29 ก.ย. เวลา 04:09 • หนังสือ

หยุดเสพติดความยุ่ง! : อยากทำงานให้ปัง กับ 3 เสาหลักแห่ง Productivity ที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ

ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและภาระงานที่ไม่มีที่สิ้นสุด การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกลายเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน แต่การทำงานหนักเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด
Chris Bailey ผู้เขียนหนังสือ “The Productivity Project” ได้ทุ่มเทเวลาหนึ่งปีเต็มเพื่อค้นหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงสุด ผ่านการทดลองและวิจัยอย่างเข้มข้น บทความนี้จะนำเสนอแนวคิดและเทคนิคที่สำคัญจากงานของ Bailey ที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สามเสาหลักแห่ง Productivity
Bailey ค้นพบว่าความแตกต่างระหว่างวันที่มีประสิทธิภาพและวันที่ไร้ประสิทธิภาพนั้น ขึ้นอยู่กับการจัดการองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ เวลา พลังงาน และความใส่ใจ ซึ่งเป็นเสมือนเสาหลักที่ค้ำจุน Productivity ส่วนบุคคลของเรา
1. การจัดการเวลา: ใช้เวลาให้คุ้มค่า
การจัดการเวลาที่ดีไม่ได้หมายถึงการทำงานตลอดเวลา แต่หมายถึงการใช้เวลาอย่างมีเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ Bailey เสนอแนวคิดการแบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 หมวดหมู่:
  • 1.
    คุณค่าที่มีความหมายต่อตัวเราเอง: กิจกรรมที่สร้างความหมายให้ชีวิต เช่น การใช้เวลากับครอบครัว การออกกำลังกาย หรือการทำงานอดิเรก
  • 2.
    งานที่มีผลกระทบสูงสุด: หน้าที่สำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในอาชีพการงานมากที่สุด
  • 3.
    อื่นๆ: กิจกรรมที่มีผลกระทบต่ำและให้ผลตอบแทนต่ำ
เพื่อให้เข้าใจการใช้เวลาของตนเองอย่างแท้จริง Bailey แนะนำให้ทำ “บันทึกเวลา (Time Log)” เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ โดยจดบันทึกกิจกรรมที่ทำพร้อมเวลาที่ใช้ไป วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมการใช้เวลาและสามารถปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
2. การจัดการพลังงาน: ทำงานตามจังหวะชีวิต
พลังงานและความใส่ใจของเรามีจังหวะที่ขึ้นลงตามธรรมชาติในแต่ละวัน แทนที่จะฝืนตัวเองให้ทำงานอย่างหนักตลอดเวลา Bailey แนะนำให้ค้นหา “Biological Prime Times” คือช่วงเวลาที่เรามีพลังงานและสมาธิสูงสุดโดยธรรมชาติ
วิธีค้นหา Biological Prime Times:
  • 1.
    งดใช้สารกระตุ้น เช่น กาแฟ เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
  • 2.
    รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง
  • 3.
    เข้านอนแต่หัวค่ำและตื่นนอนโดยไม่ใช้นาฬิกาปลุก
  • 4.
    ตั้งนาฬิกาปลุกให้ดังทุกชั่วโมงที่ตื่นอยู่
  • 5.
    เมื่อนาฬิกาปลุกดัง ให้ประเมินความพร้อมในการทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง
  • 6.
    ให้คะแนนความเต็มใจในการทำงานนั้นจาก 1 ถึง 10
  • 7.
    บันทึกคะแนนไว้
หลังจากหนึ่งสัปดาห์ ให้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาช่วงเวลา 1-3 ชั่วโมงที่คุณมีพลังงานและความใส่ใจสูงอย่างสม่ำเสมอ นี่คือช่วง Biological Prime Times ของคุณ
เมื่อพบช่วง Biological Prime Times แล้ว ให้จัดตารางการทำงานใหม่โดยกำหนดให้งานสำคัญและต้องใช้สมาธิสูงอยู่ในช่วงเวลานี้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง
3. การจัดการความใส่ใจ: โฟกัสอย่างลึกซึ้ง
ความใส่ใจเป็นทรัพยากรที่มีค่าและจำกัด การจัดการความใส่ใจที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าสู่สภาวะโฟลว์ (Flow State) ซึ่งเป็นสภาวะที่คุณมีสมาธิจดจ่อกับงานอย่างเต็มที่และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เทคนิคในการจัดการความใส่ใจ:
  • 1.
    กำจัดสิ่งรบกวน: ปิดการแจ้งเตือนบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และหาพื้นที่ทำงานที่เงียบสงบ
  • 2.
    ใช้เทคนิค Pomodoro: ทำงานอย่างเข้มข้นเป็นช่วงๆ ละ 25 นาที สลับกับการพัก 5 นาที
  • 3.
    ฝึกสมาธิ: การทำสมาธิสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจ่อ
  • 4.
    จัดลำดับความสำคัญของงาน: ทำงานที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลาที่คุณมีความใส่ใจสูงสุด
การประยุกต์ใช้แนวคิดเพื่อเพิ่ม Productivity
การนำแนวคิดของ Bailey มาใช้ในชีวิตประจำวันอาจต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าอย่างยิ่ง ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
  • 1.
    ทำบันทึกเวลาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อเข้าใจรูปแบบการใช้เวลาของคุณ
  • 2.
    ระบุกิจกรรมที่มีความหมายต่อตัวคุณและงานที่มีผลกระทบสูงสุดของคุณ
  • 3.
    ค้นหาช่วง Biological Prime Times ของคุณ
  • 4.
    จัดตารางใหม่โดยกำหนดให้งานสำคัญอยู่ในช่วง Biological Prime Times ของคุณ
  • 5.
    ฝึกฝนเทคนิคการจัดการความใส่ใจ
  • 6.
    ทบทวนและปรับปรุงวิธีการทำงานของคุณอย่างสม่ำเสมอ
ที่สำคัญที่สุด จงจำไว้ว่า Productivity ไม่ได้วัดจากความยุ่งของคุณ แต่วัดจากสิ่งที่คุณทำสำเร็จ การใช้เวลา พลังงาน และความใส่ใจอย่างมีเป้าหมายจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้มากกว่าที่คิด
การเพิ่ม Productivity เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถพัฒนาวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้มีเวลาและพลังงานเหลือสำหรับสิ่งสำคัญอื่นๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว งานอดิเรก หรือการพักผ่อน
หนังสือ “The Productivity Project” ของ Chris Bailey เป็นแหล่งข้อมูลที่ล้ำค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและชีวิต บทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแนวคิดที่นำเสนอในหนังสือ หากคุณสนใจที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม แนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้เพื่อค้นพบเทคนิคและแนวทางอื่นๆ ที่จะช่วยยกระดับ Productivity ของคุณไปอีกขั้น
References :
หนังสือ The Productivity Project: Accomplishing More by Managing Your Time, Attention, and Energy โดย Chris Bailey
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา