ภรรยาที่อาศัยอยู่ในลอนดอนกับลูกๆ ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย มีการไปพักร้อน ไปปาร์ตี้ ขับรถซูเปอร์คาร์ ชีวิตหรูหราดูดีมาก ทั้งๆ ที่เขาทำงานหนัก และอยู่ห่างไกลจากครอบครัวขนาดนั้น
ในปี 2015 หลังจากหมดสัญญากับกาลาตาซาราย เอบูเอ้เป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ ก่อนที่จะเซ็นสัญญาฟรี กับซันเดอร์แลนด์ ทีมในพรีเมียร์ลีก เป็นเวลา 1 ปี ในเดือนมีนาคม 2016 เขาได้โอกาสกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้ง
แต่ดราม่าก็เริ่มบังเกิดจากจุดนี้ เพราะหลังจากลงซ้อมที่ซันเดอร์แลนด์ได้แค่ประมาณ 2 สัปดาห์ ยังไม่ทันได้เล่นเลยสักนัด เอบูเอ้ โดนเซบาสเตียน บอสโซ เอเยนต์ส่วนตัว ฟ้องกับทางฟีฟ่า ว่าเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง
ฟีฟ่า เห็นว่าเอบูเอ้ ยังไม่จ่ายเงินให้เอเยนต์จริงๆ เลยสั่งแบน 1 ปี ห้ามข้องเกี่ยวกับฟุตบอล นั่นทำให้ซันเดอร์แลนด์ ฉีกสัญญาเอบูเอ้ทันที
1
และนั่นคือวาระสุดท้าย ของเอบูเอ้ ที่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ในวัย 32 ปี ต้องแขวนสตั๊ดไปเลยแบบงงๆ เพราะโดนฟีฟ่าแบน เส้นทางนักเตะจบสิ้นไปเลย ณ ตรงนั้น
สิ่งที่เอบูเอ้มึนงงก็คือ ทำไมภรรยาที่รับผิดชอบเรื่องการเงิน ทำไมไม่ยอมจ่ายค่าจ้างให้กับเอเยนต์ จนต้องมาโดนฟ้องร้อง นำไปสู่การแบนกันแบบนี้
ความซวยของเอบูเอ้ ยังไม่จบเพียงแค่นั้น แค่โดนแบนจากฟุตบอลก็แย่อยู่แล้ว เขายังมาโดนภรรยาขอหย่าขาด อย่างกะทันหัน
ประเด็นคือ หลังจากหย่ากันเสร็จ ปกติแล้วทรัพย์สินก็ต้องแบ่งกันครึ่งครึ่ง แต่สิ่งที่เอบูเอ้ไม่รู้เรื่องเลยก็คือ ระหว่างที่เขาแข่งฟุตบอลอยู่นั้น ภรรยาค่อยๆ โยกย้าย เอาเงินทอง และอสังหาริมทรัพย์แทบทั้งหมด เปลี่ยนไปเป็นของเธอเรียบร้อยแล้ว
เอบูเอ้เชื่อใจภรรยา ยอมให้ทำเอกสารทุกอย่าง พอรู้ตัวอีกที เขาก็ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีเงิน ไม่มีสินทรัพย์อะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดตกเป็นของออเรลี่ เบอร์ทรานด์ ไปเรียบร้อย
และที่เลวร้ายที่สุด คือเมื่อเขาไม่มีเงิน แค่ดูแลตัวเองยังยาก ทำให้ศาลไม่ให้สิทธิ์เขาในการเป็นผู้ปกครองของลูกๆ ทั้ง 3 คน ได้แก่ คลาร่า 14 ปี, มาเอว่า 12 ปี และ มาธิส 9 ปี
เอบูเอ้ กล่าวด้วยความคับแค้นใจว่า "บ้านของผมแท้ๆ ผมเหนื่อยยากเพื่อซื้อมันมา แต่ตอนนี้ผมต้องกลายมาเป็นไหว้วานเธอเพื่อขอให้ผมได้อยู่ต่อ ผมจะขอสู้อย่างเต็มที่เพื่อเอาบ้านของผมคืนมา เพราะมันไม่ยุติธรรมเลย"
"ปัญหาที่ผมมีกับฟีฟ่า เพราะคนที่ดูแลผมเรื่องเงิน กลับไม่ยอมจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย คือเธอเป็นภรรยาของผมแท้ๆ เป็นคนที่ควรห่วงใย เอาใจใส่ผม แต่เพราะเธอไม่ยอมไปจ่ายเงินให้เอเยนต์ ผมเลยโดนฟีฟ่าแบนแบบนี้"
"ลูกผมก็ไม่ได้เจอ โทรคุยกันก็ไม่ได้ เพราะอดีตภรรยา บอกว่าอย่าโทรหาผม ไม่รู้จะบีบคั้นกดดันกันไปถึงไหน"
ในการสู้คดี เอบูเอ้ ก็มีปัญหาอีก เพราะเขาไม่มีเงินจ้างทนายฝีมือเก่งๆ มาว่าความ
เงินของเขาคือไม่เหลืออีกแล้ว เขามีงานเสริมเล็กน้อย ที่ทางสมาคมนักเตะอาชีพอังกฤษ (PFA) ช่วยหาให้ แต่ก็ไม่ใช่จำนวนที่มากมายอะไร
ในช่วงที่กำลังสู้คดี เขาต้องระหกระเหินไปนอนตามโรงแรม ตอนจะดูอาร์เซน่อลลงแข่ง เขาก็ต้องไปนั่งดูบอลตามผับ หรือ จะเดินทางไปไหน ก็ไม่มีรถส่วนตัว ได้แต่ขึ้นรถเมล์
เอบูเอ้เล่าว่า "บางครั้งตอนผมนั่งรถเมล์ มีคนทักว่า ผมหน้าเหมือนเอบูเอ้ ผมก็ได้แต่ตอบไปว่า จำผิดคนแล้ว เพราะผมอับอาย ที่ทำให้คนอื่นเห็นว่าชีวิตผมตกต่ำแบบนี้" คือพูดตรงๆ นี่เป็นช่วงที่เขาหมดสภาพอย่างแท้จริง
การสู้คดีกับภรรยาสิ้นสุดลง บทสรุปคือ เอบูเอ้พ่ายแพ้ สินทรัพย์ ทั้งอสังหาฯ ทุกแห่งที่ลอนดอน รถยนต์ทุกคัน และเงินสดทั้งหมดตกเป็นของภรรยา ส่วนตัวเขาได้มาแค่บ้าน 2 หลัง ในไอวอรีโคสต์ กับ กาน่าเท่านั้น
จากนักบอลที่ได้รายได้มหาศาล พริบตาเดียวกลายเป็นยาจก โดนฉกชิงทรัพย์สินไปหมด ตัวเอบูเอ้ก็ทำใจได้ยาก
ความคับแค้นใจ ที่โดนแย่งชิงทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ทำงานหนักมาเป็นสิบปี ทั้งเงิน ทั้งลูก ทำให้แวบหนึ่ง เอบูเอ้ยอมรับว่า เขามีโอกาสจะคิดสั้นได้เหมือนกัน
เอบูเอ้เล่าว่า "ผมกับสตีฟ โกฮูรี่ เราลงเล่นให้ทีมชาติไอวอรีโคสต์ด้วยกันหลายนัด แล้วมีช่วงหนึ่งที่เขาเล่นอยู่กับสโมสรวีแกน เราก็ไปทำนี่ ทำนั่นด้วยกันตลอด"
"แต่จากนั้น สตีฟก็ย้ายไปเยอรมัน แล้วไปเล่นในลีกต่ำลงเรื่อยๆ ผมคิดว่าเขาคงเจอความเครียดหลายอย่าง สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ขับรถพุ่งลงแม่น้ำไรน์ ก่อนจะมีคนไปพบศพในหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง"
"พอชีวิตผมมีปัญหา ผมได้แต่บอกตัวเองว่า จะไม่ทำแบบเขา จะไม่ทำแบบเขา ผมภาวนากับพระเจ้าทุกวัน ให้ช่วยนำทางผมด้วย อย่าให้ผมตัดสินใจ เลือกปลิดชีวิตตัวเอง"
ท้ายที่สุด เอบูเอ้ ไม่มีทางเหลืออีกแล้ว เขาไม่มีสินทรัพย์ที่อังกฤษ ฟุตบอลก็ไม่มีทีมไหนจ้างอีกแล้ว สุดท้ายตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่ไอวอรีโคสต์บ้านเกิด และเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ที่นั่นแทน
ถ้าคิดในแง่ดี เอบูเอ้ ก็ไม่ถึงกับล้มละลาย อย่างน้อยก็มีบ้านให้อยู่อาศัย แต่ต้องยอมทำใจว่าทรัพย์สินทั้งหมดที่หามาได้ กลายเป็นของอดีตภรรยาไปแล้ว
ณ เวลานี้ ปี 2024 เอบูเอ้ เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ไปแล้ว เขามีความรักครั้งใหม่ กับสาวชาวไอวอรีโคสต์ ชื่อ สเตฟานี่ โบเด้ ซึ่งเป็นแฟนเก่าในสมัยวัยรุ่น
เอบูเอ้บอกว่า "เธอคนนี้รักผม ในวันที่ผมยังไม่มีอะไรเลย สเตฟานี่รู้จักผมตอนเป็นนักเตะเยาวชน และยังไม่มีแนวโน้มด้วยซ้ำว่าจะได้ไปยุโรป แต่เธอก็ยินดีที่จะรับรักผม ดังนั้นเมื่อวันนี้ เส้นทางของเราโคจรมาเจอกันอีกครั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี"
หลังจากกลับมาคบกันไม่นานนัก ทั้งคู่ก็แต่งงานกันในที่สุด
ขณะที่เรื่องการงาน เอบูเอ้ ประกอบอาชีพเป็นแมวมองให้สโมสรกาลาตาซาราย เฟ้นหานักเตะในโซนทวีปแอฟริกา
คือเอบูเอ้ก็ยังอยู่ในวงการฟุตบอล ไม่ได้หายไปไหน สามารถใช้ทักษะที่ตัวเองเคยมีในการหาดาวรุ่งพรสวรรค์ขึ้นมาประดับวงการได้
เอบูเอ้ เล่าให้ฟังเป็นการสรุปว่า "ตอนนี้ผมอาศัยอยู่ในไอวอรีโคสต์ และทำงานเกี่ยวกับฟุตบอลเยาวชนอยู่ ส่วนชีวิตในแง่มุมอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา ครอบครัวผมโอเค ผมมีสเตฟานี่อยู่เคียงข้าง สุดท้ายต้องขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ในเรื่องนี้"
เรื่องราวของเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ก็จบลงตรงนี้ ใครจะไปคิดว่า อดีตฟูลแบ็กที่มีชื่อเสียง ที่ทำรายได้ตลอดอาชีพในมากกว่าพันล้านบาท แต่สุดท้ายกลับโดนแย่งชิงทรัพย์สินไปเกือบหมดจนแทบไม่เหลืออะไรเลย
เคสนี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่ทำให้เราได้เห็นว่า เรื่องเงิน เรื่องทอง ต้องมีความระมัดระวังมากจริงๆ
จริงๆ การเชื่อใจคนใกล้ตัวให้ดูแล ทรัพย์สินเงินทอง ไม่ใช่เรื่องผิด หลายๆ ครอบครัวก็ทำกัน อย่างไรก็ตาม ก็ควรมีความรู้เรื่องการเงินติดตัวไว้บ้าง เอกสารอะไรก็อ่านเยอะๆ อย่าเซ็นไปส่งเดช
เพราะถ้าทำงานหนักแทบตาย แต่สุดท้ายเงินไม่ได้ แถมยังติดหนี้ติดสินไม่รู้ตัว มันก็ไม่รู้จะบรรยายเป็นคำพูดได้อย่างไรจริงๆ
1
โฆษณา