29 ก.ย. เวลา 01:44 • ความคิดเห็น
เมื่อมาทบทวน เรื่องราวของคำว่า เกิดมาอาศัยกายมนุษย์ มันมีอยู่สองอย่าง ที่ตรงชำระสะสางเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว ที่สะสมมา เมื่อมีชีวิตก็ต้องไปทำมาหากิน ไปหาเราน้ำเลือดน้ำหนองเค้ามากิน น้ำเลือดน้ำหนองของผู้มีกรรม กรรมที่หล่อเลี้ยงเรือนกายมันก็สีดำ เป็นของเน่าของเหม็น อาหารที่ว่าดี ..หากตั้งเอาไว้เฉย มันก็บูดเน่าเป็นธรรมชาติ ของบูดของเน่าก็มีหนอนมีเชื้อโรคอะไรต่างๆมาเกาะกิน
แล้วที่ว่า ของดีๆ ที่เรากินเข้าไป อุตส่าห์หาของดีๆมาบำรุงกาย มันก็ไปบูดไปเน่า เป็นน้ำเลือดน้ำหนองทล่อเลื้องกาย หล่อเลี้ยงน้ำเลือดน้ำหนอง ที่เป็นธาตุของกรรม
สัตว์โลกเกิดมามีชีวิต ก็ต้องไปหาน้ำเลือดน้ำหนองมากิน เหมือนยุงเห็บหมัดตัวเรือดตัวไร ตัวปลิว มันก็หาน้ำเลือดน้ำหนองมากิน มันก็มีสิ่งหนึ่ง ที่มากิน ..น้ำเลือดน้ำหนองในเรือนกาย เค้าเรียกว่า ตัวกินเลือดกินเนื้อ มันก็เกาะกินน้ำเลือดน้ำหนองภายในกาย ก็ทำให่กายนั้น เจ็บป่วย ด้วยกายที่เป็นเนื้อของกรรม กินสะสมไปทุกวันๆ มันก็ไปเกาะกินตามเส้นเอ็นต่างๆ ส่วนต่างๆของกาย กายก็แก่เฒ่าชราไป เยี่ยวย่นเรื่อยๆ ด้วยน้ำเลือดน้ำหนองที่เราไปกินเค้า .เค้าก็มากินกายเราเหมือนกัน
เมื่อเรารู้ว่า เราไปเอาน้ำเลือดน้ำหนอง ที่เป็นกรรม เป็นธาตุของสัตว์มีกรรม เอามาบำรุงกายเรา ..เราก็เอาน้ำเลือดน้ำหนองทั้งกายเราที่ประกอบด้วยเนื้อของสัตว์มีกรรม เราก็นำมาสร้างเรื่องราวดี สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ..ให้กายนี้มีบุญ กายมีบุญ น้ำเลือดน้ำหนองนั้นก็เป็นสีแดง ..ผู้มีมากัดกินน้ำเลือดน้ำหนองภายก็กัดกินน้ำเลือดน้ำหนองสีแดงๆ กินอิ่มก็หลุดล่วงออกไป
เมื่อดูชีวิต มันก็มีเรื่องราวเหล่านี้ เราก็เลือก .เลือกที่จะแบ่งปันเวลา นำกายนี้ มาสร้างบุญกุศลให่เกิดขึ้น ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ฟอกกายฟอกจิต ให้กายมีบุญหล่อเลี้ยงกาย
แล้วยิ่งตอนนี้ ..เค้าว่า จะมีการเก็บจิตมนุษย์ มากมายก่ายกอง จิตที่หลุดออกมาดินแดนหฤโหด ที่เค้าปล่อยให้มาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาก็ไม่ใข้กายมนุษย์ให้เกิดเป็นคุณ เกิดมาแค่เพลิดเพลินเรื่องกินกับนอน ไม่ได้แก้ไขนิสัยสันดาน เค้าก็จะเก็บลงนรก เก็บด้วยให้มนุษย์เข่นฆ่า ทำลายกันเอง ทั้งสงคราม ภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ จิตมาอาศัยกายมนุษย์ก็ยากที่จะหาความสุข ตามที่เค้าให้มาอาศัยชั่วขณะหนึ่ง แล้วจากลา ..จิตที่มาอาศัยกายมนุษย์ นั้นได้อะไรไป จากโลกนี้ไป เอาอะไรไป เอาแต่สีดำๆไปกับจิต ..ออกจากเรือนกาย
เรื่องตัวกินเลือดกินเนื้อ ..พระที่เรานับถือ วันหนึ่ง ท่านก็เอาไขควง มาค่อยๆ งัดขูดไม้ที่เตียง ที่ท่านนอน แล้วก็หยิบใส่กระป๋อง พูดว่า นี่ก็คน .ใส่ลงกระป๋อง แล้วท่านก็บอกให้เราแบมือมา แล้วหยิบใส่ที่มือเรา เราก็มองดูเห็นเป็น เหมือนเม็ดอิฐเม็ดทราย ก็ยังนึกในใจ ว่าครูบาอาจารย์ท่านหลงมั้ยนี้ ผ่านไปอีกอาทิตย์หนึ่ง ท่านก็หยิบใส่มือเรา คราวนี้ เราก็ค่อยๆดู แล้วมันก็กระโดด ออกจากมือ คราวนี้แหละ เราก็เลยลงมือขุดแคะบ้าง มันมีหลายแบบ ตัวดำตัวขาวๆ ตัวขาวก็จะคันมาก..
เราไปเจอตาคนหนึ่ง ..คุยเรื่องนี้ ตาบอกว่า ตอนที่บวชไปกับหลวงพ่อจง ไปฉันเพล ..หลวงพ่อจงบอกให้เอาผ้าเช็ดหน้ามา แล้วท่านก็หยิบ ที่พื้นใส่ในผ้าเช็ดหน้า บอกว่า ตัวกินเลือดกินเนื้อ ..เราถามตาว่า มันอยู่ในไม้ได้หรือ ตาบอกว่า ในปูนที่เป็นผนังโบสถ์มันยังอยู่ได้เลย เค้าเรียกอีกอย่างว่า สัตว์นรก
ครั้งหนึ่งพระที่เรานับถือ ไปรักษาตัวก่อนที่ท่านจะจากไป ..ท่านบอกว่า ที่เตียงมีเยอะเลย เราก็เอามือลูบผ้า ..อ้อ..มันอยู่กันเต็มไปหมด ..ไอ้ตัวกินเลือดกินเนื้อ..เราไปกินน้ำเลือดน้ำหนองเค้าเอร็ดอร่อย เค้าก็มากินน้ำเลือดน้ำหนองในกายเราเอร็ดอร่อยบ้าง ผลัดกันกินเอร็ดอร่อย..เพราะต่างก็อยู่ในสังขารกรรม ..ที่ต้องหากินน้ำเลือดน้ำหนองมาหล่อเลี้ยงสังขารกรรม
โฆษณา