- Spotify: มีบริการแบบฟรีที่ผู้ใช้สามารถฟังเพลงได้โดยมีโฆษณาคั่น ซึ่งทำให้มีฐานผู้ใช้จำนวนมากและรายได้จากโฆษณาเพิ่มเติม แต่การจ่ายเงินต่อการสตรีมจะน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Apple Music เนื่องจากมีผู้ใช้ฟรีเป็นจำนวนมาก
- Apple Music: มีเพียงบริการแบบชำระเงินเท่านั้น ทำให้รายได้ต่อการสตรีมสูงกว่าเล็กน้อย นอกจากนี้ Apple Music มักจะมีข้อตกลงกับศิลปินและค่ายเพลงใหญ่ๆ โดยตรง ทำให้ศิลปินอาจได้รับส่วนแบ่งที่ดีกว่าในบางกรณี
====
สรุป
Spotify และ Apple Music ใช้โมเดลธุรกิจที่แตกต่างกันในบางด้าน แต่เป้าหมายหลักของทั้งสองคือการสร้างประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้และสร้างรายได้ให้กับศิลปินและค่ายเพลง แม้ว่าศิลปินจะได้รับเงินต่อการสตรีมที่น้อยมาก แต่บริการสตรีมมิ่งก็ยังคงเป็นช่องทางที่สำคัญในการเผยแพร่ผลงานและสร้างฐานแฟนคลับได้ทั่วโลก การพัฒนาระบบการจ่ายเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใสยังคงเป็นความท้าทายที่สำคัญของอุตสาหกรรมดนตรีในยุคดิจิทัลนี้